หนองคาย-ธุรกิจโทรศัพท์มือถือเลียนแบบของจีนเขาลง หลังตลาดบูมสุดขีดเมื่อช่วงกลางปีก่อน เหตุลูกค้าคนไทยจับจุดด้อยด้านคุณภาพ-ความปลอดภัยต่ำแม้ราคาถูกจูงใจ ขณะที่คนลาวเองได้หันมานิยมซื้อมือถือจากไทยแทน ส่งผลยอดขายตกวูบ อีกทั้งทางการลาวเข้มงวดการจำหน่าย ทั้งในห้างใหญ่และเขตปลอดภาษีในลาว
นายสุรชัย ดิ่งสวัสดิ์ ผู้จัดการร้านโชคชัยอิเล็คทรอนิคส์ ผู้ประกอบการจำหน่ายและบริการโทรศัพท์มือถือในจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ช่วงกลางปี 2549 เป็นช่วงที่กระแสโทรศัพท์มือถือเลียนแบบจากจีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกกลุ่มอาชีพ มีหลายรุ่น หลายฟังก์ชัน ลูกเล่นหลายอย่าง ทั้งดูหนัง ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ราคา เพราะเมื่อเปรียบเทียบตัวเครื่องรุ่นยอดนิยม อย่าง โนเกีย ตระกูล N หลายรุ่น ที่มีราคาประมาณเครื่องละหมื่นกว่าบาท แต่โทรศัพท์จีนราคาถูกกว่าเท่าตัว
ทำให้ในช่วงนั้นผู้บริโภคมีความต้องการอยากได้โทรศัพท์มือถือจีนกันมาก ส่งผลให้กลุ่มพ่อค้าหัวใสข้ามไปซื้อโทรศัพท์จีน ที่ตลาดเช้าเวียงจันทน์ ห้างซังเจียง ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหม่ของคนจีน ที่มาเปิดบริการที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) และที่เขตปลอดภาษีบริเวณสะพานมิตรภาพฝั่งลาว
นอกจากนี้ ยังมีการลักลอบนำโทรศัพท์เข้ามาจำนวนมาก จนถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุม บางรายรอดจากการตรวจค้นจับกุม ก็จะนำโทรศัพท์มือถือจีนนี้ไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่าของแท้ที่ขายในไทย
อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการหารือร่วมกันระหว่างไทยกับลาวในกรณีปัญหาดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ติดป้ายเตือนประชาชนที่ข้ามสัญจรไปมาระหว่างไทย – ลาว ไม่ให้ซื้อสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือมาเกินคนละ 1 เครื่อง ส่วนฝ่ายลาวเองก็เข้มงวดตรวจสอบการชำระภาษีของร้านค้าต่าง ๆที่นำโทรศัพท์มือถือจีนมาวางขาย จนถึงขั้นมีการกวาดล้างครั้งใหญ่ จับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายแล้วหลายราย
เมื่อผู้บริโภคซื้อโทรศัพท์มือถือจีนไปใช้แล้ว ปรากฏว่าต้องผิดหวังกับคุณภาพของเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน ประสบปัญหาหลายอย่าง ทั้งแบตเตอรี่ไม่มีคุณภาพ อุปกรณ์เสริมไม่เหมาะกับตัวเครื่อง ชาร์จไฟแบตเตอร์รี่ไม่ได้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนำโทรศัพท์ดังกล่าวให้ทางร้านซ่อม บางรายก็ตัดใจทิ้งไปเฉย ๆ ก็มี จนขณะนี้เป็นที่รู้กันของคนในท้องถิ่น จ.หนองคาย หรือจังหวัดใกล้เคียง ที่จะไม่ซื้อโทรศัพท์มือถือของจีน หรือหากมีใช้อยู่ก็จะเป็นประเภทนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวขาจร
จากการสอบถามบรรดาพ่อค้านักธุรกิจชาวลาว หรือแม้กระทั่งชาวจีนที่เป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ทราบว่ายอดขายโทรศัพท์มือถือจีนลดลงจากเดิมเป็นเท่าตัว จากที่เคยขายได้วันละประมาณ 50-100 เครื่อง/ร้าน ก็เหลืออยู่ที่วันละ 5 เครื่อง
นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือจีนในลาวขณะนี้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ด้วยการหันมาตีตลาดกลุ่มลูกค้าที่ไปเที่ยวลาวในลักษณะกรุ๊ปทัวร์มากกว่าจะเน้นนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากในแต่ละวันจะมีกรุ๊ปทัวร์เข้ามาเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าในตลาดเช้าชอปปิ้งมอลล์ ของเวียงจันทน์ ห้างซังเจียง และ เขตปลอดภาษี จำนวนมาก เฉลี่ยแล้วจะสามารถขายโทรศัพท์มือถือได้กรุ๊ปทัวร์ละไม่ต่ำกว่า 3-5 เครื่อง
รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า ที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น โนเกีย ประสบปัญหาโทรศัพท์เลียนแบบจากจีนตีตลาดเป็นอย่างมาก จึงมีการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของลาวจับกุมผู้ประกอบการในเรื่องลิขสิทธิ์ และการหลีกเลี่ยงภาษีอากร มีการปรับเป็นเงินเครื่องละ 500-2,000 บาท รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพสินค้า เครื่องหมายการค้าและเทคโนโลยี ซึ่งพบว่าโทรศัพท์มือถือจากจีนเหล่านี้จะไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพก่อนนำมาวางแผงจำหน่ายให้ลูกค้า
ผู้ประกอบการก็จะมีวิธีการหลีกเลี่ยงด้วยการนำสติกเกอร์มาติดแปะ เพื่อให้ลูกค้ามองแบบเผิน ๆ จะเข้าใจได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าและเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่า ผู้บริโภคคนไทยหันมาเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือของแท้ในไทย แม้แต่คนลาวเองก็เช่นเดียวกัน โดยพฤติกรรมของลูกค้าจะหาซื้อโทรศัพท์ที่ไม่ต้องมีลูกเล่นมากนัก แต่ทนทาน ราคาถูก ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณเครื่องละ 900-2,000 บาท เหล่านี้จะเป็นที่ต้องการของตลาดในขณะนี้