ผู้จัดการรายวัน - นายชัยรัฐ รัตนวิชัย กรรมการ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) (EWC) แจ้งรายงานผลการประชุมของคณะกรรมการบริษัทบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EWC เกี่ยวกับการนำบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท เอื้อวิทยา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2551 ซึ่งผู้ถือหุ้นของบริษัท เอื้อวิทยาจำกัด (มหาชน) ได้มติ ชะลอการนำบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากภาวะการณ์ปัจจุบันไม่เหมาะสม ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ชะลอการลงทุน ตลาดหุ้นผันผวน ค่าใช้จ่ายในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต. เพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าไม่พร้อมจะสร้างปัญหาให้แก่บริษัทและเปลี่ยนแปลงจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นดังนี้คือเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง โดยให้เป็นในลักษณะเชิงกลยุทธ์ เกื้อกูลหรือสนับสนุนทางธุรกิจ เช่น สถาบันการเงิน โดยเพิ่มทุนเท่าเดิม 130 ล้านบาท และสามารถแบ่งเป็นกลุ่มได้โดยให้แต่ละกลุ่ม ต้องนำเงินมาลงทุน 30 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ บอร์ดอนุมัติให้คณะกรรมการบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) สามารถนำเงินไปลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียน 130 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงิน ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นจึงอนุมัติให้บริษัทสามารถนำเงินไปลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการบริษัท เป็นผู้พิจารณาอนุมัติและดำเนินการ
โดยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท เอื้อวิทยา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2551 ซึ่งผู้ถือหุ้นของบริษัท เอื้อวิทยาจำกัด (มหาชน) ได้มติ ชะลอการนำบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากภาวะการณ์ปัจจุบันไม่เหมาะสม ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ชะลอการลงทุน ตลาดหุ้นผันผวน ค่าใช้จ่ายในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต. เพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าไม่พร้อมจะสร้างปัญหาให้แก่บริษัทและเปลี่ยนแปลงจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นดังนี้คือเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง โดยให้เป็นในลักษณะเชิงกลยุทธ์ เกื้อกูลหรือสนับสนุนทางธุรกิจ เช่น สถาบันการเงิน โดยเพิ่มทุนเท่าเดิม 130 ล้านบาท และสามารถแบ่งเป็นกลุ่มได้โดยให้แต่ละกลุ่ม ต้องนำเงินมาลงทุน 30 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ บอร์ดอนุมัติให้คณะกรรมการบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) สามารถนำเงินไปลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียน 130 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงิน ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นจึงอนุมัติให้บริษัทสามารถนำเงินไปลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการบริษัท เป็นผู้พิจารณาอนุมัติและดำเนินการ