รอยเตอร์ – การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเรือเฟอร์รีอับปางท่ามกลางพายุไต้ฝุ่นบริเวณนอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์ ทำท่าจะมีความหวังเพียงริบหรี่เมื่อวานนี้(23) ร่วมๆ 800 ชีวิตยังคงสูญหายหลังเหตุการณ์ผ่านไปสองวัน เรือยามฝั่งและนักดำน้ำเตรียมหาทางเจาะด้านข้างตัวเรือเข้าไปเพื่อค้นหาผู้ที่อาจจะยังรอดชีวิตในบริเวณที่เป็นหลุมอากาศ
พายุไต้ฝุ่น “ฟงเสิน” ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปอย่างน้อย 155 คนที่อยู่ในบริเวณตอนกลางและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะหมู่เกาะวิซายาสซึ่งมีหาดทรายสวยงามและเป็นแหล่งปลูกอ้อย ถูกพายุกระหน่ำรุนแรงที่สุด บ้านเรือนเสียหายนับพันหลังคาเรือน และผู้คนกว่าสามหมื่นต้องไร้ที่อยู่อาศัย
แต่กรณีร้ายแรงที่สุด ก็คือ เรือเฟอร์รีชื่อ ปรินเซส ออฟ เดอะ สตาร์ ที่อัปปางลงจากฤทธิ์พายุ โดยวานนี้มีรายงานผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 20 คน และพบศพเพิ่มอีก 15 ศพ ที่บริเวณใกล้ๆ กับเกาะมาสบาเต ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เรือล่มอย่างน้อย 70 กิโลเมตร รวมแล้วจนถึงเย็นวานนี้ ได้พบผู้รอดชีวิตมากกว่า 50 คน และศพอย่างน้อย 20 ศพ
“เรากำลังตรวจสอบว่ายังมีผู้ที่ติดอยู่ภายในเรือหรือเปล่า” พลเรือโทวิลเฟรโด ทามาโย ซึ่งเป็นผู้บัญชาการของกองเรือยามฝั่งกล่าว “เราอาจต้องเจาะตัวเรือเพื่อให้นักดำน้ำเข้าไปภายในได้”
ส่วนบริษัทซัลพิซิโอ ไลน์ เจ้าของเรือประสบภัย ได้แจ้งจำนวนผู้ที่อยู่บนเรือว่ามีจำนวน 845 คน จากที่เคยรายงานไว้ในครั้งแรกที่ 740 คน และเป็นไปได้ว่าอาจจะมีผู้ที่อยู่บนเรือแต่ไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อของบริษัทอีก 11 คนด้วย
ทางการฟิลิปปินส์เผยเมื่อวานนี้ด้วยว่าได้มีการตรวจสอบหาหลักฐานเกี่ยวกับเรือเพิ่มเติมจากซัลพิซิโอ ไลน์แล้ว และเรือของบริษัทดังกล่าวก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุร้ายแรงถึงสามครั้งในช่วง 21 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ในปี 1987 เรือเฟอร์รีชื่อ โดนา ปาซ ของบริษัทนี้ก็เกิดอุบัติเหตุชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 4,000 คน และเป็นโศกนาฎกรรมในทะเลครั้งใหญ่ที่สุดของโลกหลังสงครามโลกด้วย
ญาติพี่น้องของผู้โดยสารและลูกเรือราว 100 คนที่รอคอยฟังชื่อผู้รอดชีวิต อยู่ที่เมืองเซบู ซึ่งเป็นจุดจอดเทียบท่าของเรือลำดังกล่าวตามกำหนดเดิม ต่างพากันร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ขณะที่ชายผู้หนึ่งถึงกับชกกำแพงเพราะเสียใจที่บุตรชายของตนสูญหายไป
“คุณคืนคนที่เรารักให้ไม่ได้ คุณควรจะรับผิดชอบด้วย” หญิงผู้หนึ่งตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ของซัลพิซิโอ ไลน์ และเรียกร้องหาความรับผิดชอบ แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะออกมาพูดจากับบรรดาชาวคาทอลิกที่ออกันรอฟังข่าวอยู่
พายุไต้ฝุ่น “ฟงเสิน” ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปอย่างน้อย 155 คนที่อยู่ในบริเวณตอนกลางและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะหมู่เกาะวิซายาสซึ่งมีหาดทรายสวยงามและเป็นแหล่งปลูกอ้อย ถูกพายุกระหน่ำรุนแรงที่สุด บ้านเรือนเสียหายนับพันหลังคาเรือน และผู้คนกว่าสามหมื่นต้องไร้ที่อยู่อาศัย
แต่กรณีร้ายแรงที่สุด ก็คือ เรือเฟอร์รีชื่อ ปรินเซส ออฟ เดอะ สตาร์ ที่อัปปางลงจากฤทธิ์พายุ โดยวานนี้มีรายงานผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 20 คน และพบศพเพิ่มอีก 15 ศพ ที่บริเวณใกล้ๆ กับเกาะมาสบาเต ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เรือล่มอย่างน้อย 70 กิโลเมตร รวมแล้วจนถึงเย็นวานนี้ ได้พบผู้รอดชีวิตมากกว่า 50 คน และศพอย่างน้อย 20 ศพ
“เรากำลังตรวจสอบว่ายังมีผู้ที่ติดอยู่ภายในเรือหรือเปล่า” พลเรือโทวิลเฟรโด ทามาโย ซึ่งเป็นผู้บัญชาการของกองเรือยามฝั่งกล่าว “เราอาจต้องเจาะตัวเรือเพื่อให้นักดำน้ำเข้าไปภายในได้”
ส่วนบริษัทซัลพิซิโอ ไลน์ เจ้าของเรือประสบภัย ได้แจ้งจำนวนผู้ที่อยู่บนเรือว่ามีจำนวน 845 คน จากที่เคยรายงานไว้ในครั้งแรกที่ 740 คน และเป็นไปได้ว่าอาจจะมีผู้ที่อยู่บนเรือแต่ไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อของบริษัทอีก 11 คนด้วย
ทางการฟิลิปปินส์เผยเมื่อวานนี้ด้วยว่าได้มีการตรวจสอบหาหลักฐานเกี่ยวกับเรือเพิ่มเติมจากซัลพิซิโอ ไลน์แล้ว และเรือของบริษัทดังกล่าวก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุร้ายแรงถึงสามครั้งในช่วง 21 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ในปี 1987 เรือเฟอร์รีชื่อ โดนา ปาซ ของบริษัทนี้ก็เกิดอุบัติเหตุชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 4,000 คน และเป็นโศกนาฎกรรมในทะเลครั้งใหญ่ที่สุดของโลกหลังสงครามโลกด้วย
ญาติพี่น้องของผู้โดยสารและลูกเรือราว 100 คนที่รอคอยฟังชื่อผู้รอดชีวิต อยู่ที่เมืองเซบู ซึ่งเป็นจุดจอดเทียบท่าของเรือลำดังกล่าวตามกำหนดเดิม ต่างพากันร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ขณะที่ชายผู้หนึ่งถึงกับชกกำแพงเพราะเสียใจที่บุตรชายของตนสูญหายไป
“คุณคืนคนที่เรารักให้ไม่ได้ คุณควรจะรับผิดชอบด้วย” หญิงผู้หนึ่งตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ของซัลพิซิโอ ไลน์ และเรียกร้องหาความรับผิดชอบ แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะออกมาพูดจากับบรรดาชาวคาทอลิกที่ออกันรอฟังข่าวอยู่
