ผู้จัดการรายวัน - ผู้จัดการ AFET เผยเตรียมปรับปรุงการซื้อขายมันสำปะหลังเส้นเป็นแบบ Both Options ภายใน 4 เดือน หลังนำข้าวขาวหอมมะลิเข้ามาซื้อขาย 14 ก.ค. นี้ พร้อมมั่นใจได้รับความสนใจจากนักลงทุน ใกล้เคียงกับการซื้อขายข้าวขาว 5% ที่ 300 สัญญาต่อวัน พร้อมเร่งทำการตลาดส่งข้อมูลถึงนักลงทุนและผู้ประกอบการ เชื่อสินค้าใหม่ช่วยดันปริมาณการซื้อขายรวมเฉลี่ยปีนี้ถึง 1,000 สัญญาต่อวัน
นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า AFET จะดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดการซื้อขายมันสำปะหลังเส้น จากเดิมที่ต้องส่งมอบสินค้าหลังจากมีการซื้อขาย เปลี่ยนเป็นแบบ Both Options เหมือนกับข้าวขาว 5% เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อขายมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการหารือกับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าภายใน 4 เดือน น่าจะนำมาใช้ได้
ทั้งนี้ AFET พยายามหาแนวทางเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายในสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้มากขึ้น ก่อนมีการพิจารณานำสินค้าใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาดฯ ซึ่งล่าสุดช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้ปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ให้สามารถส่งมอบรับมอบในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 7 จังหวัด
อย่างไรก็ดี AFET จะนำข้าวหอมมะลิซึ่งเป็นสินค้าใหม่ เข้ามาซื้อขาย ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันข้าวเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูง เห็นได้จากปริมาณการซื้อขายข้าวขาว 5% ใน AFET ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ก่อนที่จะตัดสินใจนำข้าวหอมมะลิเข้ามาซื้อขาย AFET ได้ศึกษามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงเชื่อว่าจะได้รับความสนใจใกล้เคียงกับข้าวขาว 5% ที่มีการซื้อขายเฉลี่ยเดือนเม.ย.ที่ 350 สัญญาต่อวัน และเดือนพ.ค.ที่ 450 สัญญาต่อวัน โดยคาดว่าข้าวหอมมะลิจะมีการซื้อขายประมาณ 300 สัญญาต่อวัน
โดย AFET ได้พยายามเร่งทำการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนและผู้ประกอบรับทราบข้อมูลในการนำข้าวหอมมะลิเข้ามาซื้อขาย ซึ่งได้ร่วมมือกับสมาคมค้าข้าวไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ และสมาคมโรงสีข้าวไทย จัดงานเสวนาเรื่อง ข้าวหอมมะลิไทย มิติใหม่สู่การซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ AFET จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนแถบภาคอีสานในเร็วๆ นี้ โดยทั้งหมดจะมีส่วนช่วยให้การเข้าซื้อขายของข้าวหอมมะลิได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และหากการทำตลาดต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดีก็เชื่อว่าปริมาณการซื้อขายข้าวหอมมะลิจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
"การนำข้าวหอมมะลิเข้ามาเทรดในช่วงเดือนหน้านี้ จะมีส่วนช่วยให้เป้าหมายการซื้อขายรวมเฉลี่ยปีนี้ที่ 1,000 สัญญาต่อวัน เป็นไปตามเป้าได้อย่างแน่นอน ซึ่งจากที่ผ่านมาในปีนี้ก็มีหลายวันที่ปริมาณการซื้อขายขึ้นไปถึงระดับ 1,000 สัญญา และเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายรวมก็ทำนิวไฮล์ที่ 1,649 สัญญา ยิ่งเมื่อตลาดฯ มีการนำสินค้าใหม่เข้ามาเทรดน่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ในที่สุด" นายนิทัศน์ กล่าว
นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า AFET จะดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดการซื้อขายมันสำปะหลังเส้น จากเดิมที่ต้องส่งมอบสินค้าหลังจากมีการซื้อขาย เปลี่ยนเป็นแบบ Both Options เหมือนกับข้าวขาว 5% เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อขายมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการหารือกับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าภายใน 4 เดือน น่าจะนำมาใช้ได้
ทั้งนี้ AFET พยายามหาแนวทางเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายในสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้มากขึ้น ก่อนมีการพิจารณานำสินค้าใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาดฯ ซึ่งล่าสุดช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้ปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ให้สามารถส่งมอบรับมอบในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 7 จังหวัด
อย่างไรก็ดี AFET จะนำข้าวหอมมะลิซึ่งเป็นสินค้าใหม่ เข้ามาซื้อขาย ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันข้าวเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูง เห็นได้จากปริมาณการซื้อขายข้าวขาว 5% ใน AFET ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ก่อนที่จะตัดสินใจนำข้าวหอมมะลิเข้ามาซื้อขาย AFET ได้ศึกษามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงเชื่อว่าจะได้รับความสนใจใกล้เคียงกับข้าวขาว 5% ที่มีการซื้อขายเฉลี่ยเดือนเม.ย.ที่ 350 สัญญาต่อวัน และเดือนพ.ค.ที่ 450 สัญญาต่อวัน โดยคาดว่าข้าวหอมมะลิจะมีการซื้อขายประมาณ 300 สัญญาต่อวัน
โดย AFET ได้พยายามเร่งทำการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนและผู้ประกอบรับทราบข้อมูลในการนำข้าวหอมมะลิเข้ามาซื้อขาย ซึ่งได้ร่วมมือกับสมาคมค้าข้าวไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ และสมาคมโรงสีข้าวไทย จัดงานเสวนาเรื่อง ข้าวหอมมะลิไทย มิติใหม่สู่การซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ AFET จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนแถบภาคอีสานในเร็วๆ นี้ โดยทั้งหมดจะมีส่วนช่วยให้การเข้าซื้อขายของข้าวหอมมะลิได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และหากการทำตลาดต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดีก็เชื่อว่าปริมาณการซื้อขายข้าวหอมมะลิจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
"การนำข้าวหอมมะลิเข้ามาเทรดในช่วงเดือนหน้านี้ จะมีส่วนช่วยให้เป้าหมายการซื้อขายรวมเฉลี่ยปีนี้ที่ 1,000 สัญญาต่อวัน เป็นไปตามเป้าได้อย่างแน่นอน ซึ่งจากที่ผ่านมาในปีนี้ก็มีหลายวันที่ปริมาณการซื้อขายขึ้นไปถึงระดับ 1,000 สัญญา และเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายรวมก็ทำนิวไฮล์ที่ 1,649 สัญญา ยิ่งเมื่อตลาดฯ มีการนำสินค้าใหม่เข้ามาเทรดน่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ในที่สุด" นายนิทัศน์ กล่าว