พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง ธำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ
ตามที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลให้หยุดการล้มล้างรัฐธรรมนูญ หันมาแก้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาปากท้องของประชาชน ครั้นเวลาผ่านไปนาน รัฐบาลหุ่นเชิดกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม เดินหน้าล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองและพวกพ้อง ไม่ให้พิสูจน์ตัวเองในการพิจารณาของชั้นศาล ไม่แก้ปัญหาของประเทศชาติ และประชาชน ทำให้ประชาชนได้เกิดความไม่พอใจต่อการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเดือดร้อนจากปัญหาข้าวยากหมากแพง
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 11/2551 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 เพื่อเรียกร้องให้หยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญ พร้อมๆ กับการประกาศขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด เพราะรัฐบาลได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติแล้ว
การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯนั้น ได้ใช้วิถีทางบริหารจัดการที่เป็นประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากการประชุมในระดับแกนนำพันธมิตรฯแล้ว แกนนำพันธมิตรฯยังได้มีการสอบถามความเห็นต่อหน้ามวลมหาประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมโดยตลอด
การชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ และไล่รัฐบาลหุ่นเชิดนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องประชาชนด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ "ทำหน้าที่" 2. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ "ใช้หนี้แผ่นดิน" และ3. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ "ทำบุญ"
การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ "ทำหน้าที่" เพราะตามมาตรา 70 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บัญญัติเอาไว้ว่าปวงชนชาวไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงอาศัยบทบัญญัติในรัฐ-ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามมาตรา 69 และใช้เสรีภาพตามมาตรา 63 ในการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ในการปฏิบัติตาม "หน้าที่" นี้
การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ "ใช้หนี้แผ่นดิน" เพราะเมื่อเกิดมาเป็นคนไทยแล้วทุกคนย่อมเป็นหนี้ต่อแผ่นดินกันทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาวิกฤตร้ายแรงดังเช่นปัจจุบัน ประชาชนจึงต้องมาร่วมกันใช้หนี้ต่อแผ่นดิน
การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือเป็นการ "ทำบุญ" ดังกระแสพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานไว้เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2530 เนื่องในปีมหามงคลในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษาว่า "การสร้างประโยชน์ ก็คือการทำบุญ" โดยให้ช่วยกันพัฒนาบึงมักกะสันเพื่อเป็นการทำบุญเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา
บัดนี้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรฯ ได้ชุมนุมถึง 27 วัน 27 คืนแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้ดำเนินการหยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญและลาออกไปแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ ประชาชนจึงต้องแสดงพลังประชาชนครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์อย่างแรงกล้าของประชาชนในวันนี้
กลุ่มพันธมิตรฯ ขอย้ำในแนวทางที่ยึดมั่นอีกครั้งหนึ่งว่า การเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่เข้าไม่บุกรุก ไม่เข้ายึด ไม่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูทำเนียบรัฐบาล พันธมิตรฯก็จะไม่มีเป้าประสงค์เพื่อเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลแต่ประการใด
การเคลื่อนการชุมนุมในครั้งนี้ พันธมิตรฯขอประกาศให้ทราบว่า จะเป็นไปด้วยความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ เช่นเดิมซึ่งเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เสมือนรูปแบบการเดินเพื่อการกุศล
ดังนั้น พันธมิตรฯขอประกาศจุดยืนให้ทราบโดยทั่วกันเป็นการล่วงหน้าว่า หากการเคลื่อนขบวนนั้นได้ติดอุปสรรคกีดขวางโดยเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะแสดงไมตรีด้วยรอยยิ้ม ไม่ด่าทอ ไม่ยั่วยุ และปราศจากอาวุธทุกประเภท ไม่ใช้ก้อนหิน ไม่พกด้ามเหล็ก ไม่พกไม้เบสบอล และไม่ใช้อุปกรณ์หนังสติ๊ก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเดินขบวนครั้งนี้ ได้มีผู้ไม่หวังดีและอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลต้องการสร้างความวุ่นวายและใส่ร้ายพันธมิตรฯด้วยการปะปนเข้ามาในการชุมนุม แม้จะไม่มีเครื่องแบบเพื่อแบ่งแยกผู้ชุมนุมได้ แต่ระยะเวลาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการชุมนุม ของพันธมิตรฯนั้นมีแต่ความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ โดยที่ไม่เคยเกิดเหตุวุ่นวายแม้แต่ครั้งเดียว พันธมิตรฯจึงถือว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามจุดยืนของพันธมิตรฯตามที่ได้แถลงการณ์มาข้างต้น ถือเป็นกลุ่มอันธพาลนรกป่วนกรุงในฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการจะก่อความวุ่นวายบ้านเมืองด้วยการ พกพาอาวุธ ด่าว่ายั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสร้างเงื่อนไขให้เกิดการทะเลาะวิวาท ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการอย่างเด็ดขาด
พันธมิตรฯได้วางแผนในการปฏิบัติครั้งนี้ด้วยความอหิงสาและเรียบร้อย ดังนั้น ไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายไปทางใดหรือไม่ และไปได้ใกล้ไกลแค่ไหนอย่างไร ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับการชุมนุมในวันนี้ที่ได้แสดงเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างหาญกล้าแล้ว
พันธมิตรฯขอประกาศแจ้งให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาการชุมนุมที่ สะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนินนอกนั้น พันธมิตรฯจำเป็นต้องสะสมไม้เบสบอล ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ ที่ประชาชนบริจาคเอาไว้ให้ ก็เพื่อไว้ป้องกันชีวิตของผู้ชุมนุม เนื่องจากกลุ่มอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลได้พยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น พันธ-มิตรฯหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลย ดังที่ได้เคยเกิดเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ และเคลื่อนการชุมนุมของพันธมิตรฯ มาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ที่ประชาชนของผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรฯได้ถูกทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเพิกเฉยเสมือนสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มอันธพาลดังกล่าวอีกด้วย
พันธมิตรฯ จะมุ่งมั่นธำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ต่อไป
ด้วยจิตคารวะและสันติ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
20 มิถุนายน 2551
เรื่อง ธำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ
ตามที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลให้หยุดการล้มล้างรัฐธรรมนูญ หันมาแก้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาปากท้องของประชาชน ครั้นเวลาผ่านไปนาน รัฐบาลหุ่นเชิดกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม เดินหน้าล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองและพวกพ้อง ไม่ให้พิสูจน์ตัวเองในการพิจารณาของชั้นศาล ไม่แก้ปัญหาของประเทศชาติ และประชาชน ทำให้ประชาชนได้เกิดความไม่พอใจต่อการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเดือดร้อนจากปัญหาข้าวยากหมากแพง
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 11/2551 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 เพื่อเรียกร้องให้หยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญ พร้อมๆ กับการประกาศขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด เพราะรัฐบาลได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติแล้ว
การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯนั้น ได้ใช้วิถีทางบริหารจัดการที่เป็นประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากการประชุมในระดับแกนนำพันธมิตรฯแล้ว แกนนำพันธมิตรฯยังได้มีการสอบถามความเห็นต่อหน้ามวลมหาประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมโดยตลอด
การชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ และไล่รัฐบาลหุ่นเชิดนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องประชาชนด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ "ทำหน้าที่" 2. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ "ใช้หนี้แผ่นดิน" และ3. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ "ทำบุญ"
การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ "ทำหน้าที่" เพราะตามมาตรา 70 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บัญญัติเอาไว้ว่าปวงชนชาวไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงอาศัยบทบัญญัติในรัฐ-ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามมาตรา 69 และใช้เสรีภาพตามมาตรา 63 ในการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ในการปฏิบัติตาม "หน้าที่" นี้
การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ "ใช้หนี้แผ่นดิน" เพราะเมื่อเกิดมาเป็นคนไทยแล้วทุกคนย่อมเป็นหนี้ต่อแผ่นดินกันทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาวิกฤตร้ายแรงดังเช่นปัจจุบัน ประชาชนจึงต้องมาร่วมกันใช้หนี้ต่อแผ่นดิน
การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือเป็นการ "ทำบุญ" ดังกระแสพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานไว้เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2530 เนื่องในปีมหามงคลในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษาว่า "การสร้างประโยชน์ ก็คือการทำบุญ" โดยให้ช่วยกันพัฒนาบึงมักกะสันเพื่อเป็นการทำบุญเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา
บัดนี้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรฯ ได้ชุมนุมถึง 27 วัน 27 คืนแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้ดำเนินการหยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญและลาออกไปแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ ประชาชนจึงต้องแสดงพลังประชาชนครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์อย่างแรงกล้าของประชาชนในวันนี้
กลุ่มพันธมิตรฯ ขอย้ำในแนวทางที่ยึดมั่นอีกครั้งหนึ่งว่า การเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่เข้าไม่บุกรุก ไม่เข้ายึด ไม่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูทำเนียบรัฐบาล พันธมิตรฯก็จะไม่มีเป้าประสงค์เพื่อเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลแต่ประการใด
การเคลื่อนการชุมนุมในครั้งนี้ พันธมิตรฯขอประกาศให้ทราบว่า จะเป็นไปด้วยความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ เช่นเดิมซึ่งเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เสมือนรูปแบบการเดินเพื่อการกุศล
ดังนั้น พันธมิตรฯขอประกาศจุดยืนให้ทราบโดยทั่วกันเป็นการล่วงหน้าว่า หากการเคลื่อนขบวนนั้นได้ติดอุปสรรคกีดขวางโดยเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะแสดงไมตรีด้วยรอยยิ้ม ไม่ด่าทอ ไม่ยั่วยุ และปราศจากอาวุธทุกประเภท ไม่ใช้ก้อนหิน ไม่พกด้ามเหล็ก ไม่พกไม้เบสบอล และไม่ใช้อุปกรณ์หนังสติ๊ก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเดินขบวนครั้งนี้ ได้มีผู้ไม่หวังดีและอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลต้องการสร้างความวุ่นวายและใส่ร้ายพันธมิตรฯด้วยการปะปนเข้ามาในการชุมนุม แม้จะไม่มีเครื่องแบบเพื่อแบ่งแยกผู้ชุมนุมได้ แต่ระยะเวลาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการชุมนุม ของพันธมิตรฯนั้นมีแต่ความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ โดยที่ไม่เคยเกิดเหตุวุ่นวายแม้แต่ครั้งเดียว พันธมิตรฯจึงถือว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามจุดยืนของพันธมิตรฯตามที่ได้แถลงการณ์มาข้างต้น ถือเป็นกลุ่มอันธพาลนรกป่วนกรุงในฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการจะก่อความวุ่นวายบ้านเมืองด้วยการ พกพาอาวุธ ด่าว่ายั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสร้างเงื่อนไขให้เกิดการทะเลาะวิวาท ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการอย่างเด็ดขาด
พันธมิตรฯได้วางแผนในการปฏิบัติครั้งนี้ด้วยความอหิงสาและเรียบร้อย ดังนั้น ไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายไปทางใดหรือไม่ และไปได้ใกล้ไกลแค่ไหนอย่างไร ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับการชุมนุมในวันนี้ที่ได้แสดงเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างหาญกล้าแล้ว
พันธมิตรฯขอประกาศแจ้งให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาการชุมนุมที่ สะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนินนอกนั้น พันธมิตรฯจำเป็นต้องสะสมไม้เบสบอล ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ ที่ประชาชนบริจาคเอาไว้ให้ ก็เพื่อไว้ป้องกันชีวิตของผู้ชุมนุม เนื่องจากกลุ่มอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลได้พยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น พันธ-มิตรฯหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลย ดังที่ได้เคยเกิดเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ และเคลื่อนการชุมนุมของพันธมิตรฯ มาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ที่ประชาชนของผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรฯได้ถูกทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเพิกเฉยเสมือนสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มอันธพาลดังกล่าวอีกด้วย
พันธมิตรฯ จะมุ่งมั่นธำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ต่อไป
ด้วยจิตคารวะและสันติ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
20 มิถุนายน 2551