xs
xsm
sm
md
lg

"ดรีมเวิร์กส์"เจรจายักษ์ใหญ่ภารตะ เตรียมตีจากค่าย"พาราเมาท์"สิ้นปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไฟแนนเชียลไทมส์/เอเอฟพี - "ดรีมเวิร์กส์"สร้างความฮือฮาทั่วทั้งฮอลลีวู้ด เมื่อมีข่าวออกมาว่า สตีเวน สปีลเบิร์ก และผู้ก่อตั้งบริษัทคนอื่นๆ กำลังเจรจากับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งอินเดีย เพื่อให้มาเป็นนายทุนรายใหม่ อันจะทำให้ดรีมเวิร์กส์ผละจากอก "พาราเมาท์ พิกเจอร์ส"ไป หลังจากร่วมงานกันมาสามปี
ในกระแสความเคลื่อนไหวล่าสุดแห่งความพยายามของค่ายดรีมเวิร์กส์ สตูดิโอ ที่จะบอกลาพาราเมาท์ พิกเจอร์ส เมื่อสัญญาที่ทำกันเอาไว้สิ้นสุดอายุลงในปีนี้ หนังสือพิมพ์ธุรกิจทรงอิทธิพลอย่างไฟแนนเชียลไทมส์และวอลล์สตรีทเจอร์นัล ต่างรายงานตรงกันว่า ผู้ที่ดรีมเวิร์กส์กำลังเจรจาด้วยนั้น ก็คือ รีไลแอนซ์ บิ๊ก เอ็นเทอร์เทนเมนต์ หนึ่งในกิจการเครือรีไลแอนซ์ ซึ่งสยายปีกครอบคลุมทั้งอาณาจักรบันเทิงและโทรคมนาคมแห่งอินเดีย โดยจะให้ยักษ์ใหญ่รายนี้แห่งวงการบันเทิงอินเดีย หรือที่รู้จักกันในนาม "บอลลีวู้ด"เป็นนายทุนในหนังที่สร้างด้วยกัน
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการเจรจาครั้งนี้บอกว่า ดรีมเวิร์กส์น่าจะปิดการเจรจาได้ภายหกสัปดาห์
ข่าวการเจรจากับรีไลแอนซ์ ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดย อานิล อัมบานี นักอุตสาหกรรมอัครมหาเศรษฐี ทำให้บรรดาผู้บริหารของเวียคอมซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพาราเมาท์ พิกเจอร์สประหลาดใจไปตาม ๆกันแต่ก็บริษัทก็ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นใด ๆ
เวียคอมซื้อดรีมเวิร์กส์เข้ามาตั้งแต่ปี 2005 โดยมีจุดประสงค์ที่จะใช้บริษัทแห่งนี้เป็นกลไกแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อทำให้พาราเมาท์ที่นิ่ง ๆมาหลายปีกลับมาคึกคักและผลิตงานอันทันสมัยอีกครั้ง
แม้ว่าดรีมเวิร์กส์จะสร้างผลงานฮิตให้แก่พาราเมาท์มากมายเช่น "ดิสเทอร์เบีย" และ "เบลดส์ ออฟ กลอรี่" แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัททั้งสองก็เสื่อมทรามลงในเวลาอันสั้น เพราะความขัดแย้งระหว่างพวกผู้ก่อตั้งดรีมเวิร์กส์ กับ แบรด เกรย์ ประธานของพาราเมาท์
ฟิลิปเป ดาวแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวียคอมก็ทำให้ดรีมเวิร์กส์ไม่พอใจอย่างยิ่งเมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับนักลงทุนว่า การจากไปของสตีเวน สปีลเบิร์ก "ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใดเลย" สำหรับบริษัท
สปีลเบิร์ก, เดวิด เกฟเฟ่น ที่เป็นผู้ก่อตั้งอีกคนหนึ่งของดรีมเวิร์กส์ รวมทั้งสเตซีย์ สไนเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท สามารถจากพาราเมาท์ไปในปีนี้ได้ ในทันทีที่สัญญาหมดอายุลง
สิทธิในภาพยนตร์ที่ดรีมเวิร์กส์ผลิตนับตั้งแต่ถูกซื้อเข้ามาในพาราเมาท์อย่างเช่น "ทรานฟอร์เมอร์ส" จะยังคงเป็นของพาราเมาท์ แต่เวียคอมไม่ได้เป็นเจ้าของห้องสมุดข้อมูลของดรีมเวิร์กส์อีกแล้ว ซึ่งรวมทั้งหนังเรื่องเยี่ยมๆ อย่างเช่น "กลาดิเอเตอร์" และ "เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน "เพราะขายไปให้แก่จอร์จ โซรอส ตั้งแต่บริษัทซื้อดรีมเวิร์กส์เข้ามา
คาดกันว่าในข้อเสนอที่ดรีมเวิร์กส์ยื่นให้รีไลแอนซ์นั้น ก็คือบริษัทบอลลีวู้ดแห่งนี้ จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทดรีมเวิร์กส์ใหม่ที่เกิดจากการร่วมทุน และหุ้นส่วนจะต้องตกลงกันว่าจะสร้างหนังกี่เรื่องต่อปี ทั้งนี้คาดกันด้วยว่าบริษัทใหม่แห่งนี้จะมีเงินกองทุนราว 1,500 ล้านดอลลาร์ซึ่งรวมทั้งสินเชื่อและหลักทรัพย์ต่างๆด้วย อย่างไรก็ตาม รีไลแอนซ์ยังไม่ยอมเปิดปากเกี่ยวกับรายละเอียดใด ๆทั้งสิ้น
ดรีมเวิร์กส์สามารถเข้ามาเสริมจุดอ่อนในด้านการผลิตภาพยนตร์ของพาราเมาท์เมื่อปีที่แล้วได้ และพาราเมาท์ก็เริ่มฟื้นตัวรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถสร้างหนังทำเงินได้มากมายรวมทั้งนำหน้าค่ายหนังในฮอลลีวู้ดอื่น ๆทางด้านส่วนแบ่งรายได้ จากภาพยนตร์อย่าง "ไอออน แมน", "อินเดียน่า โจนส์ แอนด์ เดอะ คิงด้อม ออฟ เดอะ คริสตัล สกัล" ซึ่งกำลังโดยสปีลเบิร์ก รวมทั้งหนังอย่าง "โคลเวอร์ ฟิลด์" ที่คนอื่นกำกับด้วย
.โคลเวอร์ฟิลด์ สร้างโดย เจ เจ เอบราห์มส์ ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์เรื่อง "ลอสต์" ซึ่งเกรย์ฝากความหวังไว้ว่าเอบราห์มส จะขึ้นมาเป็นผู้ทำงานด้านภาพยนตร์สร้างสรรค์แทนสปีลเบิร์กสได้
ส่วนรีไลแอนซ์เองก็พยายามจะผลักดันตัวเองให้กลายเป็นค่ายผลิตหนังใหญ่ที่สุดในอินเดียให้ได้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เซ็นสัญญากับดาราใหญ่ของฮอลลีวู้ดไม่น้อยในงานประกวดภาพยนตร์ที่คานส์ในปีนี้
"มันก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้บริษัทหนังรายใหญ่ของอินเดียกำลังคิดเรื่องการบุกตลาดโลกอย่างจริงจัง" วิเวก คูโต ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของบริษัทมีเดีย พาร์ทเนอร์ เอเชีย ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกงกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น