ผู้จัดการรายวัน – เปิดศึก ทีวีวันอังคาร ช่วง 4 ทุ่ม ทุกช่องชิงคนดู-เรตติ้ง จากรายการวาไรตี้ 4 ค่ายใหญ่ ทั้ง “วิทวัส-เจเอสแอล-ไตรภพ-ดีด็อก” ช่วงเวลาเดียวกัน ศึกครั้งนี้ใครดีใครอยู่ คนวงการจับตา “คลับเซเว่น” ต้องออกแรงหากจะเบียด “ตีสิบ” ได้หรือไม่
กลายเป็นศึกที่ต้องจับตาดู ชนิดที่ห้ามกระพริบตาเลยทีเดียว
เมื่อช่วงเวลาดี สี่ทุ่ม วันอังคาร จะกลายเป็นไพร์มไทม์ที่ สถานีโทรทัศน์ทั้ง 4 ช่องหลัก จะแข่งกันแย่งคนดู โดยผ่านทาง ผู้จัดของแต่ละรายการ
เริ่มที่ช่อง 3 มี รายการ “ตีสิบ” ของวิทวัส สุนทรวิเนตร เป็นตัวเอกยืนพื้น
ส่วนที่ช่อง 5 ก็มีรายการ “คืนนี้ วันนั้น” ของค่ายเจเอสแอล
ขณะที่ช่อง 7 นั้น เพิ่งจะได้พันธมิตรใหม่คือ บริษัท บอร์น ออฟเปอเรชั่น จำกัด ของ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ ที่จะส่งรายการใหม่คือ “คลับ เซเว่น” เข้าปะชันศึกครั้งนี้ จะเริ่มแพร่ภาพวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ทางด้านช่องโมเดิร์นไนน์ ก็เพี่งปรับผังรายการใหม่ แม้อาจจะไม่ได้ชนกันโดยตรง แต่ก็น่าสนใจ โดยแยกเป็นช่วงเวลา 22.00 น. รายการ “คนค้นคน” ของบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ในเครือเจเอสแอล และช่วง 23.00 น. เป็นรายการ “บางอ้อ” รายการใหม่สดๆซิงๆ ของค่าย ดีด็อก ซึ่งมี หนุ่ม-คงกระพันธ์ แสงสุริยะ เป็นเจ้าของรายการ ร่วมกับทางบริษัท ลักส์ 666 จำกัด ของวิลลี่ แมคอินทอช ที่เข้ามาช่วยทางด้านการตลาดให้ ดีเดย์วันที่ 1 ก.ค.นี้เช่นกัน
คงจะกล่าวถึงใครก่อนเป็นอันดับแรกไม่ได้นอกจาก ไตรภพ ในฐานะรายการใหม่แต่หน้าเก่า เพราะแค่เปิดตัวก็ทำเอาฮือฮาไม่น้อย เพราะว่า เวลาเดิม สี่ทุ่มวันอังคารนั้น เป็นรายการของ 7 กะรัต ของบริษัท มีเดียออฟมีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีชาลอต โทณวณิก นั่งแท่นบริหารอยู่ และเป็นบริษัทลูกของช่อง 7 เองด้วย และรายการก็พยายามปรับตัวเริ่มดีวันดีคืนขึ้นมาบ้าง แต่จู่ๆก็มาโดนไตรภพสอยเวลาไปเสียนี่
คลับเซเว่น ที่ไตรภพ พยายามปั้นมานี้ เขาย้ำเสมอว่า เป็นทอล์คโชว์ที่ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งทอล์คโชว์ในไทยเรามีมานานกว่า 17-18 ปีแล้วในเมืองไทย อีกทั้งมั่นใจว่ารายการนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะเป็นรูปแบบรายการวาไรตี้ทอลค์โชว์ ผสมกับรูปแบบรายการใหม่เป็นอินเทอร์แอคทีฟกับผู้ชมได้
“คุณเดารายการผมไม่ออกหรอกว่าจะเป็นอย่างไร แต่ละอาทิตย์รายการของผมจะไม่เหมือนกัน” นายไตรภพ กล่าว
พร้อมกับอ้างว่ารายการนี้ยังได้รับความสนใจจากเอเจนซี่ สินค้ามากมาย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้รายการนี้ก็จะถึงจุดคุ้มทุนด้วยแล้ว
คนวงในทีวี มองว่า ด้วยประสบการณ์ของไตรภพในเวทีบันเทิงวาไรตี้ ยังคงเป็นสิ่งที่มองข้ามรายการคลับเซเว่นไม่ได้ และตอนนี้ก็เป็นรายการแรกที่ไตรภพกลับมาสู่หน้าจอทีวีอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนานจากปัญหาทีไอทีวี ดังนั้นเขาคงต้องทุ่มฝีมือเต็มที่เพื่อหวังจะกลับมาเกิดอีกครั้ง และหวังต่อยอดรายการอื่นๆในช่องอื่นอีกด้วย
ทางด้านโมเดิร์นไนน์ ก็ปล่อยหมัดเด็ด 2 หมัด กระหน่ำทั้งสองรายการ หวังตีโอบเพื่อเรียกคนดูให้มีความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมาย โดยรายการ “คนค้นคน” ถือเป็นสารคดีที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับว่า มีคุณภาพดีรายการหนึ่งของโมเดิร์นไนน์ ในช่วงสี่ทุ่มวันอังคาร
ต่อจากนั้นช่วงเวลาห้าทุ่มก็เป็นรายการ “บางอ้อ” ซึ่งเป็นสารคดีแนวใหม่ ที่ดูสนุก ทันสมัย และให้ความรู้ไปในตัวด้วย โดยลักษณะรายการจะเป็นการพาท่านผู้ชมเดินทางไปร่วมกันค้นคว้าหาคำตอบในเรื่องราวต่างๆที่หลากหลาย โดยมีอดีตทีมงานรายการ “ย้อนรอย” และหนุ่ม-คงกระพัน แสงสุริยะ มาเป็นผู้ดำเนินรายการเอง
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับผังรายการใหม่ในช่วงสี่ทุ่มนั้น จะเป็นการนำเสนอผังแนวใหม่ จากเดิมที่มีรายการ “ตาสว่าง” อังคาร-ศุกร์ และรายการเป็นปลื้มวันจันทร์ แต่ครั้งนี้จะเลิกทำเป็นสล็อตยาว เพราะต้องการสร้างฐานคนดูที่หลากหลาย โดยส่งรายการ บางอ้อ มาชน ช่วง ห้าทุ่ม
แหล่งข่าวจากวงการทีวี ให้ความเห็นถึงผังของช่องโมเดิร์นไนน์นี้ว่า เป็นการปรับตัวอีกครั้ง หลังจากที่จัดสล็อตเวลาเป็นรายการเดียวมาตลอดคือ ตาสว่างวันอังคาร-ศุกร์ และวันจันทรรายการเป็นปลื้ม ซึ่งยึดตามความสำเร็จเดิมที่รายการ “ถึงลูกถึงคน” ทำไว้ มีตลอดทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เพราะคิดว่ายังมีฐานผู้ชมประจำอยู่จึงทำตามเดิม แต่ในช่วงหลังฐานผู้ชมเริ่มเปลี่ยนไป จึงต้องกลับมาจัดผังใหม่เป็น รายการแต่ละวันไม่เหมือนกัน เพื่อรักษาฐานผู้ชมเอาไว้
ขณะที่ช่อง 5 ที่มีรายการ “คืนนี้ วันนั้น” ของเจเอสแอลดูออกจะเหนื่อยหน่อย เพราะเป็นรองทั้งเรตติ้งผู้ชมและสถานี และเวลาของรายการก็มีเพียงชั่วโมงเดียว ส่วนห้าทุ่มเป็นรายการ “สะบัดช่อ” ของค่ายทีวีธันเดอร์ เป็นวาไรตี้แนวบันเทิงเต็มตัว
นายวัชระ แวววุฒินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ เอส แอล จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ทางทีมงานกำลังศึกษาเพื่อปรับรูปแบบรายการใหม่อยู่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวของช่องอื่นเข้ามาในช่วงเวลาสี่ทุ่มนี้ เราก็เตรียมปรับอยู่แล้ว เพราะจะมีการประเมินทุก 3 เดือน 6 เดือน อยู่แล้ว และตอนนี้ก็ได้เวลาพอดี อย่างไรก็ตาม เรายังคงแก่นของรายการไว้เหมือนเดิมคือ ให้แขกรับเชิญพูดถึงความผูกพันกับเพลงของแขกรับเชิญ แต่คงต้องพลิกรูปแบบการนำเสนอให้ดูมีชีวิตชีวาตื่นเต้นมากกว่าเดิมที่ค่อนข้างจะเรียบง่ายเกินไป
ส่วนเรื่องโฆษณานั้น ไม่ต้องห่วง แม้จะไม่เต็ม แต่เจเอสแอลก็ไม่ได้ขาดทุน
“แต่เราก็ไม่ประมาท เพราะมีคู่แข่งใหม่ๆเข้ามาในสล็อตเวลาเดียวกัน ล้วนเป็นรายใหญ่ทั้งนั้น เราก็ต้องปกป้องแชร์ผู้ชม และเม็ดเงินโฆษณาไว้เหมือนกัน” นายวัชระกล่าว
สำหรับตัวยืนอย่าง ตีสิบ เองนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ยี่หระต่อการเข้ามาปะชันกันของแต่ละค่ายผู้จัดผ่านทางช่องต่างๆ เพราะมั่นใจในรูปแบบรายการ และชื่อเสียงที่ติดตลาดมานาน สินค้าโฆษณาจองเต็มหมด ที่สำคัญเป็นผู้นำเรตติ้งในช่วงเวลานี้มาอย่างยาวนาและแข็งแกร่งด้วย
แหล่งข่าวจากวงการมีเดีย วิเคราะห์ว่า รายการตีสิบเป็นรายการที่ติดตลาดและครองเรตติ้งไว้อย่างเหนียวแน่นในช่วงเวลาดังกล่าว ยากที่ค่ายใดจะมาแย่งเรตติ้งหรือแซงหน้าได้ ต้องยอมรับว่าทีมงานเก่งมากในการหาเรื่องใหม่ๆและแปลกๆมานำเสนอได้ตลอดทุกอาทิตย์
กลายเป็นศึกที่ต้องจับตาดู ชนิดที่ห้ามกระพริบตาเลยทีเดียว
เมื่อช่วงเวลาดี สี่ทุ่ม วันอังคาร จะกลายเป็นไพร์มไทม์ที่ สถานีโทรทัศน์ทั้ง 4 ช่องหลัก จะแข่งกันแย่งคนดู โดยผ่านทาง ผู้จัดของแต่ละรายการ
เริ่มที่ช่อง 3 มี รายการ “ตีสิบ” ของวิทวัส สุนทรวิเนตร เป็นตัวเอกยืนพื้น
ส่วนที่ช่อง 5 ก็มีรายการ “คืนนี้ วันนั้น” ของค่ายเจเอสแอล
ขณะที่ช่อง 7 นั้น เพิ่งจะได้พันธมิตรใหม่คือ บริษัท บอร์น ออฟเปอเรชั่น จำกัด ของ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ ที่จะส่งรายการใหม่คือ “คลับ เซเว่น” เข้าปะชันศึกครั้งนี้ จะเริ่มแพร่ภาพวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ทางด้านช่องโมเดิร์นไนน์ ก็เพี่งปรับผังรายการใหม่ แม้อาจจะไม่ได้ชนกันโดยตรง แต่ก็น่าสนใจ โดยแยกเป็นช่วงเวลา 22.00 น. รายการ “คนค้นคน” ของบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ในเครือเจเอสแอล และช่วง 23.00 น. เป็นรายการ “บางอ้อ” รายการใหม่สดๆซิงๆ ของค่าย ดีด็อก ซึ่งมี หนุ่ม-คงกระพันธ์ แสงสุริยะ เป็นเจ้าของรายการ ร่วมกับทางบริษัท ลักส์ 666 จำกัด ของวิลลี่ แมคอินทอช ที่เข้ามาช่วยทางด้านการตลาดให้ ดีเดย์วันที่ 1 ก.ค.นี้เช่นกัน
คงจะกล่าวถึงใครก่อนเป็นอันดับแรกไม่ได้นอกจาก ไตรภพ ในฐานะรายการใหม่แต่หน้าเก่า เพราะแค่เปิดตัวก็ทำเอาฮือฮาไม่น้อย เพราะว่า เวลาเดิม สี่ทุ่มวันอังคารนั้น เป็นรายการของ 7 กะรัต ของบริษัท มีเดียออฟมีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีชาลอต โทณวณิก นั่งแท่นบริหารอยู่ และเป็นบริษัทลูกของช่อง 7 เองด้วย และรายการก็พยายามปรับตัวเริ่มดีวันดีคืนขึ้นมาบ้าง แต่จู่ๆก็มาโดนไตรภพสอยเวลาไปเสียนี่
คลับเซเว่น ที่ไตรภพ พยายามปั้นมานี้ เขาย้ำเสมอว่า เป็นทอล์คโชว์ที่ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งทอล์คโชว์ในไทยเรามีมานานกว่า 17-18 ปีแล้วในเมืองไทย อีกทั้งมั่นใจว่ารายการนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะเป็นรูปแบบรายการวาไรตี้ทอลค์โชว์ ผสมกับรูปแบบรายการใหม่เป็นอินเทอร์แอคทีฟกับผู้ชมได้
“คุณเดารายการผมไม่ออกหรอกว่าจะเป็นอย่างไร แต่ละอาทิตย์รายการของผมจะไม่เหมือนกัน” นายไตรภพ กล่าว
พร้อมกับอ้างว่ารายการนี้ยังได้รับความสนใจจากเอเจนซี่ สินค้ามากมาย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้รายการนี้ก็จะถึงจุดคุ้มทุนด้วยแล้ว
คนวงในทีวี มองว่า ด้วยประสบการณ์ของไตรภพในเวทีบันเทิงวาไรตี้ ยังคงเป็นสิ่งที่มองข้ามรายการคลับเซเว่นไม่ได้ และตอนนี้ก็เป็นรายการแรกที่ไตรภพกลับมาสู่หน้าจอทีวีอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนานจากปัญหาทีไอทีวี ดังนั้นเขาคงต้องทุ่มฝีมือเต็มที่เพื่อหวังจะกลับมาเกิดอีกครั้ง และหวังต่อยอดรายการอื่นๆในช่องอื่นอีกด้วย
ทางด้านโมเดิร์นไนน์ ก็ปล่อยหมัดเด็ด 2 หมัด กระหน่ำทั้งสองรายการ หวังตีโอบเพื่อเรียกคนดูให้มีความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมาย โดยรายการ “คนค้นคน” ถือเป็นสารคดีที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับว่า มีคุณภาพดีรายการหนึ่งของโมเดิร์นไนน์ ในช่วงสี่ทุ่มวันอังคาร
ต่อจากนั้นช่วงเวลาห้าทุ่มก็เป็นรายการ “บางอ้อ” ซึ่งเป็นสารคดีแนวใหม่ ที่ดูสนุก ทันสมัย และให้ความรู้ไปในตัวด้วย โดยลักษณะรายการจะเป็นการพาท่านผู้ชมเดินทางไปร่วมกันค้นคว้าหาคำตอบในเรื่องราวต่างๆที่หลากหลาย โดยมีอดีตทีมงานรายการ “ย้อนรอย” และหนุ่ม-คงกระพัน แสงสุริยะ มาเป็นผู้ดำเนินรายการเอง
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับผังรายการใหม่ในช่วงสี่ทุ่มนั้น จะเป็นการนำเสนอผังแนวใหม่ จากเดิมที่มีรายการ “ตาสว่าง” อังคาร-ศุกร์ และรายการเป็นปลื้มวันจันทร์ แต่ครั้งนี้จะเลิกทำเป็นสล็อตยาว เพราะต้องการสร้างฐานคนดูที่หลากหลาย โดยส่งรายการ บางอ้อ มาชน ช่วง ห้าทุ่ม
แหล่งข่าวจากวงการทีวี ให้ความเห็นถึงผังของช่องโมเดิร์นไนน์นี้ว่า เป็นการปรับตัวอีกครั้ง หลังจากที่จัดสล็อตเวลาเป็นรายการเดียวมาตลอดคือ ตาสว่างวันอังคาร-ศุกร์ และวันจันทรรายการเป็นปลื้ม ซึ่งยึดตามความสำเร็จเดิมที่รายการ “ถึงลูกถึงคน” ทำไว้ มีตลอดทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เพราะคิดว่ายังมีฐานผู้ชมประจำอยู่จึงทำตามเดิม แต่ในช่วงหลังฐานผู้ชมเริ่มเปลี่ยนไป จึงต้องกลับมาจัดผังใหม่เป็น รายการแต่ละวันไม่เหมือนกัน เพื่อรักษาฐานผู้ชมเอาไว้
ขณะที่ช่อง 5 ที่มีรายการ “คืนนี้ วันนั้น” ของเจเอสแอลดูออกจะเหนื่อยหน่อย เพราะเป็นรองทั้งเรตติ้งผู้ชมและสถานี และเวลาของรายการก็มีเพียงชั่วโมงเดียว ส่วนห้าทุ่มเป็นรายการ “สะบัดช่อ” ของค่ายทีวีธันเดอร์ เป็นวาไรตี้แนวบันเทิงเต็มตัว
นายวัชระ แวววุฒินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ เอส แอล จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ทางทีมงานกำลังศึกษาเพื่อปรับรูปแบบรายการใหม่อยู่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวของช่องอื่นเข้ามาในช่วงเวลาสี่ทุ่มนี้ เราก็เตรียมปรับอยู่แล้ว เพราะจะมีการประเมินทุก 3 เดือน 6 เดือน อยู่แล้ว และตอนนี้ก็ได้เวลาพอดี อย่างไรก็ตาม เรายังคงแก่นของรายการไว้เหมือนเดิมคือ ให้แขกรับเชิญพูดถึงความผูกพันกับเพลงของแขกรับเชิญ แต่คงต้องพลิกรูปแบบการนำเสนอให้ดูมีชีวิตชีวาตื่นเต้นมากกว่าเดิมที่ค่อนข้างจะเรียบง่ายเกินไป
ส่วนเรื่องโฆษณานั้น ไม่ต้องห่วง แม้จะไม่เต็ม แต่เจเอสแอลก็ไม่ได้ขาดทุน
“แต่เราก็ไม่ประมาท เพราะมีคู่แข่งใหม่ๆเข้ามาในสล็อตเวลาเดียวกัน ล้วนเป็นรายใหญ่ทั้งนั้น เราก็ต้องปกป้องแชร์ผู้ชม และเม็ดเงินโฆษณาไว้เหมือนกัน” นายวัชระกล่าว
สำหรับตัวยืนอย่าง ตีสิบ เองนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ยี่หระต่อการเข้ามาปะชันกันของแต่ละค่ายผู้จัดผ่านทางช่องต่างๆ เพราะมั่นใจในรูปแบบรายการ และชื่อเสียงที่ติดตลาดมานาน สินค้าโฆษณาจองเต็มหมด ที่สำคัญเป็นผู้นำเรตติ้งในช่วงเวลานี้มาอย่างยาวนาและแข็งแกร่งด้วย
แหล่งข่าวจากวงการมีเดีย วิเคราะห์ว่า รายการตีสิบเป็นรายการที่ติดตลาดและครองเรตติ้งไว้อย่างเหนียวแน่นในช่วงเวลาดังกล่าว ยากที่ค่ายใดจะมาแย่งเรตติ้งหรือแซงหน้าได้ ต้องยอมรับว่าทีมงานเก่งมากในการหาเรื่องใหม่ๆและแปลกๆมานำเสนอได้ตลอดทุกอาทิตย์