xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ผลิตทีไอทีวี ร้องรัฐทำเจ๊ง คนข่าวบอกถ้าเจ๋งไม่ต้องกลัวตกงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ผลิตรายการช่อง “ทีไอทีวี” เตรียมลงชื่อร้องเรียนกรมประชาสัมพันธ์กรณีสั่งปิดสถานีทำรายการเจ๊ง “ก่อเกียรติ” โวย “อธิบดี” ไม่มีสิทธิ์ปิดช่องทำมาหากิน อ้างยังเหลือเวลาทำงานอีก 2 เดือน ขณะที่อดีตคนข่าวทีไอทีวี “สายสวรรค์-ปวีณมัย” บอกอดีตเพื่อนร่วมงาน ไม่ต้องกลัวตกงานถ้ามีความสามารถจริง

ปิดฉากเผาจริงๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสถานีโทรทัศน์ “ไอทีวี” ที่ถูกเผาหลอกด้วยการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ทีไอทีวี” ได้พักหนึ่ง หลังคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์ที่ 25/2551 เรื่องให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 ซึ่งลงนามโดย นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้มีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืนวันที่ 14 ม.ค.

เป็นผลให้สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีต้องหยุดออกอากาศรายการปัจจุบันภายใต้ผังเดิมทั้งหมดตั้งแต่หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาเพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนถ่ายเป็น “ทีวีสาธารณะ”

ภายหลังจากการปิดตัวของไอทีวีดังกล่าว ในช่วงเช้าของวันนี้ ทางผู้จัดและผู้ประกาศข่าวบางส่วนก็ได้เข้าเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เพื่อให้ทบทวนต่อคำสั่งที่ว่า ขณะที่ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์เอง อาทิ นายสมพงษ์ วรรณภิญโญ ผู้บริหารของทีวีธันเดอร์, นายก่อเกียรติ ลิมปพัทธ์ ของทางบริษัท บอร์น แอสโซซิแอท ก็ได้มีการหารือเบื้องต้นที่สตูดิโอ กันตนา แยกเหม่งจ๋าย พร้อมมีมติว่าจะให้ทางผู้ผลิตรายการให้มาร่วมลงชื่อยื่นเรื่องต่อกรมประชาสัมพันธ์ เนื่องจากจะทวงสัญญาให้ออกอากาศต่ออีก 2 เดือน และกล่าวว่า อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รอฝ่ายสอบสวนพิเศษสอบสวนกรณีดังกล่าวอีกครั้ง

“ประสาน” นักวิชาการอิสระที่เข้ามาช่วยดูในส่วนของข้อกฎหมายของ “ทีไอทีวี” ที่มีต่อกรมประชาสัมพันธ์โดยได้ชี้แจงว่า...

“เนื่องจากพวกท่านผู้ผลิตทั้งหลายได้ทำหนังสือไปถึงกรมในวันที่ 21 ธ.ค.2550 เพื่อขอต่อสัญญาอีก 3 เดือน ปรากฏว่า หลังจากสิ้น ธ.ค.แล้วไม่ได้มีการแจ้งอะไรกลับมายังท่านเลยขณะเดียวกัน กลับมีออเดอร์มายังท่านทั้งหลายผลิตรายการ จัดเทปกันต่อปกติแล้วพบว่าหลังจากครบกำหนดสัญญาที่ทำกันแล้วเนี่ย ทางกรมเองก็มีการนำรายการของท่านทั้งหลายที่ได้รับการอนุมัติแล้วไปจัดผังออกรายการปกติเรื่อยมาเสมือนหนึ่งว่าเป็นการยอมรับการต่อสัญญาโดยปริยาย”

“เมื่อเป็นการรับต่อสัญญาโดยปริยายแล้วจู่ๆ วันที่ 11 ม.ค.2551 ทางกรมถึงส่งร่างหนังสือสัญญาใหม่แต่กำหนดเพียงแค่ 1 เดือนซึ่งมันไม่ตรงกับเจตนารมณ์ที่เขาได้แจ้งไว้วันที่ 21 ธ.ค.2550 เพราะฉะนั้นจุดใหญ่ในวันนี้ของเราคือว่าเชิญทุกท่านมาลงนามในหนังสือที่จะไปถึงกรม 1.คือ การต่อสัญญา 3 เดือน กับฉบับที่ 2 คือ การทวงสัญญาอีก 2 เดือนที่เหลือให้ครบ 3 เดือนเท่านั้นเอง”

“ก่อเกียรติ ลิมปพัทธ์” ผู้บริหาร บอร์นฯ ที่ถูกมองเป็นหัวเรือใหญ่ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ วอนขอให้ผู้ผลิตรายการทุกคนใจเย็นรอฟังผลไต่สวนฉุกเฉินของศาลพร้อมลั่นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีสิทธิ์ปิด “ทีไอทีวี”

“ตอนนี้เงื่อนไขกติกาเปลี่ยนหมด เพราะตอนนี้เราโดนบอกเลิกสัญญาโดยปริยายนะครับ ปิดช่องเลย คุณไตรภพ กับทางผู้ใหญ่ที่ทีไอทีวีฝากบอกทุกท่านกรุณาใจเย็นก่อน ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็ตามเกิดขึ้นน่ะนะครับว่าทางศาลจะว่าอย่างไรแล้วสำคัญที่สุดเลยขอให้พวกเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ถ้าใครคิดว่าไม่อยากร่วมอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใครยังคิดว่ายังมีอนาคตที่เราดำเนินการร่วมกันก็จขอให้เป็นหนึ่งเดียว”

“อาการใจร้อนหรือการทำอะไรแบบสะใจหรืออยากออกอาการบ้าง ทำง่ายแล้วแต่ทำไปแล้วมันเอากลับมาไม่ได้นะครับเพราะฉะนั้นอยากให้ใจเย็นนิดหนึ่ง ตอนนี้เรารอศาลอยู่รอให้ไต่สวนฉุกเฉินถ้าท่านเมตตาท่านคงบอกเราว่าทำอะไรได้บ้าง 1 2 3 4 นะครับแต่ตอนนี้ก็ออกมาแล้วว่าเขาแต่งตั้งกรรมการแล้ว 5 คนไปดำเนินการ”

“ตอนนี้เรากำลังไปเรียกร้องว่าอธิบดีไม่มีสิทธิ์ปิดช่อง คณะกรรมการ 5 คนนี้เท่านั้นที่มีสิทธิ์และก็ไม่ต้องรีบร้อนทำถึงขนาดนี้ เพราะว่าขนาดเราเอกชนด้วยกันเรายังไม่กล้วบอกพนักงานเลยว่าพรุ่งนี้พี่จะปิดบริษัทแล้วนะ หรือแม้แต่พนักงานจะลาออกไม่มีใครมาบอกว่าพรุ่งนี้หนูจะลาออกแล้วนะ โดยธรรมเนียมการทำมาหากินทั่วไปมันเป็นอย่างนั้น”

ด้านคนข่าวที่เคยอยู่ใต้ชายคาทีไอทีวี มาก่อนอย่าง “สายสวรรค์ ขยันยิ่ง” ซึ่งปัจจุบันย้ายมาอยู่ช่อง 3 ในฐานะครอบครัวข่าวคนใหม่ ฝากถึงพี่น้องทีไอทีวี ผ่านรายการว่า ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าคนไอทีวีทำงานมาหนัก และเชื่อว่าไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหลังไหนคนไอทีวีก็เอาตัวรอดได้

“เราถูกฝึกกันหนักมาก เราทำงานกันแบบว่ามีอุปสรรคยังไงก็ต้องทำงานหน้าจอให้เรียบร้อย ประเภทที่เรียกว่าสู้ตาย ก็เชื่อมั่นว่า พี่ๆ น้องๆ ชาวไอทีวีทุกคนก็จะใช้ทักษะ ใช้ประสบการณ์ที่เราถูกฝึกมาหนักๆ ไปทำในสิ่งที่มันเป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านเก่าชื่อใหม่ เป็นทีวีสาธารณะ หรือจะไปอยู่บ้านใหม่ เชื่อว่าทุกคนตั้งใจทำงานกัน มีความสามารถ ยังไงเราก็จะพัฒนาตัวเองไปทำสิ่งที่ดีๆ ต่อไปได้”

ขณะที่อีกหนึ่งอดีตคนข่าวของ (ที)ไอทีวี “น้ำตาล ปวีณมัย บ่ายคล้อย” เองซึ่งได้ออกมาจากสถานีแห่งนี้นานกว่า 8 เดือนแล้ว เผยว่า ตนเองก็เคยยืนอยู่ในจุดที่ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงมาก่อนหน้านี้ และตนก็เชื่อว่า หากคนข่าวของทีไอทีวีมีฝีมือในการทำงานจริงๆ ก็ไม่น่าจะวิตกแต่อย่างใด

“เมื่อคืนก็รอดูนะคะช่วงที่จะเปลี่ยนผ่าน ในฐานะคนเคยอยู่ที่ไอทีวีมา จริงๆ ตาลเองก็ออกมาก่อน เลยจุดเปลี่ยนผ่านสำหรับตาลมาแล้ว ส่วนคนคนที่เขาอยู่ ก็มีหลายส่วนที่เขาเองก็มั่นใจว่ามันจะไปได้ แต่สำหรับตาลตอนนั้นตาลไม่รอเพื่อนเพราะตาลมองว่าตาลเองก็มีฝันไงคะ อยากออกมาทำบริษัท มีรายการของตัวเอง มันมีเหตุให้ต้องคิด เพราะว่าการทำงานเราจะต้องเปลี่ยนไป ตาลก็เลยออกมาก่อน”

“สำหรับคนที่อยู่อย่างที่บอกแหละค่ะ ถ้าเราดีก็ไม่ต้องกลัวมีที่รองรับเราแน่ๆ นะตาลคิดแบบนั้น”

เผยรู้สึกเสียดายแต่ไม่ใช่เสียดายเรื่องคนจะตกงาน หากแต่เสียดายในบทบาทของความเป็นสื่อฯ หากในอนาคตสถานีแห่งนี้จะยังถูกใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่

“ตอนนี้ตาลจะบอกว่าตาลเสียดาย แต่ตาลไม่ได้เสียดายที่ว่าคนไอทีวีจะตกงานนะ แต่ตาลเสียดายการทำหน้าที่สื่อ ถ้าสมมติว่า การเข้ามาทำงานภายใต้ระบบใหม่ ไปในทางที่เป็นประโยชน์ตาลไม่ได้ว่า แต่ถ้าอยู่ใต้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือไม่เป็นประโยชน์ มีอะไรแอบแฝง แล้วเสียสถานีไป ตาลก็เสียดายค่ะ เสียดายตรงนั้น“

“ส่วนพวกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เคยทำงานกันมาก่อนตาลว่ามีคนให้กำลังใจอยู่แล้วล่ะ ตาลเองก็ให้กำลังใจกันมาตลอด และก็อย่างที่บอก สำหรับคนที่ดีมีความสามารถตาลว่าไม่ต้องกลัวอะไรนะ หางานใหม่ได้อยู่แล้ว”



กำลังโหลดความคิดเห็น