เอเอฟพี - ประธานาธิบดีมาหมุด อาหมัดดิเนจัดแห่งอิหร่าน วานนี้(17)ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้อย่างรุนแรง โดยชี้ว่าเป็นการปั่นราคาซึ่งไม่สะท้อนกับสภาพความเป็นจริงของตลาดที่มีปริมาณน้ำมันอย่างเพียงพอ และกล่าวว่าสาเหตุหลักอีกประการหนึ่งก็คือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ร่วงลงอย่างรุนแรง
"อัตราเพิ่มของการบริโภคนั้นต่ำกว่าอัตราเพิ่มของการผลิตเสียอีก" อาหมัดดิเนจัดกล่าวในการประชุมกองทุนเพื่อการพัฒนาของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ที่เมืองอิสฟาฮานของอิหร่าน
"ตลาดมีปริมาณน้ำมันอย่างพอเพียง แต่ราคากลับทะยานขึ้นเรื่อย ๆ อันเป็นสถานการณ์ที่ถูกสร้างให้เกิดขึ้น" โดยมหาอำนาจต่าง ๆในโลกนี้ เขากล่าวต่อ
อาหมัดดิเนจัดซึ่งเป็นผู้นำของประเทศผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับสองในโอเปก ได้ย้ำตลอดมาว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงเรื่อยมาไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานของตลาด และมีปัจจัยหลักอยู่ที่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
"มีมือลึกลับของมหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งเข้ามาควบคุมราคาให้พุ่งขึ้นเช่นนี้" เขากล่าว
นอกจากนี้อาหมัดดิเนจัดก็ยังได้กล่าวอีกว่า การที่ "มหาอำนาจทั้งหลาย" ทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นก็เพื่อ "เอาเม็ดเงินไปใช้ในการสงครามและการยึดครอง รวมทั้งขยายบทบาทการลงทุนเพื่อนำเอาแหล่งทรัพยากรพลังงานใหม่ ๆที่อยู่ใต้พื้นมหาสมุทร ทั้งที่ขั้วโลกทั้งสอง และที่อื่น ๆขึ้นมาใช้"
เมื่อคืนนี้(16)ราคาน้ำมันดิบไลต์สวีตครูดพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคมอีก 200,000 ตัน หลังจากเพิ่ม 300,000 ตันในเดือนมิถุนายนไปแล้ว แต่ครั้นถึงตอนปิดตลาด ไลต์สวีตครูดก็กลับลดลงปิดที่ 134.61 ดอลลาร์ ต่ำกว่าตอนปิดวันศุกร์(13) 25 เซ็นต์
คำกล่าวของอาหมัดดิเนจัด มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมระดับสูงที่เมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะมีทั้งประเทศผู้ผลิตทั้งนอกและในโอเปก และประเทศผู้ซื้อน้ำมันรายสำคัญ เข้าร่วมหารือกันในเรื่องราคาน้ำมัน
โอเปกผลิตน้ำมันได้ราว 40%ของปริมาณน้ำมันทั้งโลก และก็ถูกตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงหลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5 เท่านับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา แต่ทางโอเปกตอบโต้ว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกนั้นมีเพียงพอต่อความต้องการไม่ได้ขาดแคลนเลย ราคาในปัจจุบันนั้นไม่สะท้อนถึงความเป็นจริง อีกทั้งไม่ได้เป็นความผิดของพวกตน
อาหมัดดิเนจัดย้ำว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ร่วงลงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาระดับโลกในขณะนี้ เพราะมัน"ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโดยเฉพาะด้วย"
อาหมัดดิเนจัดได้นำเอาข้อเสนอเดิมที่ยืนไว้ในที่ประชุมสุดยอดโอเปกเมื่อหกเดือนกลับมาขึ้นมาอีกครั้ง โดยเขาได้เสนอให้กลุ่มประเทศโอเปกร่วมกันสร้างระบบเงินตราขึ้นใหม่เพื่อให้ใช้เป็นอัตราแลกเปลี่ยนกลางสำหรับซื้อขายน้ำมัน เพราะว่าหากดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ เงินตราต่างประเทศสำรองของประเทศโอเปกก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ข้อเสนอนี้ประธานาธิบดีแห่งอิหร่านไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกกลุ่มโอเปกอื่น ๆ เลยยกเว้นแต่เวเนซุเอลา ซึ่งอาหมัดดิเนจัดก็ตอบแทนด้วยการสนับสนุนข้อเสนอของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซแห่งเวเนซุเอลาที่ให้กลุ่มประเทศโอเปกก่อตั้งธนาคารเพื่อใช้คานกับอิทธิพลของสหรัฐฯในโลกนี้ และเขาก็ยังเสนอให้มีการตั้งตลาดค้าน้ำมันที่เป็นของกลุ่มประเทศโอเปกเองด้วย
"ผมขอนำเอาข้อเสนอที่เสนอไว้เมื่อหกเดือนก่อนในการประชุมสุดยอดโอเปกในริยาดกลับมาอีกครั้ง เพื่อสร้างตะกร้าเงินสกุลที่สามารถอ้างอิงไว้เพื่อจะไว้ใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการซื้อขายน้ำมัน" อาหมัดดิเนจัดกล่าว "หรือทางเลือกอีกหนึ่งก็คือ กลุ่มประเทศโอเปกอาจจะสร้างเงินสกลุใหม่ขึ้นมาเพื่อซื้อขายน้ำมันโดยเฉพาะก็ได้"
"อัตราเพิ่มของการบริโภคนั้นต่ำกว่าอัตราเพิ่มของการผลิตเสียอีก" อาหมัดดิเนจัดกล่าวในการประชุมกองทุนเพื่อการพัฒนาของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ที่เมืองอิสฟาฮานของอิหร่าน
"ตลาดมีปริมาณน้ำมันอย่างพอเพียง แต่ราคากลับทะยานขึ้นเรื่อย ๆ อันเป็นสถานการณ์ที่ถูกสร้างให้เกิดขึ้น" โดยมหาอำนาจต่าง ๆในโลกนี้ เขากล่าวต่อ
อาหมัดดิเนจัดซึ่งเป็นผู้นำของประเทศผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับสองในโอเปก ได้ย้ำตลอดมาว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงเรื่อยมาไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานของตลาด และมีปัจจัยหลักอยู่ที่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
"มีมือลึกลับของมหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งเข้ามาควบคุมราคาให้พุ่งขึ้นเช่นนี้" เขากล่าว
นอกจากนี้อาหมัดดิเนจัดก็ยังได้กล่าวอีกว่า การที่ "มหาอำนาจทั้งหลาย" ทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นก็เพื่อ "เอาเม็ดเงินไปใช้ในการสงครามและการยึดครอง รวมทั้งขยายบทบาทการลงทุนเพื่อนำเอาแหล่งทรัพยากรพลังงานใหม่ ๆที่อยู่ใต้พื้นมหาสมุทร ทั้งที่ขั้วโลกทั้งสอง และที่อื่น ๆขึ้นมาใช้"
เมื่อคืนนี้(16)ราคาน้ำมันดิบไลต์สวีตครูดพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคมอีก 200,000 ตัน หลังจากเพิ่ม 300,000 ตันในเดือนมิถุนายนไปแล้ว แต่ครั้นถึงตอนปิดตลาด ไลต์สวีตครูดก็กลับลดลงปิดที่ 134.61 ดอลลาร์ ต่ำกว่าตอนปิดวันศุกร์(13) 25 เซ็นต์
คำกล่าวของอาหมัดดิเนจัด มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมระดับสูงที่เมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะมีทั้งประเทศผู้ผลิตทั้งนอกและในโอเปก และประเทศผู้ซื้อน้ำมันรายสำคัญ เข้าร่วมหารือกันในเรื่องราคาน้ำมัน
โอเปกผลิตน้ำมันได้ราว 40%ของปริมาณน้ำมันทั้งโลก และก็ถูกตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงหลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5 เท่านับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา แต่ทางโอเปกตอบโต้ว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกนั้นมีเพียงพอต่อความต้องการไม่ได้ขาดแคลนเลย ราคาในปัจจุบันนั้นไม่สะท้อนถึงความเป็นจริง อีกทั้งไม่ได้เป็นความผิดของพวกตน
อาหมัดดิเนจัดย้ำว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ร่วงลงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาระดับโลกในขณะนี้ เพราะมัน"ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโดยเฉพาะด้วย"
อาหมัดดิเนจัดได้นำเอาข้อเสนอเดิมที่ยืนไว้ในที่ประชุมสุดยอดโอเปกเมื่อหกเดือนกลับมาขึ้นมาอีกครั้ง โดยเขาได้เสนอให้กลุ่มประเทศโอเปกร่วมกันสร้างระบบเงินตราขึ้นใหม่เพื่อให้ใช้เป็นอัตราแลกเปลี่ยนกลางสำหรับซื้อขายน้ำมัน เพราะว่าหากดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ เงินตราต่างประเทศสำรองของประเทศโอเปกก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ข้อเสนอนี้ประธานาธิบดีแห่งอิหร่านไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกกลุ่มโอเปกอื่น ๆ เลยยกเว้นแต่เวเนซุเอลา ซึ่งอาหมัดดิเนจัดก็ตอบแทนด้วยการสนับสนุนข้อเสนอของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซแห่งเวเนซุเอลาที่ให้กลุ่มประเทศโอเปกก่อตั้งธนาคารเพื่อใช้คานกับอิทธิพลของสหรัฐฯในโลกนี้ และเขาก็ยังเสนอให้มีการตั้งตลาดค้าน้ำมันที่เป็นของกลุ่มประเทศโอเปกเองด้วย
"ผมขอนำเอาข้อเสนอที่เสนอไว้เมื่อหกเดือนก่อนในการประชุมสุดยอดโอเปกในริยาดกลับมาอีกครั้ง เพื่อสร้างตะกร้าเงินสกุลที่สามารถอ้างอิงไว้เพื่อจะไว้ใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการซื้อขายน้ำมัน" อาหมัดดิเนจัดกล่าว "หรือทางเลือกอีกหนึ่งก็คือ กลุ่มประเทศโอเปกอาจจะสร้างเงินสกลุใหม่ขึ้นมาเพื่อซื้อขายน้ำมันโดยเฉพาะก็ได้"
