xs
xsm
sm
md
lg

ตีกลับผลสินบนปธ.วุฒิกลัวถูกฟ้องให้ซุกคนผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 9.30 น. วานนี้ (13 มิ.ย.) มีการประชุมวุฒิสภาวิสามัญนัดแรก โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธาน ได้พิจารณา รายงานพิจารณาศึกษาสอบสวน เรื่องข่าวการให้ค่าตอบแทนในการเลือกประธานวุฒิสภา ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการประชุมลับ
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นผลมาจากกรณีที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ว่า มีการล็อบบี้เสนอให้เงินเพื่อให้เลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภา ทั้งนี้การสอบสวนของคณะกรรมาธิการ ระบุว่าไม่พบพยานหลักฐานว่า มีการกระทำหรือมีการเสนอให้เงิน 1 ล้านบาท และรถเบนซ์ 1 คน ตามที่เป็นข่าว แต่เชื่อได้ว่า มีอดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา โดยมีการเสนอผลตอบแทน และมีการรวมกลุ่มของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อสนับสนุนบุคคลเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา นอกจากนี้มีการกระทำของอดีต ส.ส.ขอนแก่น ที่เสนอให้ค่าตอบแทนกับสมาชิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมลับที่ประชุมได้ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงในการอภิปราย โดยส.ว.เลือกตั้ง และส.ว.สรรหา ได้อภิปรายกันอย่างดุเดือด เนื่องจากรายงานดังกล่าว มีการระบุชื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นใน 111 คนที่ถูกตัดสิทธิการเมือง โดยบุคคลดังกล่าวได้ติดต่อผ่านสามีของ ส.ว.คนหนึ่งให้สนับสนุนนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ ให้เป็นประธานวุฒิสภา และมีอดีต ส.ส.ขอนแก่น ได้ติดต่อ ส.ว.ให้สนับสนุน ส.ว.ขอนแก่นเป็นประธาน
ทั้งนี้ส.ว.เลือกตั้งและส.ว.สรรหา ส่วนใหญ่ได้อภิปรายท้วงติงถึงรายงานดังกล่าวว่า ผลการสอบสวนไม่มีมูล กลายเป็นมวยล้มต้มคนดู แต่ทำไมต้องมีการประชุมลับ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ ส.ว.คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้วุฒิสภาได้รับความเสียหาย ซึ่งควรต้องเผยแพร่ให้ประชานรับทราบ และจะต้องมีการรับผิดชอบในเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาพาดพิงนักการเมืองทั้งๆที่ไม่มีหลักฐาน
ในขณะที่ ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า ที่ต้องประชุมลับเพราะมีชื่อบุคคลภายนอก เกี่ยวข้อง พูดไปจะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง หลังจากที่ถกเถียงอย่างเคร่งเครียด โดยไม่มีท่าทีว่าจะยอมกัน ทำให้ที่ประชุมต้องลงมติ ปรากฎว่าเสียงข้างมากให้คณะกรรมาธิการกลับไปปรับปรุงรายงานไม่ให้พาดพิงบุคคลภายนอกอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เดิมคณะกรรมาธิการฯได้ทำรายงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นรายงานเปิดเผยทั่วไปและได้บรรจุในระเบียบการประชุมตั้งแต่สมัยประชุมสามัญสามัญทั่วไปที่ผ่านมา แต่ในรายงานได้ระบุชื่อนักการเมืองชัดเจน ทำให้ ส.ว.หลายคนได้ท้วงติง ว่า ไม่เหมาะสมเพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน มีว่า มีการให้เงิน หรือให้ค่าตอบแทน อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ ทำให้คณะกรรมาธิการต้องนำกลับไปปรับปรุงใหม่ โดยทำเป็นรายงานลับ แต่เนื้อหายังคงเนื้อหาเดิม ที่มีการระบุชื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตส.ส.ขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมวุฒิสภา ได้มีมติให้นำญัตติเรื่อง ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2550 ที่นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีษะเกษ เป็นผู้เสนอ และญัตติเรื่อง ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา เป็นผู้เสนอ นำกลับไปรวมเพื่อเป็นญัตติเดียวกัน เนื่องจาก เป็นญัตติที่มีความคล้ายคลึงกันและขณะนี้สถานการณ์ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยให้เป็นญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญเพียง 1 คณะ เพื่อศึกษารัฐธรรมนูญในทุกมิติก่อนนำกลับมาพิจารณาใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการฯศึกษาในเรื่องต่างๆ จนกระทั่งถึงญัตติเรื่อง ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาผลไม้ราคาตกต่ำซ้ำซาก ที่นายสุพจน์ เลียดประถม ส.ว.ตราด และนายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา เป็นผู้เสนอ ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติเพื่อส่งให้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม ได้ไปศึกษาต่อ ปรากฏว่ามีสมาชิกลงมติเพียง 72 คน ทำให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ได้ท้วงติงเพราะอาจมีปัญหาในเรื่ององค์ประชุม จึงขอให้มีการลงมติใหม่ ทำให้นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ต้องให้สมาชิก แสดงตน ปรากฏว่า มีสมาชิกเพียง 74 คน ซึ่งไม่กึ่งหนึ่งถือว่า องค์ประชุมไม่ครบ ทำให้ประธานสั่งปิดประชุมทันที 16.20 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น