ซีพีเอฟ ดิ้นปรับแผนรับวิกฤตต้นทุนพุ่ง ทั้งวัตถุดิบผลิตอาหาร ราคาน้ำมัน ค่าขนส่ง เล็งปรับราคาสินค้า เผย 5 เดือนแรก รายได้ตามเป้าแต่กำไรลดฮวบ 30%
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการบริหารสายธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯต้องปรับแผนการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อลดต้นทุน เช่น การจัดส่งสินค้ารวมกันครั้งเดียว หรือการใช้พลังงานทดแทน เนื่องจากต้นทุนการขนส่งเวลานี้สูงขึ้นกว่า 10% มาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นตลอด ส่วนราคาวัตถุดิบก็ขยับขึ้นเช่นเดียวกัน เช่น ข้าวกล่อง ต้นทุนสูงขึ้น 18%
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า บริษัทฯอาจจะต้องพิจารณาปรับราคาสินค้าขึ้นบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน หากราคาวัตถุดิบและน้ำมันยังขยับตัวอย่างต่อเนื่องแบบนี้ เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนอีกต่อไปได้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้นับว่ายังดีอยู่มีรายได้เติบโตตามเป้าหมาย แต่ผลกำไรลดลงประมาณ 30% ในสินค้าบางรายการ เพราะผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่คาดว่าหลังจากการปรับแผนดำเนินงานใหม่จะทำให้มีรายได้ถึง 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน
นายสุขวัฒน์ กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ จะขยายตลาดในส่วนของอาหารพร้อมทานแบบกล่องในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นโดยผ่านช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและร้านซีพีเฟรชมาร์ท และตลาดสด เป็นหลัก เพราะพบว่าราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรดีทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น มีการบริโภคข้าวกล่องเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯเติบโต 20% ขณะที่สัดส่วนรายได้มาจากตลาดต่างจังหวัดก็เพิ่มขึ้นเป็น 55% จากเดิมสัดส่วน 40% จึงทำให้เตรียมบุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น
ส่วนธุรกิจฟาสต์ฟู้ดร้านเชสเตอร์กริลล์นั้น ในครึ่งปีหลังวางแผนจะขยายสาขาเพิ่มให้ครบเป็น 150 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีจำนวนสาขา 141 แห่งทั่วประเทศที่เปิดบริการแล้ว โดยใช้งบลงทุนสาขาละ 5 ล้านบาท และตั้งงบประมาณอีก 60-70 ล้านบาท เพื่อการทำตลาด โฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม เป็นต้น ควบคู่ไปกับการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคด้วย
"ล่าสุดภายในปีนี้เราเตรียมขยายตลาดเข้าไปในส่วนของอาหารฮาลาลด้วย โดยใช้แบรนด์ บีเคพีเป็นตัวทำตลาด เมนูอาหารเช่น นักเก็ตไก่ ใส้กรอก ไข่ต้มสุกสมุนไพร เป็นต้น โดยสินค้าที่เตรียมทำตลาดได้ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาลแล้ว จากสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำตลาดเร็วๆนี้"นายสุขวัฒน์กล่าว
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการบริหารสายธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯต้องปรับแผนการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อลดต้นทุน เช่น การจัดส่งสินค้ารวมกันครั้งเดียว หรือการใช้พลังงานทดแทน เนื่องจากต้นทุนการขนส่งเวลานี้สูงขึ้นกว่า 10% มาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นตลอด ส่วนราคาวัตถุดิบก็ขยับขึ้นเช่นเดียวกัน เช่น ข้าวกล่อง ต้นทุนสูงขึ้น 18%
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า บริษัทฯอาจจะต้องพิจารณาปรับราคาสินค้าขึ้นบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน หากราคาวัตถุดิบและน้ำมันยังขยับตัวอย่างต่อเนื่องแบบนี้ เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนอีกต่อไปได้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้นับว่ายังดีอยู่มีรายได้เติบโตตามเป้าหมาย แต่ผลกำไรลดลงประมาณ 30% ในสินค้าบางรายการ เพราะผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่คาดว่าหลังจากการปรับแผนดำเนินงานใหม่จะทำให้มีรายได้ถึง 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน
นายสุขวัฒน์ กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ จะขยายตลาดในส่วนของอาหารพร้อมทานแบบกล่องในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นโดยผ่านช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและร้านซีพีเฟรชมาร์ท และตลาดสด เป็นหลัก เพราะพบว่าราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรดีทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น มีการบริโภคข้าวกล่องเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯเติบโต 20% ขณะที่สัดส่วนรายได้มาจากตลาดต่างจังหวัดก็เพิ่มขึ้นเป็น 55% จากเดิมสัดส่วน 40% จึงทำให้เตรียมบุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น
ส่วนธุรกิจฟาสต์ฟู้ดร้านเชสเตอร์กริลล์นั้น ในครึ่งปีหลังวางแผนจะขยายสาขาเพิ่มให้ครบเป็น 150 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีจำนวนสาขา 141 แห่งทั่วประเทศที่เปิดบริการแล้ว โดยใช้งบลงทุนสาขาละ 5 ล้านบาท และตั้งงบประมาณอีก 60-70 ล้านบาท เพื่อการทำตลาด โฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม เป็นต้น ควบคู่ไปกับการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคด้วย
"ล่าสุดภายในปีนี้เราเตรียมขยายตลาดเข้าไปในส่วนของอาหารฮาลาลด้วย โดยใช้แบรนด์ บีเคพีเป็นตัวทำตลาด เมนูอาหารเช่น นักเก็ตไก่ ใส้กรอก ไข่ต้มสุกสมุนไพร เป็นต้น โดยสินค้าที่เตรียมทำตลาดได้ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาลแล้ว จากสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำตลาดเร็วๆนี้"นายสุขวัฒน์กล่าว