ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 มิ.ย.) มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผลสำรวจ ความเห็นประชาชนเกี่ยวกับทางเลือกของประชาชนต่อวิกฤตประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-4 มิ.ย.จากกลุ่มตัวอย่าง 1,457 ตัวอย่างในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 3 จังหวัด พบว่า ร้อยละ 67.30 มองว่าประเทศไทยเกิดวิกฤตเชิงโครงสร้าง ซึ่งแสดงออกขัดเจนที่วิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ พลังงาน สังคม วัฒนธรรม ตามลำดับ รองลงมา ร้อยละ 18.01 ไม่แน่ใจ และที่เหลือร้อยละ 14.69 เห็นว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤตเชิงโครงสร้าง
ขณะเดียวกันประชาชนร้อยละ 36.50 มองว่าผู้ชุมนุมควรสลาย การชุมนุมเอง แต่ก็ไม่มากเท่ากับที่เห็นว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ควรยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือลาออก ร้อยละ 21.58 และร้อยละ20.50 รวมกัน มีเพียงส่วนน้อย คือร้อยละ 7.67 ที่เห็นว่าทหารควรทำรัฐประหาร ร้อยละ 4.83 ควรเร่งรัฐธรรมนูญโดยเร็ว ร้อยละ 2.93 รัฐบาลทำรัฐประหารตนเองเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือร้อยละ 2.75 รัฐบาลสลายการชุมนุม
พร้อมกับเสนอต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลต้องไม่แยกสลายการชุมนุม อย่างสันติของประชาชนด้วยความรุนแรงเด็ดขาด ทหารไม่ว่าฝ่ายใดต้องไม่ทำรัฐประหารอีก และหากรัฐบาลไม่สามารถแก้วิกฤตทางการเมืองที่กำลังเผชิญได้ควรคืนอำนาจ ให้กับประชาชนโดยเร็ว
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีผลงานมากกว่ารัฐมนตรีบางคน แต่บังเอิญเป็นที่จับตามองทางการเมือง จึงมีการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก และมีแต่ประเด็นการเมือง
“ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการรับผิดชอบปราบปรามยาเสพติด มั่นใจว่า ผลงานที่ผ่านมาด้านยาเสพติดทำได้ดีกว่าร้อยละ 81 บ่อนการพนันลดน้อยลงกว่า ร้อยละ 90 ปัญหาอาชญากรรมที่สำคัญก็น้อยลง โดยเฉพาะการปล้นร้านทอง ส่วนการจัดระเบียบสังคม สามารถควบคุมสถานบันเทิงให้เปิด-ปิดได้ตรงเวลา และเวลา 13.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะเชิญผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่ กทม. มาปรึกษาหารือเรื่องธุรกิจกลางคืนที่สโมสรตำรวจ โดยจะขอความร่วมมือเรื่องการลักลอบขายยาเสพติดในสถานบันเทิง มั่นใจว่าจะขอความร่วมมือได้”
“ปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครองเสนอให้ผมไปดูงาน ที่สิงคโปร์ เพราะถือเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการศาลท้องถิ่น เพราะได้นำแบบอย่างมาจากอังกฤษ เห็นว่าอาจไปตามคำเชิญ”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เร็ว ๆ นี้ ที่จะได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า จะไม่มีการหารือกันเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี เพราะมั่นใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ยุ่งกับการเมือง ส่วนที่จะมีการประชุม ครม.ย่อย นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้รัฐมนตรีทราบว่า ใครว่างก็ให้ไป แต่ส่วนตัวขอดูก่อน เนื่องจากติดภารกิจ
ขณะเดียวกันประชาชนร้อยละ 36.50 มองว่าผู้ชุมนุมควรสลาย การชุมนุมเอง แต่ก็ไม่มากเท่ากับที่เห็นว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ควรยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือลาออก ร้อยละ 21.58 และร้อยละ20.50 รวมกัน มีเพียงส่วนน้อย คือร้อยละ 7.67 ที่เห็นว่าทหารควรทำรัฐประหาร ร้อยละ 4.83 ควรเร่งรัฐธรรมนูญโดยเร็ว ร้อยละ 2.93 รัฐบาลทำรัฐประหารตนเองเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือร้อยละ 2.75 รัฐบาลสลายการชุมนุม
พร้อมกับเสนอต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลต้องไม่แยกสลายการชุมนุม อย่างสันติของประชาชนด้วยความรุนแรงเด็ดขาด ทหารไม่ว่าฝ่ายใดต้องไม่ทำรัฐประหารอีก และหากรัฐบาลไม่สามารถแก้วิกฤตทางการเมืองที่กำลังเผชิญได้ควรคืนอำนาจ ให้กับประชาชนโดยเร็ว
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีผลงานมากกว่ารัฐมนตรีบางคน แต่บังเอิญเป็นที่จับตามองทางการเมือง จึงมีการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก และมีแต่ประเด็นการเมือง
“ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการรับผิดชอบปราบปรามยาเสพติด มั่นใจว่า ผลงานที่ผ่านมาด้านยาเสพติดทำได้ดีกว่าร้อยละ 81 บ่อนการพนันลดน้อยลงกว่า ร้อยละ 90 ปัญหาอาชญากรรมที่สำคัญก็น้อยลง โดยเฉพาะการปล้นร้านทอง ส่วนการจัดระเบียบสังคม สามารถควบคุมสถานบันเทิงให้เปิด-ปิดได้ตรงเวลา และเวลา 13.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะเชิญผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่ กทม. มาปรึกษาหารือเรื่องธุรกิจกลางคืนที่สโมสรตำรวจ โดยจะขอความร่วมมือเรื่องการลักลอบขายยาเสพติดในสถานบันเทิง มั่นใจว่าจะขอความร่วมมือได้”
“ปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครองเสนอให้ผมไปดูงาน ที่สิงคโปร์ เพราะถือเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการศาลท้องถิ่น เพราะได้นำแบบอย่างมาจากอังกฤษ เห็นว่าอาจไปตามคำเชิญ”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เร็ว ๆ นี้ ที่จะได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า จะไม่มีการหารือกันเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี เพราะมั่นใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ยุ่งกับการเมือง ส่วนที่จะมีการประชุม ครม.ย่อย นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้รัฐมนตรีทราบว่า ใครว่างก็ให้ไป แต่ส่วนตัวขอดูก่อน เนื่องจากติดภารกิจ
