ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -ผู้ว่าฯ โคราช ตื่นเร่งสางปัญหาบุกรุกที่ดินของรัฐและพื้นที่ป่า สนอง “เป็ดเหลิม” หุ่นเชิด เผยหน่วยงานเกี่ยวข้องยังงง พื้นที่รับผิดชอบของตัวเองไม่ชัดเจน ขณะที่ปัญหาการบุกรุกเพิ่มมากขึ้นไม่หยุด ระบุที่ราชพัสดุโคราชถูกบุกรุกมากกว่า 2 แสนไร่ เผย คดีอดีตบิ๊กตำรวจบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.ที่ อ.ปากช่อง มีความคืบหน้าไปมาก ตร.ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำและหาพยานเพิ่มเติมเพื่อสาวให้ถึงผู้บุกรุก ยอมรับพื้นที่ดังกล่าวมีการเปลี่ยนมือจำนวนมาก ด้าน ส.ป.ก.จังหวัดฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายคืนรัฐแล้ว
นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยในการสัมมนาการแก้ไขปัญหา การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จ.นครราชสีมา ประจำปี 2551 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 14 หน่วยงานเข้าร่วมประชุมว่า จากรายงานพบว่า การทำงานของหน่วยงานต่างๆ ยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องจำนวนพื้นที่รัฐ โดยเฉพาะปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และที่ดินของรัฐยังมีเกิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่ที่เป็นป่าสมบูรณ์เพียง 1.6 ล้านไร่ หรือประมาณ 15% ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น
สำหรับ ที่ดินราชพัสดุ ซึ่งธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมาดูแล จากการตรวจสอบพบว่า มีที่ดินราชพัสดุทั้งหมดในเขต จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 4 แสนไร่ มีพื้นที่ที่ถูกบุกรุก 212,208 ไร่ ส่วนที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รับมอบมาจากกรมป่าไม้ จำนวน 4,055,931 ไร่ และ มีการประกาศเขตพื้นที่ ส.ป.ก.แล้ว 4,036,394 ไร่ และยังไม่ประกาศ 19,537 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่กันคืนให้กรมป่าไม้จำนวน 160,935 ไร่
ส่วนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมสภาพและได้มอบให้ ส.ป.ก.ดำเนินการปฏิรูปที่ดินตาม มติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 4 พฤษภาคม 2536 เป็นพื้นที่ที่เหมาะต่อการเกษตร และพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ จำนวน 5 แปลงรวมกว่า 2,400 ไร่ พบว่า มีผู้บุกรุกจำนวน 4 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี
นายสุธี กล่าวอีกว่า จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ป่าไม้ที่ประกาศสงวนหวงห้ามตามกฎหมาย รวมเนื้อที่กว่า 6.3 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 38.26 ของพื้นที่จังหวัด โดยแบ่งเป็น ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 9.7 แสนไร่ อุทยานแห่งชาติ 1.4 ล้านไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กว่า 2 แสนไร่ และอุทยานแห่งชาติทับลานเนื้อที่กว่า 1.1 ล้านไร่ ป่าไม้ถาวรของชาติตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 11 แห่ง รวมเนื้อที่กว่า 1 แสนไร่ และพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มเติมจำนวน 6 แห่ง มีเนื้อที่กว่า 1.3 หมื่นไร่ อยู่ใน อ.ปากช่อง และปักธงชัย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของรัฐที่เห็นได้ชัดเจน และอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวน 700 ไร่อยู่ในพื้นที่ อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี ส่วนพื้นที่อื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นอกจากนี้ นายสุธี ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งอาจเกี่ยวพันไปถึงอดีตบิ๊กตำรวจ ว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้วจำนวน 8 คดีขณะนี้เรื่องอยู่ที่พนักงานสอบสวน กำลังเร่งรัดการสอบสวนอยู่ รวมถึงคดีแพ่งที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าคดีดังกล่าว จะต้องทำการสอบสวนมากและมีความสลับซับซ้อน เนื่องจากผู้ที่ครอบครองที่ดินมีอยู่มาก จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและต้องใช้ระยะเวลาในการสอบสวน หากมีความเกี่ยวพัน สาวไปถึงใคร รวมถึงอดีตบิ๊กตำรวจ ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก เพราะที่ดินแปลงที่มีปัญหา มีการครอบครองหลายคนเปลี่ยนมือกันหลายทอดจะต้องสอบสวนให้ละเอียด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกไปหลายรายเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหากผู้ที่ถูกออกหมายเรียกไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
“ขอให้สบายใจได้เลยว่า จะให้ความเป็นธรรม ความถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมายแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน” นายสุธี กล่าว
นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยในการสัมมนาการแก้ไขปัญหา การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จ.นครราชสีมา ประจำปี 2551 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 14 หน่วยงานเข้าร่วมประชุมว่า จากรายงานพบว่า การทำงานของหน่วยงานต่างๆ ยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องจำนวนพื้นที่รัฐ โดยเฉพาะปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และที่ดินของรัฐยังมีเกิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่ที่เป็นป่าสมบูรณ์เพียง 1.6 ล้านไร่ หรือประมาณ 15% ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น
สำหรับ ที่ดินราชพัสดุ ซึ่งธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมาดูแล จากการตรวจสอบพบว่า มีที่ดินราชพัสดุทั้งหมดในเขต จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 4 แสนไร่ มีพื้นที่ที่ถูกบุกรุก 212,208 ไร่ ส่วนที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รับมอบมาจากกรมป่าไม้ จำนวน 4,055,931 ไร่ และ มีการประกาศเขตพื้นที่ ส.ป.ก.แล้ว 4,036,394 ไร่ และยังไม่ประกาศ 19,537 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่กันคืนให้กรมป่าไม้จำนวน 160,935 ไร่
ส่วนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมสภาพและได้มอบให้ ส.ป.ก.ดำเนินการปฏิรูปที่ดินตาม มติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 4 พฤษภาคม 2536 เป็นพื้นที่ที่เหมาะต่อการเกษตร และพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ จำนวน 5 แปลงรวมกว่า 2,400 ไร่ พบว่า มีผู้บุกรุกจำนวน 4 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี
นายสุธี กล่าวอีกว่า จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ป่าไม้ที่ประกาศสงวนหวงห้ามตามกฎหมาย รวมเนื้อที่กว่า 6.3 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 38.26 ของพื้นที่จังหวัด โดยแบ่งเป็น ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 9.7 แสนไร่ อุทยานแห่งชาติ 1.4 ล้านไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กว่า 2 แสนไร่ และอุทยานแห่งชาติทับลานเนื้อที่กว่า 1.1 ล้านไร่ ป่าไม้ถาวรของชาติตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 11 แห่ง รวมเนื้อที่กว่า 1 แสนไร่ และพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มเติมจำนวน 6 แห่ง มีเนื้อที่กว่า 1.3 หมื่นไร่ อยู่ใน อ.ปากช่อง และปักธงชัย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของรัฐที่เห็นได้ชัดเจน และอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวน 700 ไร่อยู่ในพื้นที่ อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี ส่วนพื้นที่อื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นอกจากนี้ นายสุธี ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งอาจเกี่ยวพันไปถึงอดีตบิ๊กตำรวจ ว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้วจำนวน 8 คดีขณะนี้เรื่องอยู่ที่พนักงานสอบสวน กำลังเร่งรัดการสอบสวนอยู่ รวมถึงคดีแพ่งที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าคดีดังกล่าว จะต้องทำการสอบสวนมากและมีความสลับซับซ้อน เนื่องจากผู้ที่ครอบครองที่ดินมีอยู่มาก จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและต้องใช้ระยะเวลาในการสอบสวน หากมีความเกี่ยวพัน สาวไปถึงใคร รวมถึงอดีตบิ๊กตำรวจ ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก เพราะที่ดินแปลงที่มีปัญหา มีการครอบครองหลายคนเปลี่ยนมือกันหลายทอดจะต้องสอบสวนให้ละเอียด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกไปหลายรายเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหากผู้ที่ถูกออกหมายเรียกไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
“ขอให้สบายใจได้เลยว่า จะให้ความเป็นธรรม ความถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมายแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน” นายสุธี กล่าว
