ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ผู้ว่าฯโคราช นำทีมหอบหลักฐาน เข้าแจ้งความจับผู้บุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ สภ.ปากช่องสมใจ “เหลิม” รวม 5 แปลง 5 คดี ผู้ต้องหา 5 คน แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหา ชี้เตรียมสาวให้ถึง 2 บิ๊กตำรวจที่ให้นอมินีถือครองด้วย ด้านผู้การฯ เผย ต้องให้เวลาเจ้าพนักงานในการทำงาน เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครราชสีมาว่า เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ สภ.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายธงชัย ลืออดุลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองที่ดินของรัฐจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บุกรุกครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ดินของรัฐ ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งการเร่งรัด
โดยมี พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศรีลาเขตต์ ผู้กำกับการ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งความด้วยตัวเอง และมอบหมายให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า การเดินทางมาที่ สภ.ปากช่อง ครั้งนี้ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุก ครอบครองพื้นที่ป่า ส.ป.ก.5 แปลง 5 คดี รวมพื้นที่กว่า 2,441 ไร่ อยู่ในพื้นที่ หมู่ 7 บ้านหนองอีเหรอ, หมู่ 9 บ้านกอก, หมู่ 15 บ้านเหนือ และหมู่ 20 บ้านไทยเจริญ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขต 2 ตำบล คือ ต.ปากช่อง และ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีผู้ต้องหารวม 5 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้และในจำนวนที่ดินทั้ง 5 แปลงนี้ มีที่ดินของ อดีต 2 นายตำรวจระดับสูง ที่ใช้ชื่อบุคคลอื่นถือครองไว้ด้วย
“จากนี้ไปการสอบสวนจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการสาวไปให้ถึงอดีต 2 นายตำรวจระดับสูงที่อยู่เบื้องในการครอบครองที่ดินดังกล่าวด้วย และในวันนี้ทางคณะกรรมการ จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกรมป่าไม้บินตรวจสอบพื้นที่ป่า ที่มีการบุกรุกโดยใช้การหาพิกัด GPS ของกรมป่าไม้ตรวจสอบแนวเขต ซึ่งการดำเนินการกับเรื่องนี้ต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชน” นายสุธี กล่าว
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ทางกรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตั้งแต่ปี 2537 แต่ทาง ส.ป.ก.ยังไม่ได้จัดสรรให้เกษตรกร จากนี้ไปเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะติดตามสอบสวนเพิ่มเติมในการเอาผิดกับผู้บุกรุกครอบครองผืนป่าแห่งนี้ ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ระดับจังหวัดได้มอบหลักฐานต่างๆ เป็นเอกสาร และแผนที่ ให้กับพนักงานสอบสวนทั้งหมดแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า คงต้องให้เวลากับเจ้าพนักงานสอบสวน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานในการแจ้งความร้องทุกข์ แต่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามระเบียบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งใน 5 คดีล่าสุดนี้ ทางตำรวจจะได้เรียกตัวผู้เกี่ยวข้องเช่น อบต.ป่าไม้ และ ส.ป.ก.มาสอบปากคำเพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินการกับผู้บุกรุกต่อไป ส่วนจะมีใครบ้างที่บุกรุกป่า ความจริงจะต้องปรากฏให้เห็นอย่างแน่นอนในไม่ช้านี้
