xs
xsm
sm
md
lg

คนเที่ยวเชียงใหม่ลดลงกว่าครึ่ง ททท.ลุยจีบกลุ่มไมซ์-ตอ.กลางเสริม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1(ททท.)
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ททท.เผยจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทย-เทศเข้าเชียงใหม่ยอดลดวูบ อัตราการเข้าพักโรงแรมไม่ถึง 50% เหตุย่างเข้าช่วงโลว์ซีซัน แถมถูกปัจจัยราคาน้ำมันแพงและการเมืองซ้ำเติม พร้อมระบุองค์กรปกครองท้องถิ่นไม่หนุนท่องเที่ยวเท่าที่ควร ชี้หากน้ำมันยังราคาแพงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลการท่องเที่ยวทรุดหนักแน่ ทั้งนี้เตรียมเดินหน้ารุกทำตลาดกลุ่มจัดประชุมสัมมนา และเจาะตลาดนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง หวังชดเชยส่วนที่ขาดหายไป หวังโกยรายได้ท่องเที่ยวปี 51ให้เข้าเป้า 40,000 ล้านบาท
         
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1(ททท.) กล่าวถึงภาวะการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงนี้ได้ย่างเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือช่วงกรีนซีซัน(Green Season) ของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวลดน้อยลง
         
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศในยุโรปที่ลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากในยุโรปผ่านพ้นช่วงหนาวไปแล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยลดจำนวนลง เพราะเวลานี้เป็นช่วงเปิดภาคเรียนที่แต่ละครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่าย เพื่อการศึกษาของลูกหลาน ประกอบกับราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ต้องตัดสินใจยุติหรือชะลอการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้ลง เพราะมีความจำเป็นต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
         
 จากข้อมูลการเข้าพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีอัตราการเข้าพักน้อยกว่าร้อยละ 50 ซึ่งน่าจะเป็นตัวชี้วัดภาวะการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี
         
          สำหรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการท่องเที่ยวในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคาน้ำมันยังคงมีการปรับสูงขึ้นต่อไปอีก เพราะถึงแม้จะมีแหล่งท่องเที่ยวหรือกิจกรรมที่น่าสนใจเพียงใด แต่ก็เปล่าประโยชน์หากนักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาท่องเที่ยว เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
         
          ในส่วนของสถานการณ์ทางการเมือง ก็เป็นปัจจัยอีกส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเมื่อประกอบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านของไทยทั้งพม่าและจีนที่มีการสูญเสียอย่างมาก ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอการเดินทาง เพราะอยู่ในอาการเศร้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
         
          ทั้งนี้แนวทางการกระตุ้นภาวะการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวนั้น นายจุณพงศ์ กล่าวว่า เพื่อไม่ให้จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงนี้ลดลงมากเกินไป ได้มีการประชาสัมพันธ์ทำการตลาดมุ่งเน้นไปที่ตลาดกลุ่มจัดการประชุม และสัมมนาของส่วนราชการและเอกชน เพราะเป็นตลาดที่คาดหวังได้เนื่องจากมีกิจกรรมตลอดทั้งปี ขณะเดียวกันยังได้มีการมุ่งเปิดตลาดนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่นิยมท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนด้วย ซึ่งหวังว่าน่าจะเป็นส่วนเสริมและทดแทนนักท่องเที่ยวที่ลดลงไปได้
         
          “แม้ในช่วงกรีนซีซันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่ลดน้อยลงไป ประกอบกับมีปัจจัยต่างๆ ทั้งราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมือง มาเป็นตัวทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางท่องเที่ยวลง อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ททท.ได้พยายามหาทางไม่ให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปมาก โดยในช่วงนี้ได้หันไปมุ่งทำตลาดกลุ่มจัดประชุมสัมมนาและตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ผลดีในระดับหนึ่ง รวมทั้งยังจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น 10% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 40,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายในปี 2551 นี้” นายจุณพงศ์ กล่าว
         
          นอกจากนี้ ผอ.ททท.ภาคเหนือเขต 1 กล่าวถึงความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ของประเทศ เช่น พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น ตามปกติมักจะได้รับความร่วมมือ และสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นอย่างดี ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของเมืองตัวเอง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทิศทางการประชาสัมพันธ์และการทำตลาดท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีเอกภาพ
         
          ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ แม้จะได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ต้องยอมรับว่ายังได้รับการสนับสนุนดีไม่เท่ากับเมืองอื่นๆ ซึ่งหากสามารถทำได้ก็น่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ มากกว่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น