00 ดูเหมือนจะพยายามโยนหินถามทางกันพอหอมปากหอมคอสำหรับระดับ “วงใน” เครือข่าย “นายใหญ่” ว่าถ้าจะฉวยโอกาสที่ “หมัก” ปล่อยฮุ๊คซ้ายขวา เข้าปลายคางตัวเองเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.จนเกือบน็อกคาเก้าอี้ผู้นำ “หุ่นเชิด” แล้วเตรียมดันก้น “คนกันเอง” เข้ามาเสียบ กระชับอำนาจเพื่อประกันความชัวร์กันอีกชั้นหนึ่ง
00 ว่ากันว่าในหมู่ “ทายาทอสูร” ที่ยืนซอยเท้าอยู่ในแถวสองแถวสามทั้ง “น้องเขย” หรือ “เลี๊ยบ” ต่างรอเสียบกันอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่ายังติดอยู่ที่จังหวะจะโคนไม่อำนวย และไม่ว่ามองในมุมไหนแล้วถือว่าระดับตัวบุคคล “ชื่อชั้น” ยังไม่ถึง ต้องเพลงรอไปอีกยาว
00 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกกับท่าทีของ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ที่ต้องออกมาการันตีคุณภาพของ “หมัก” ว่ามีความเป็นผู้นำดีที่สุด แต่อีกมุมหนึ่งยิ่งพูดแบบนี้มากเท่าไหร่มันก็เหมือนกับการไล่ทางอ้อมนั่นแหละ เพราะยิ่งพูดว่า “ดีเยี่ยม” มากเท่าไหร่มันก็เหมือนแนวร่วมมุมกลับมากระแทกเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นทุกวัน
00 และแม้ยามนี้หมักยังเป็นนายกฯ ไม่มีใครเถียง แต่ถามว่าความชอบธรรมยังเหลืออยู่อีกกี่กิโลขีด ภาพของผู้นำสับปลับวันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้อีกอย่าง หรือกรณีสั่งสลายผู้ชุมนุม เมื่อสั่งแล้วไม่มีใครฟัง มันก็สะท้อนให้เห็นว่ามีการปฏิเสธการ “ลุแก่อำนาจบาตรใหญ่” ของคนที่เป็นผู้นำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะได้อย่างดี ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของคนไทยก็ไม่รู้
00 อย่างไรก็ดีนาทีนี้ไม่ว่าจะมองด้านไหน แม้ว่า “หมัก” จะยอมไปแต่โดยดีหรือถูกถีบให้พ้นไปหรือไม่ แล้วเอาน้องเขยแม้วมาเสียบแทนมันก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มิหนำซ้ำยังกลับเข้าสู่วงจรของ “ระบอบทักษิณ” แบบเบ็ดเสร็จ โดยที่ “เฮียเหลี่ยม” คอยชักใยอยู่ข้างหลังได้ถนัดถนี่มากขึ้น มันก็เหมือนกับเตะหมักเข้าปากน้องเขย หนักยิ่งกว่าเก่า
00 อีกด้านหนึ่งโฟกัสให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นทุกทีว่า ระบอบทักษิณ ที่ใครหลายคนบอกว่ากำลังถอยฉาก นาทีนี้ได้รุกคืบเข้ามาเกือบจะถึงจุดเดิมแล้ว โดยเฉพาะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ล่าสุดมีการแบ่งงานให้ “พี่เขยแม้ว” เข้ามาคุมคดีสำคัญ และมือปืนรับจ้าง ปฏิบัติหน้าที่เสมือน ผบ.ตร.ตัวจริงนั่นเอง
00 น่าจะชัดแล้วกระมังว่า หุ่นเชิดไม่ได้มีแต่ในทำเนียบฯเท่านั้น แต่เริ่มมีให้เห็นที่ปทุมวันด้วยเหมือนกัน กำลังเข้าใกล้ “รัฐตำรวจ” อย่างเต็มรูปแบบอีกไม่นานนี้ ยังเหลืออยู่แต่ในกองทัพเท่านั้นว่าจะอยู่ในมือเมื่อไหร่เท่านั้น
00 อีกเรื่องถ้าจะบอกว่าอยากจะสมน้ำหน้ากับหลายคนที่ยังไม่เคยเข็ดกับความลื่นไหลไร้แก่นสารของ “เติ้ง” กับพรรคชาติไทย หรือแม้กระทั่ง “เสนาะ เทียนทอง” ที่ออกมาแสดงท่าทีขึงขังกับคำพูดของ “หุ่นเชิดหมัก” ในวันประกาศสลายการชุมนุม มองผิวเผินเหมือนกับว่ายืนอยู่ข้างหลักการ ส่งเสียงฮึดฮัด บางคนถึงกับชื่นชมว่านี่อาจเป็นสัญญาณถอนตัว แต่ฝันไปเถอะเพราะถ้ามองย้อนไปในอดีตไม่เคยเห็นคนกลุ่มนี้จะออกยืนข้างหลักการที่ว่านั้นด้วยความสมัครใจ แม้แต่ครั้งเดียว
00 ในทางตรงกันข้ามทุกครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตคนกลุ่มนี้มักจะฉวยโอกาสทำตัวเสมือนนักขู่กรรโชก ต่อรองเพื่อหวังผลประโยชน์เฉพาะหน้าทางการเมือง ขณะเดียวกันอีกฉากหนึ่งก็ยังใจร้ายมาหาความนิยมเอากับมวลชนตีกินไปอีก แหมมันใจร้ายจริงๆ !!
00 ว่ากันว่าในหมู่ “ทายาทอสูร” ที่ยืนซอยเท้าอยู่ในแถวสองแถวสามทั้ง “น้องเขย” หรือ “เลี๊ยบ” ต่างรอเสียบกันอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่ายังติดอยู่ที่จังหวะจะโคนไม่อำนวย และไม่ว่ามองในมุมไหนแล้วถือว่าระดับตัวบุคคล “ชื่อชั้น” ยังไม่ถึง ต้องเพลงรอไปอีกยาว
00 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกกับท่าทีของ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ที่ต้องออกมาการันตีคุณภาพของ “หมัก” ว่ามีความเป็นผู้นำดีที่สุด แต่อีกมุมหนึ่งยิ่งพูดแบบนี้มากเท่าไหร่มันก็เหมือนกับการไล่ทางอ้อมนั่นแหละ เพราะยิ่งพูดว่า “ดีเยี่ยม” มากเท่าไหร่มันก็เหมือนแนวร่วมมุมกลับมากระแทกเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นทุกวัน
00 และแม้ยามนี้หมักยังเป็นนายกฯ ไม่มีใครเถียง แต่ถามว่าความชอบธรรมยังเหลืออยู่อีกกี่กิโลขีด ภาพของผู้นำสับปลับวันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้อีกอย่าง หรือกรณีสั่งสลายผู้ชุมนุม เมื่อสั่งแล้วไม่มีใครฟัง มันก็สะท้อนให้เห็นว่ามีการปฏิเสธการ “ลุแก่อำนาจบาตรใหญ่” ของคนที่เป็นผู้นำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะได้อย่างดี ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของคนไทยก็ไม่รู้
00 อย่างไรก็ดีนาทีนี้ไม่ว่าจะมองด้านไหน แม้ว่า “หมัก” จะยอมไปแต่โดยดีหรือถูกถีบให้พ้นไปหรือไม่ แล้วเอาน้องเขยแม้วมาเสียบแทนมันก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มิหนำซ้ำยังกลับเข้าสู่วงจรของ “ระบอบทักษิณ” แบบเบ็ดเสร็จ โดยที่ “เฮียเหลี่ยม” คอยชักใยอยู่ข้างหลังได้ถนัดถนี่มากขึ้น มันก็เหมือนกับเตะหมักเข้าปากน้องเขย หนักยิ่งกว่าเก่า
00 อีกด้านหนึ่งโฟกัสให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นทุกทีว่า ระบอบทักษิณ ที่ใครหลายคนบอกว่ากำลังถอยฉาก นาทีนี้ได้รุกคืบเข้ามาเกือบจะถึงจุดเดิมแล้ว โดยเฉพาะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ล่าสุดมีการแบ่งงานให้ “พี่เขยแม้ว” เข้ามาคุมคดีสำคัญ และมือปืนรับจ้าง ปฏิบัติหน้าที่เสมือน ผบ.ตร.ตัวจริงนั่นเอง
00 น่าจะชัดแล้วกระมังว่า หุ่นเชิดไม่ได้มีแต่ในทำเนียบฯเท่านั้น แต่เริ่มมีให้เห็นที่ปทุมวันด้วยเหมือนกัน กำลังเข้าใกล้ “รัฐตำรวจ” อย่างเต็มรูปแบบอีกไม่นานนี้ ยังเหลืออยู่แต่ในกองทัพเท่านั้นว่าจะอยู่ในมือเมื่อไหร่เท่านั้น
00 อีกเรื่องถ้าจะบอกว่าอยากจะสมน้ำหน้ากับหลายคนที่ยังไม่เคยเข็ดกับความลื่นไหลไร้แก่นสารของ “เติ้ง” กับพรรคชาติไทย หรือแม้กระทั่ง “เสนาะ เทียนทอง” ที่ออกมาแสดงท่าทีขึงขังกับคำพูดของ “หุ่นเชิดหมัก” ในวันประกาศสลายการชุมนุม มองผิวเผินเหมือนกับว่ายืนอยู่ข้างหลักการ ส่งเสียงฮึดฮัด บางคนถึงกับชื่นชมว่านี่อาจเป็นสัญญาณถอนตัว แต่ฝันไปเถอะเพราะถ้ามองย้อนไปในอดีตไม่เคยเห็นคนกลุ่มนี้จะออกยืนข้างหลักการที่ว่านั้นด้วยความสมัครใจ แม้แต่ครั้งเดียว
00 ในทางตรงกันข้ามทุกครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตคนกลุ่มนี้มักจะฉวยโอกาสทำตัวเสมือนนักขู่กรรโชก ต่อรองเพื่อหวังผลประโยชน์เฉพาะหน้าทางการเมือง ขณะเดียวกันอีกฉากหนึ่งก็ยังใจร้ายมาหาความนิยมเอากับมวลชนตีกินไปอีก แหมมันใจร้ายจริงๆ !!
