นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคอาจเปลี่ยนให้นายสมชาย หรือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคขึ้นมา เป็นนายกฯแทนนายสมัคร สุนทรเวชว่า ไม่มี ตนและสมาชิกพรรคจะสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกฯตลอดไป ในยามนี้นายสมัครเป็นผู้นำที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ดูแลทุกอย่างแบบดีที่สุดแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่เป็นประเด็น ไม่ต้องกังวลและวอกแวก นายสมัครเป็นนายกฯ พวกตนก็ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีและทำงานร่วมกับนายสมัคร ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนไม่รู้เหมือนกัน ยืนยันว่าส.ส.ของพรรคจะสนับสนุนนายสมัคร
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา ปฎิเสธข่าวที่ว่า ส.ส.ในกลุ่มจะหันไปจับมือกับ 5 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากไม่พอใจการบริหารงานของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า แม้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ ส.ส.ย้ายพรรคได้ แต่ยืนยันว่ากลุ่มเราไม่เป็นคลื่นใต้น้ำ ไปโหวตหรืออยู่กับพรรคอื่น จนกลายเป็นงูเห่า ภาค 2 กลุ่มเราไม่ใช่พอไม่สมประโยชน์แล้วก็ไป ขอยืนยันว่าจะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชาชนไม่คิดทรยศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นไปได้อยากที่จะให้ 5 พรรคร่วมรัฐบาลมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล เพราะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคงไม่ยอม และที่สุดจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การยุบสภาได้ ดังนั้นพรรคจึงไม่คิดที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
“สิ่งที่ผมอยากเห็นตอนนี้คือพรรคร่วมรัฐบาลประกาศว่าเห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สังคมจะได้สบายใจ”
นายจุรินทร์ กล่าวว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลต้องการเร่งระยะเวลาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำได้ เช่นตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาหลายๆ คณะ เพื่อให้ศึกษาไปพร้อมๆ กัน จะทำให้ไม่ล่าช้า เกินไป ซึ่งสามารถเอาคนนอก ทั้งนักวิชาการ ภาคประชาชนมาเป็นกรรมาธิการฯได้
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ระหว่างพาลูกพรรตครวม 28 คนไปพักผ่อนที่ฮ่องกง ถึงท่าทีของพรรคชาติไทย ในการร่วมรัฐบาล โดยยกมือในลักษณะห้ามพร้อมกล่าวว่า เรื่องนี้ผมไม่พูด
ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย บุตรสาว กล่าวว่า พรรคชาติไทยไม่คิดจะเป็นพรรคตัวแปรใดๆ ให้ใครง้อ แต่คิดว่าการอยู่ด้วยกันควรรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน ไม่ได้เล่นตัวหรือสร้างราคา แต่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่พรรคแกนนำต้องให้เกียรติกันและกันมากกว่า
น.ส.กัญจนา กล่าวว่าการที่นายบรรหาร พาลูกพรรคไปฮ่องกง ช่วงสถานการณ์ การเมืองเช่นนี้ไม่มีนัยอะไร เพราะเป็นโปรแกรมที่จัดไว้ล่วงหน้านานแล้ว ที่จะพาลูกพรรคไปเปิดสมองบ้าง โดยมีโปรแกรมที่จะไปมาเก๊าต์ด้วย และการเดินทางไปครั้งนี้ก็ไม่ได้ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่จีนขณะนี้ด้วย
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคชาติไทยเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคชาติไทยเห็นด้วย เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา ปฎิเสธข่าวที่ว่า ส.ส.ในกลุ่มจะหันไปจับมือกับ 5 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากไม่พอใจการบริหารงานของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า แม้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ ส.ส.ย้ายพรรคได้ แต่ยืนยันว่ากลุ่มเราไม่เป็นคลื่นใต้น้ำ ไปโหวตหรืออยู่กับพรรคอื่น จนกลายเป็นงูเห่า ภาค 2 กลุ่มเราไม่ใช่พอไม่สมประโยชน์แล้วก็ไป ขอยืนยันว่าจะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชาชนไม่คิดทรยศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นไปได้อยากที่จะให้ 5 พรรคร่วมรัฐบาลมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล เพราะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคงไม่ยอม และที่สุดจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การยุบสภาได้ ดังนั้นพรรคจึงไม่คิดที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
“สิ่งที่ผมอยากเห็นตอนนี้คือพรรคร่วมรัฐบาลประกาศว่าเห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สังคมจะได้สบายใจ”
นายจุรินทร์ กล่าวว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลต้องการเร่งระยะเวลาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำได้ เช่นตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาหลายๆ คณะ เพื่อให้ศึกษาไปพร้อมๆ กัน จะทำให้ไม่ล่าช้า เกินไป ซึ่งสามารถเอาคนนอก ทั้งนักวิชาการ ภาคประชาชนมาเป็นกรรมาธิการฯได้
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ระหว่างพาลูกพรรตครวม 28 คนไปพักผ่อนที่ฮ่องกง ถึงท่าทีของพรรคชาติไทย ในการร่วมรัฐบาล โดยยกมือในลักษณะห้ามพร้อมกล่าวว่า เรื่องนี้ผมไม่พูด
ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย บุตรสาว กล่าวว่า พรรคชาติไทยไม่คิดจะเป็นพรรคตัวแปรใดๆ ให้ใครง้อ แต่คิดว่าการอยู่ด้วยกันควรรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน ไม่ได้เล่นตัวหรือสร้างราคา แต่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่พรรคแกนนำต้องให้เกียรติกันและกันมากกว่า
น.ส.กัญจนา กล่าวว่าการที่นายบรรหาร พาลูกพรรคไปฮ่องกง ช่วงสถานการณ์ การเมืองเช่นนี้ไม่มีนัยอะไร เพราะเป็นโปรแกรมที่จัดไว้ล่วงหน้านานแล้ว ที่จะพาลูกพรรคไปเปิดสมองบ้าง โดยมีโปรแกรมที่จะไปมาเก๊าต์ด้วย และการเดินทางไปครั้งนี้ก็ไม่ได้ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่จีนขณะนี้ด้วย
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคชาติไทยเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคชาติไทยเห็นด้วย เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น