xs
xsm
sm
md
lg

ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเป็น‘แม่’ รู้จักซิงเกิลมัมอายุมากที่สุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ด้วยริ้วรอยบนใบหน้าและร่างกายที่บอบบาง ใครๆ อาจคิดว่าเธอเป็นย่าหรือยายที่กำลังพาหลานสาวคนโปรดไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ
แต่ความจริงแล้ว เอดรียนา ไอลิสคู ที่เพิ่งฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 70 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 พ.ค.) เป็นแม่ครั้งแรก และใช้เวลาทุกวินาทีกับเอลิซา ลูกน้อยวัยสามขวบอย่างภาคภูมิใจ
เอเดรียนาเลี้ยงดูตัวเองและเอลิซาด้วยบำนาญเดือนละ 250 ปอนด์ กับรายได้พิเศษจากการทำงานพาร์ตไทม์ในตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยบูคาเรสต์ และเงินช่วยเหลือจากสภาท้องถิ่น
เธอไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนสนิท คนเดียวที่ใส่ใจในอนาคตของเอลิซาคือแพทย์ที่ดูแลการผสมเทียม ทำให้เอลิซาปฏิสนธิขึ้นมา และเป็นพ่อทูนหัวของเด็กหญิง
นี่เป็นครั้งแรกที่เอเดรียนาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตัวเอง
“ฉันแข็งแรง และไม่เคยเจ็บป่วย ฉันไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ถ้าฉันอายุยืนได้เท่าพ่อแม่ เอลิซาจะอายุ 20 ปีตอนที่ฉันตาย ฉันคิดว่ายังมีเวลามากพอที่จะได้อยู่ดูแลลูกสาว”
หญิงวัยเกษียณผู้นี้ช็อกโลกหลังจากเปิดเผยว่าให้กำเนิดทารกด้วยวิธีผสมเทียมในหลอดแก้วโดยใช้สเปิร์มของผู้บริจาค เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2005 ขณะอายุ 66 ปี 230 วัน
สามปีผ่านไป เอเดรียนากลับมาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในกรุงบูคาเรสต์ โรมาเนีย โดยอาศัยอยู่ตามลำพังกับลูกสาวในแฟลตแห่งหนึ่ง
เธอภูมิใจกับตำแหน่งแม่ที่ให้กำเนิดบุตรขณะอายุมากที่สุดในโลกในบันทึกของกินเนสส์บุ๊ก กระทั่งต้องเสียตำแหน่งให้กับคาร์เมลา บูซาดา ชาวสเปน ที่ให้กำเนิดทารกฝาแฝดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2006 ด้วยวัย 66 ปี 358 วัน
หลายครั้งขณะเดินเล่นกับเอลิซา วัยรุ่นจะตะโกนเรียกเอเดรียนาว่า ‘ยาย’ แต่เจ้าตัวดูเหมือนไม่ใส่ใจ และยืนยันว่าทุกคนสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ
“ในโรมาเนีย คนที่มีลูกจะได้รับการชื่นชมยกย่อง”
เอเดรียนายังคงไปสอนที่มหาวิทยาลัยบูคาเรสต์สัปดาห์ละ 7 ชั่วโมง ไม่รวมคอร์สบรรยายพิเศษและสัมมนา ส่วนเอลิซาไปสถานรับเลี้ยงเด็กในเมืองโดยมีแท็กซี่มารับที่บ้านตอนเช้า และรับกลับบ้านตอนบ่ายสามทุกวัน
เวลาที่ไม่ได้ทำงาน เอเดรียนาจะพักผ่อนด้วยการนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ โดยมีเจ้าหน้าที่รับเลี้ยงเด็กคอยดูแลลูกให้
ในช่วงสองขวบปีแรก เอลิซาที่พี่น้องฝาแฝดตายก่อนหนูน้อยจะเกิด ตื่นขึ้นมากลางดึกเป็นประจำจากอาการเจ็บหน้าอก และนอนไออยู่หลายชั่วโมงกว่าจะหลับต่อ ระหว่างนั้นเอเดรียนาต้องอุ้มแกไว้ตลอด
เอลิซาเป็นเด็กฉลาดเกินวัย ตอนนี้หนูน้อยสามารถนับ คำนวณเลขง่ายๆ ชอบอ่านหนังสือและวาดภาพ ถึงขนาดมีศิลปินคนโปรดกับเขาด้วย
ตอนที่เอลิซายังแบเบาะ จะมีพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลเป็นประจำ แต่ตอนนี้ หนูน้อยต้องอยู่ตามลำพังกับแม่เป็นส่วนใหญ่ ทั้งคู่ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่รู้จะหันหน้าหาใครหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
“เป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ครอบครัวของเราเข้าใจผิดกันเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ฉันไม่อยากขายที่แต่พี่น้องอยากขาย”
สมัยยังสาว เอเดรียนาเคยทำแท้งตอนอายุ 20 ปี ไม่นานเธอแต่งงานกับเพื่อนนักศึกษาในบูคาเรสต์
“เราไม่ได้วางแผนมาก่อน ตอนนั้นฉันเรียนปี 3 และเพิ่งหายจากวัณโรค หมอไม่แนะนำให้เอาเด็กไว้เพราะไม่แน่ใจว่าแกจะมีพัฒนาการปกติหรือไม่”
ไม่นานเอเดรียนาก็หย่าเนื่องจากทัศนคติทางการเมืองไม่ตรงกันในช่วงที่คอมมิวนิสต์ครองเมือง
“ฉันทำงานเป็นครูพิเศษและเริ่มทำงานในมหาวิทยาลัย รวมทั้งตีพิมพ์หนังสือที่เขียนขึ้นมา
“ฉันอยากมีลูกมาตลอด แต่ชีวิตยุ่งเหยิงเกินไปและฉันไม่มีใครด้วย กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เทคนิคการผสมเทียมในหลอดแก้วถึงเข้ามาในโรมาเนีย”
เอเดรียนาตรึกตรองเผื่อไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเอลิซาเมื่อเธอตาย
“ถ้าตอนนั้นลูกสาวฉันอายุ 16 ปี แกจะมีสิทธิ์ทำงานได้ แต่ถ้าเด็กกว่านั้น ฉันหวังไว้สองอย่างคือ สถานพิทักษ์เยาวชนของทางการ กับศาสตราจารย์บ็อกแดน มาริเนสกู พ่อทูนหัวของเอลิซา
“คนเราตายได้ตลอดเวลา พ่อทูนหัวอีกคนของเอลิซาซึ่งเป็นเพื่อนของฉัน อยู่ๆ ก็ตายตอนอายุแค่ 49 ปี ทิ้งลูกสี่คนเป็นกำพร้า”
เอเดรียนาหวังว่าเอลิซาจะไม่ผิดพลาดเหมือนกับเธอ
“ฉันจะบอกให้แกมีลูกก่อนอายุ 30 การมีลูกเป็นเรื่องที่วิเศษ ถ้าคนเราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่ออะไรสักอย่างมาก่อน
“ถ้าคุณมีลูกคุณจะไม่ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว เพลโตกล่าวไว้ว่า ‘ความสุขของคนเราคือการมีใครสักคนนำร่างเราไปฝัง”
กำลังโหลดความคิดเห็น