ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สปป.ลาวเปิดกว้างรับทุนนอกขยายการลงทุนตามแนว R3a เต็มที่ ล่าสุดเปิดทางรถบรรทุกตามมาตรฐานไทยผ่านถนนลาวเหนือได้ พร้อมไฟเขียวขนส่ง 25 สินค้าต้องห้ามได้ และเปิดทางทุนเทศผุดสถานีพักรถ-ขนถ่ายสินค้า 3 จุดรับ Logistic ผ่านถนนไทย ลาว จีน
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ (คสศ.) เปิดเผย หลังร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ศึกษาดูงาน และหารือจับคู่ธุรกิจ “การพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การขนส่ง และลอจิสติกส์ บนเส้นทาง R3a หรือ R3e” กลางเดือนที่ผ่านมาว่า กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวของภาคเอกชนไทย – ภาคเหนือ ตลอดจนผู้ประกอบการของ สปป.ลาว เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะด้านธุรกิจลอจิสติกส์ที่ได้มีกลุ่มทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศไทย ภายใต้บริษัท TLA เข้ามาดูลู่ทางและเตรียมลงทุนในเส้นทาง R3a นอกจากนี้ภาคเอกชนไทยยังให้ความสนใจในด้านการลงทุนสร้างตลาดไทย เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคภายใต้แบรนด์ไทย ในแขวงสำคัญทางตอนเหนือของ สปป.ลาวด้วย โดยให้คนลาวเป็นผู้บริหารตลาด รวมถึงการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง ที่มีศักยภาพอันสามารถพัฒนาเชื่อมโยงกับภาคเหนือของไทย เพื่อสร้างจุดขายใหม่ในการทำตลาดร่วมกันในอนาคตด้วย
นายคำพอ ไขคำพิทูน รองหัวหน้ากรมเศรษฐกิจ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดเผย ว่า การเปิดเส้นทาง R3a ระยะทาง 260 กิโลเมตร ของ สปป.ลาว ต้องการการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชน และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านเกษตรกรรม การบริการที่ต่อเนื่องกับการขนส่งและการท่องเที่ยว
เบื้องต้นมีการทำข้อตกลงการทำคอนแทร็กฟาร์มิง( contract farming )ระหว่างหอการค้าจังหวัดภาคเหนือตอนบนของไทยกับ 3 แขวงของลาว คือ แขวงหลวงน้ำทา บ่อแก้ว และอุดมไช กลุ่มทุนไทยที่เข้าไปลงทุนแล้วคือ กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ นอกจากไทยแล้วลาวยังจะขยายข้อตกลงในลักษณะเดียวกันนี้กับพม่า เวียดนาม กัมพูชา และจีนด้วย
นายแสงดารา เตียมติสัก กรรมการสมาคมผู้ประกอบการขนส่งลาว เปิดเผยว่า ลาวได้พัฒนาสาธารณูปโภคทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจดใต้ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อรองรับการค้าที่ขยายตัว รวมทั้งพัฒนาระบบลอจิสติกส์ให้เข้ากับระบบสากล เช่น น้ำหนักรถบรรทุก 18 ล้อของไทยบรรทุกได้ 45 ตัน ของลาวให้บรรทุกได้แค่ 37 ตัน และได้ปรับมาตรฐานให้เส้นทาง R3a เป็นกรณีพิเศษสามารถบรรทุกได้เท่ากับมาตรฐานไทย
ด้านนายคำผาย เพ็ชรเจริญ รองหัวหน้าแผนกอุตสาหกรรมและการค้า แขวงบ่อแก้ว กล่าวว่า ลาวพร้อมสนับสนุนการขนส่งผ่านเส้นทาง R3a เต็มที่ ซึ่งรัฐบาลได้ยกเลิกการออกใบอนุญาตสำหรับการส่งสินค้าผ่านแดน ยกเว้นสินค้าต้องห้าม 25 รายการที่ต้องขออนุญาต เช่น วัสดุก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์ รถยนต์และส่วนประกอบ ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น ข้าว
ขณะที่ปัจจุบันมีการลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นมากในแขวงบ่อแก้ว ปัจจุบันมีถึง 28 โครงการ เงินลงทุน 163 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นการลงทุนจากจีน มีไทย อเมริกา เกาหลี และฝรั่งเศส สิ่งที่คาดหวังคือการท่องเที่ยวเพราะลาวมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมาก
นางฮัว นาบุญเพ็ง หัวหน้าแผนกอุตสาหกรรมและการค้า แขวงหลวงน้ำทา กล่าวว่า แขวงหลวงน้ำทาได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศมาก ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางทางผ่านและการบริการที่เกี่ยวข้อง โดยจะสร้างสถานีจอดรถและขนถ่ายสินค้า 3 จุด คือที่เมืองเวียงภูคา เมืองหลวงร้ำ และที่สามแยกนาเตย จุดแยกไปจีนและแขวงอุดมไช แต่ละจุดจะมีบริการครบวงจรทั้งสถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ โดยเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุน
ดร.เพ็งพาวัน ดาวพรเจริญ หัวหน้าคณะกรรมการประสานงานด้านการค้า การลงทุน แขวงหลวงน้ำทา กล่าวว่า เฉพาะแขวงหลวงน้ำทา ในปี 2007 มีการลงทุนทั้งใน-ต่างประเทศ มูลค่าทั้งสิ้น 90 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการลงทุนจากต่างประเทศ 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในกลุ่มทุนจากต่างประเทศนี้ เป็นทุนจาก จีน มากกว่า 70% ที่เหลือเป็นไทย กับเวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีกหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ธุรกิจบริการอื่น ๆ ก็มีนักลงทุนจาก จีน เข้ามาลงทุนในหลวงน้ำทามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น คลังสินค้า-จุดพักรถขนส่งสินค้า บริเวณติดกับเมืองใหม่บ่อเต็น ที่นักลงทุนจีนเข้ามาดำเนินการในนามบริษัท ขนส่ง จำกัด แห่งประเทศลาว ศูนย์กระจายสินค้าด้านเหนือเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น ฯลฯ
ส่วนของนักลงทุนไทย ที่ปรากฏเป็นรูปธรรม ขณะนี้ดูเหมือนจะมีเพียงร้านอาหาร – ห้องพัก “เฮือนลาว” ของนักธุรกิจท้องถิ่นเชียงราย บริษัทขุดค้นถ่านหินเวียงภูคา จำกัด (ร่วมทุนไทย-ลาว), กลุ่มซี.พี.เมล็ดพันธุ์ ที่กำลังขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพด-ข้าวสาลี ในระบบคอนแทร็กฟาร์มิง เข้ามาในแขวงบ่อแก้ว – หลวงน้ำทา ในพื้นที่ 5 เมือง (จากทั้งหมด 8 แขวงของ สปป.ลาว) กลุ่มบ้านปู ที่กำลังเริ่มเดินเครื่องโรงงานผลิตไฟฟ้า เป็นต้น มียอดรวมมากถึง 40% ของการลงทุนจากต่างประเทศ ที่เหลือเป็นชาวจีน เวียดนาม มาเลเซียและประเทศอื่นๆ
