ที่ศาลฏีกา สนามหลวง วานนี้ (29 พ.ค.) นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เตรียมเรียกประชุมใหญ่ศาลฎีกา ในวันนี้ 30 พ.ค. เวลา 13.30 น. เพื่อพิจารณา 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกกรณีมีการยื่นคำร้องในคดีหมายเลขดำที่ อม.2/2551 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้แต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 276
เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ที่สั่งการให้ นายบุญเชิด คิดเห็น รักษาการอธิบดีกรมที่ดิน ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด และสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินของบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด จำนวน 1,338 ไร่ 59 แปลง บริเวณ ต.น้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 276 บัญญัติให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระ หรือจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนแทนการแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระก็ได้
ส่วนเรื่องที่สองนั้น เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีมีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งอาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ พ.ศ.2551
จากกรณีที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความดำเนินคดีต่อ นายการุณ โหสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตดอนเมือง พรรคพลังประชาชน ทำร้ายร่างกาย กระโดดถีบ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ภายหลัง นายสมเกียรติอภิปรายเสร็จ เหตุเกิดภายในห้องอาหารรัฐสภานั้น
วันเดียวกัน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต ฐานะรับผิดชอบควบคุมดูแลคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า นายการุณ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาฐานทำร้ายร่างกายและดูหมิ่น จากพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายการุณ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า เมื่อ นายการุณ มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วแต่ได้ปฏิเสธข้อหา และไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ ฐานทำร้ายร่างกายและดูหมิ่น ที่พนักงานสอบสวนจะเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องนำสรุปสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการสั่งฟ้อง โดยขณะนี้สำนวนคดีต้องรอให้ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รองผบช.น.เซ็นต์อนุมัติก่อน คาดว่า ภายใน 1-2 วัน สำนวนการสอบสวนในคดีดังกล่าวน่าจะถึงมืออัยการ
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนมีหลักฐานชัดเจนทั้งการสอบปากคำพยานบุคคลแวดล้อม จึงเห็นควรส่งฟ้อง โดยสำนวนที่นำส่งอัยการจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพยานที่ให้ปากคำที่เห็นเหตุการณ์และอยู่ในสถานที่เกิดเหตุในโรงอาหารรัฐสภา ใบรับรองแพทย์ที่นายสมเกียรติ ถูกทำร้ายร่างกาย ระบุ มีรอยฟกช้ำ ดำเขียว และอื่นๆ ซึ่งมากพอเพียงส่งอัยการได้
เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ที่สั่งการให้ นายบุญเชิด คิดเห็น รักษาการอธิบดีกรมที่ดิน ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด และสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินของบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด จำนวน 1,338 ไร่ 59 แปลง บริเวณ ต.น้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 276 บัญญัติให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระ หรือจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนแทนการแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระก็ได้
ส่วนเรื่องที่สองนั้น เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีมีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งอาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ พ.ศ.2551
จากกรณีที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความดำเนินคดีต่อ นายการุณ โหสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตดอนเมือง พรรคพลังประชาชน ทำร้ายร่างกาย กระโดดถีบ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ภายหลัง นายสมเกียรติอภิปรายเสร็จ เหตุเกิดภายในห้องอาหารรัฐสภานั้น
วันเดียวกัน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต ฐานะรับผิดชอบควบคุมดูแลคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า นายการุณ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาฐานทำร้ายร่างกายและดูหมิ่น จากพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายการุณ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า เมื่อ นายการุณ มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วแต่ได้ปฏิเสธข้อหา และไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ ฐานทำร้ายร่างกายและดูหมิ่น ที่พนักงานสอบสวนจะเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องนำสรุปสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการสั่งฟ้อง โดยขณะนี้สำนวนคดีต้องรอให้ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รองผบช.น.เซ็นต์อนุมัติก่อน คาดว่า ภายใน 1-2 วัน สำนวนการสอบสวนในคดีดังกล่าวน่าจะถึงมืออัยการ
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนมีหลักฐานชัดเจนทั้งการสอบปากคำพยานบุคคลแวดล้อม จึงเห็นควรส่งฟ้อง โดยสำนวนที่นำส่งอัยการจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพยานที่ให้ปากคำที่เห็นเหตุการณ์และอยู่ในสถานที่เกิดเหตุในโรงอาหารรัฐสภา ใบรับรองแพทย์ที่นายสมเกียรติ ถูกทำร้ายร่างกาย ระบุ มีรอยฟกช้ำ ดำเขียว และอื่นๆ ซึ่งมากพอเพียงส่งอัยการได้
