xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.รื้อแผนตึกใหม่หลังกลต.ยกเลิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทบทวนโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่บนถนนรัชดาภิเษก หลังสำนักงานก.ล.ต.บอกลาไม่เช่าพื้นที่ หันไปเช่าตึกแบงก์ชาติ สาขาสุรวงศ์แทน ระบุเตรียมหาข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้าก่อนนำเสนอให้บอร์ดชี้ขาดต่อไป ด้าน "นงราม" เผยจ้าง Russell จากสิงคโปร์เป็นที่ปรึกษาบริหารพอร์ต คาดนำเงินพอร์ต 20% ลงทุนต่างประเทศตั้งแต่ ก.ค. เป็นต้นไป หวังผลตอบแทนปีนี้เหนือเงินเฟ้อ จากปีก่อนอยู่ที่ 13%
นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการสายงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืนหน้าโครงการก่อสร้างอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ บนถนนรัชดาภิเษก ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการที่ดินของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการประชุมหารือเพื่อพิจารณาก่อสร้างอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งใหม่ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปฏิเสธที่จะเช่าพื้นที่ของอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งใหม่ แต่จะย้ายไปเช่นอาคารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สาขาสุรวงศ์แทน
"เจ้าของร้านอาหารป.กุ้งเผา ที่ยืดเยื้อไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ที่จะก่อสร้างตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ ขณะนี้ได้ยินยอมย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว"
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนรูปแบบการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ จากแผนเดิมจะก่อสร้างเป็นอาคาร 2 อาคารคู่กัน มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นมี 3 แนวทาง คือ แนวทางแรก สร้างอาคาร 2 ตึกเหมือนเดิม แต่ทั้ง 2 อาคารจะมีขนาดไม่เท่ากัน แนวทางที่ 2 ก่อสร้างเพียงอาคารเดียว และแนวทางที่ 3 ก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ เพื่อแบ่งพื้นที่ให้เช่า ทั้งนี้คาดว่าคณะอนุกรรมการที่ดินจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า ก่อนจะเสนอผลการหารือให้ทางคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯพิจารณาต่อไป
"ก.ล.ต.ได้มีการแจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า จะไม่เช่าอาคารใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะสร้างบนพื้นที่ถนนรัชดาแล้ว เพราะได้อาคารเดิมของธปท.ที่ถนนสุรวงศ์แล้ว จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องมีการทบทวนว่าจะสร้างอาคารใหม่อย่างไร จากเดิมที่จะสร้างอาคารแฝด เพื่อใช้ทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ 1 ตึก และอีก 1 ตึกให้ก.ล.ต.เช่า" นางนงราม กล่าว
สำหรับก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ซื้อที่ดินบริเวณร้านอาหาร ป.กุ้งเผา จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB มูลค่า 1,400 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2549 แต่ร้านป.กุ้งเผา ยังยืดเยื้อและไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ทำให้โครงการก่อสร้างอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งใหม่ชะลอออกไป
ส่วนนโยบายการบริหารเงินลงทุน (พอร์ต) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น นางนงราม กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เลือกให้ Russell Investment Group Private Fundsในประเทศสิงคโปร์ ที่มีบริษัทแม่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นที่ปรึกษาในการลงทุน ซึ่งขณะนี้ Russell อยู่ระหว่างการจัดพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศให้ ว่าจะลงทุนสินค้าอย่างไรบ้าง ซึ่งคาดว่าจะเสนอต่อบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมประจำเดือนมิถุนายนนี้ และจะสามารถลงทุนต่างประเทศได้ประมาณเดือนกรกฎาคม 51
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ให้นโยบายการลงทุนต่างประเทศนั้นจะต้องคุ้มครองเงินต้น มีความเสี่ยงที่ต่ำแต่ให้ผลตอบแทนที่สูง โดยทาง Russell จะเข้าจัดว่าควรที่จะลงทุนหุ้นและตราสารหนี้ในสัดส่วนเท่าไรจึงจะเหมาะสม ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ นำเงินลงทุนในต่างประเทศสัดส่วน 20% อีก 80% จะลงทุนในประเทศจากมูลค่าพอร์ตจำนวน 11,000 ล้านบาท
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าผลตอบแทนจากการลงทุนในปีนี้ไว้ให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ในปี2550 ได้ผลตอบแทนการลงทุนพอร์ตประมาณ 13% ขณะที่ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทยอยลดการลงทุนในตราสารหนี้ ไปลงทุนหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากปีนี้การลงทุนในตราสารหนี้มีความเสี่ยงสูงและให้ผลตอบแทนที่ต่ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น