xs
xsm
sm
md
lg

‘เนปาล’สู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ ล้มกษัตริย์หันไปเป็นสาธารณรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี-เนปาลกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวานนี้(28) ด้วยการที่สภานิติบัญญัติชุดใหม่ซึ่งพวกอดีตกบฎลัทธิเหมาเป็นผู้ครองเสียงมากที่สุด ลงมติล้มเลิกสถาบันกษัตริย์ของราชอาณาจักรเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ที่ดำรงยืนยาวมา 240 ปี และประกาศให้ประเทศเป็นสาธารณรัฐ
การรักษาความปลอดภัยในเมืองหลวงกาฐมาณฑุอยู่ในสภาพเข้มงวดมาก โดยมีตำรวจกว่า 1,500 คนรายล้อมศูนย์การประชุม ซึ่งใช้เป็นที่ประชุมของสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญ อันคาดหมายกันว่าวาระแรกๆ ที่จะพิจารณากันคือ การปลดกษัตริย์คยาเนนทรา ซึ่งไม่เป็นที่นิยมของประชาชน
ขั้นตอนพิธีการต่างๆ ได้กำหนดกันไว้ว่าจะเริ่มต้นในเวลา 11.00 น. (ตรงกับ 12.45 น.เวลาเมืองไทย) ทว่าโฆษกของกลุ่มลัทธิเหมาผู้หนึ่งแจ้งว่า พรรคของเขายังคงเจรจาอยู่กับ กิริจา ปราสาด โคอิราลา นายกรัฐมนตรีอาวุโสของประเทศ และการหารือไม่มีทีท่าคืบหน้า
“การประชุมสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน จนกว่าพวกเขาจะทำความตกลงกันได้” อนันตา รองผู้บัญชาการกองทัพปลดแอกประชาชนของกลุ่มลัทธิเหมา กล่าวกับผู้สื่อข่าว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า บรรดาพรรคการเมืองของประเทศยังมีความคิดเห็นแตกแยกกันอยู่ในเรื่องใครควรขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ
การประชุมสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นการเติมเต็มกระบวนการสันติภาพ ซึ่งได้ทำให้พวกลัทธิเหมายอมออกมาจากเขตเคลื่อนไหวต่อสู้ด้วยอาวุธตามป่าเขาในปี 2006 และเข้าสู่การต่อสู้ทางการเมืองกระแสหลัก
กรุงกาฐมาณฑุอยู่ในภาวะตึงเครียดก่อนหน้าเหตุการณ์สำคัญคราวนี้ โดยที่มีการโจมตีด้วยลูกระเบิดขนาดเล็กหลายระลอกในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางตำรวจแถลงว่า พวกเขาสงสัยว่าพวกนิยมกษัตริย์คือพวกที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเหล่านี้
ผู้คนหลายร้อยคนพากันละเมิดคำสั่งห้ามการชุมนุม และไปรวมตัวกันที่บริเวณศูนย์การประชุม เพื่อกดดันให้สมัชชายุติรัชสมัยของกษัตริย์คยาเนนทรา ที่ดำเนินมา 7 ปี และเต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวายนานา
ทางด้านสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ อันเป็นองค์กรฝ่ายเยาวชนของกลุ่มลัทธิเหมา ซึ่งเป็นที่หวาดเกรงกันของประชาชน เพราะถูกกล่าวหาว่าทำร้ายและก่อกวนรังควาญพวกปรปักษ์อย่างดุร้าย ก็กำลังวางแผนจัดการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่อยู่เช่นกัน
“นี่เป็นวันสีทองสำหรับเนปาลและชาวเนปาล มันเป็นการสิ้นสุดของยุคหนึ่ง และการเริ่มต้นของยุคใหม่” เป็นคำพูดของ ซาการ์ หัวหน้าของสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์
กลุ่มลัทธิเหมาได้แจ้งต่อกษัตริย์คยาเนนทรา และมกุฏราชกุมาร เจ้าชายปารัส -ผู้ทรงขึ้นชื่อเรื่องใช้ชีวิตส่วนพระองค์แบบเพลย์บอย ให้ทรงยอมออกจากอำนาจอย่างมีเกียรติ มิฉะนั้นก็จะพบกับ “การลงโทษอย่างรุนแรง”
โฆษกของกลุ่มลัทธิเหมา กฤษณะ บาฮาดูร์ มหารา แถลงว่า กษัตริย์ทรงมีเวลา 7 ถึง 15 วันที่จะต้องออกจากพระราชวังหลวงไป
กษัตริย์คยาเนนทราทรงขึ้นครองราชสมบัติ ภายหลังเกิดกรณีโศกนาฎกรรมในปี 2001 เมื่อกษัตริย์พิเรนทรา พระบรมเชษฐาของพระองค์ซึ่งเป็นพระราชาธิบดีที่ประชาชนเคารพรักยิ่ง ได้ทรงถูกสังหารในพระราชวังหลวง พร้อมกับสมาชิกพระราชวงศ์แทบทั้งหมด โดยที่องค์มกุฏราชกุมารซึ่งทรงถูกกล่าวโทษว่าทรงกระทำการคราวนี้ขณะทรงมึนเมาทั้งด้วยฤทธิ์น้ำจัณฑ์และยาเสพติด ก็ได้ทรงปลงพระชนม์พระองค์เองไปด้วย อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากยังคงสงสัยไม่รู้หายว่ากษัตริย์พระองค์ใหม่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฎกรรมในวังหลวงคราวนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น