xs
xsm
sm
md
lg

งัดวิชามารป่วนพันธมิตรฯ "เหลิม" หน้าแหกศาลยกคำร้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เหลิม" หน้าแตกรอบสองศาลฯเชียงรายยกคำร้องถอนประกัน "สนธิ" แถมยังทำอวดเก่งอ้างพันธมิตรฯทำผิด กม.จราจร เพราะทำประชาชนเดือดร้อน แฉตำรวจรับใช้นักการเมืองเลว ใช้วิชามารบีบบังคับพ่อค้าลงชื่อเอาผิดพันธมิตรฯทำรถติด ด้าน"สนธิ"ย้ำทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ หยาม"เหลิม" แค่ลูกไล่ เทียบไม่ได้ทุกด้าน ท้าดีเบตทุกเวที พร้อมลงสมัครส.ส.ชนตัวต่อตัวในกรุงเทพฯ "พันธมิตรฯ" ประกาศสู้ไม่ถอย เตรียมนำรายชื่อประชาชน 2 หมื่น ยื่นถอดถอน ส.ส.-ส.ว. ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานสภาวันนี้ พร้อมเดินหน้าขวาง "หมัก" ทำประชามติปาหี่จนถึงที่สุด

วานนี้ (27 พ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงมีการชุมนุมอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านรัฐบาลนอมินีล้มล้างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ว่า การชุมนุมเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ทำได้ ซึ่งพันธมิตรฯ นั้นบอกว่าจะมีการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และไม่ทำผิดกฎหมาย แต่การที่มาปิดถนนราชดำเนิน ก็ถือว่าผิดกฎหมายแล้ว เพราะเป็นการผิด พ.ร.บ.จราจร ถ้าพันธมิตรฯมีเจตนาจะชุมนุมโดยสงบ ก็น่าจะไปชุมนุมกันที่สวนลุมพินี หรือหน้าพระรูปฝั่งธนฯ

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า น่าเห็นใจตำรวจที่พยายามดูแลความเรียบ แต่เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนขบวนก็ทำให้ควบคุมยาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใครผิดหรือถูกผมไม่ทราบ แต่หลังจากนี้ตำรวจจะนำกล้องวงจรปิดมาดู ถ้าใครผิดก็ต้องจับดำเนินคดี ผมดู ASTV เมื่อคืนคุณสนธิ ลิ้มทองกุล รู้หมดใครหัวแตกกี่แผลๆ ซึ่งตำรวจต้องเรียกคุณสนธิ ไปสอบนำมาเป็นพยาน แต่ที่น่าเกลียด คือ พิธีกร ที่เคยลงสมัคร ส.ส.แล้วแพ้พรรคอื่นมา ไปวิจารณ์กระทรวงสาธารณสุขว่า หมอ พยาบาลที่ รพ.วชิระ ไม่ดูแลคนเจ็บ ไม่รู้คิดได้อย่างไร เพราะ รพ.วชิระ ขึ้นอยู่กับ กทม.การปราศรัยที่ผ่านมาไม่เห็นมีการพูดถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย มีแต่ ทักษิณ ออกไป คุณทักษิณ เขาไปเกี่ยวอะไรด้วย เห็นมีแต่ด่าลุงหมัก และมาด่าผม และวันนี้ก็ขยับมาจะไล่รัฐบาลออกอีกแล้ว

“ผมถามหน่อยว่า พันธมิตรฯเป็นใคร คุณสนธิ เป็นเจ้าของประเทศหรือ ไปจดทะเบียนกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ไหน ผมพูดมาตลอด ถ้ามั่นใจแนวทางตัวเองก็ตั้งพรรคการเมืองเลย บอกเลยว่าไม่เอาสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ ถ้าได้เสียงข้างมากคุณสนธิ ก็เป็นนายกฯ ไป แต่ถ้าให้รัฐบาลพ้นจากตำแหน่งวันนี้ พันธมิตรฯต้องใช้บริการพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่การมาเรียกร้องอย่างนี้ มันไม่มีเหตุผล ไม่อย่างนั้นไม่ว่ารัฐบาลไหนที่มาจากการเลือกตั้งแต่ คุณสนธิ ไม่พอใจก็ไล่อีก มันก็ไม่จบ ผมมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ไปปล้นใครเขามา”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

หยาม “สำราญ-ไชยวัฒน์” ส.ส.สอบตก

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า พันธมิตรฯไปบิดเบือนว่าแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะทำให้คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดหมด มันไม่ใช่ คนละเรื่อง วันนี้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า คตส. ที่ต่ออายุนั้นขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ลอยตัวหมด มันเป็นเรื่องของศาล ไม่มีใครไปชี้นำได้

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ตนได้ให้ทนายไปที่ศาลจังหวัดเชียงรายแล้วกรณีที่นายสนธิ ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 คดีรวม 5 ปี 9 เดือน คือ คดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไปพูดเอะอะบนเวทีอย่างนี้ คดีที่ 2 คือ หมิ่นประมาทนายภูมิธรรม เวชชยชัย เรื่องเกี่ยวกับปฏิญญาฟินแลนด์ และคดีที่ 3 หมิ่นประมาทป่าไม้ที่ จ.เชียงราย แต่ถูกประกันตัวมา ซึ่งศาลให้เคลื่อนไหวได้ แต่ต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แต่ห้ามเคลื่อนไหวในลักษณะไปกล่าวร้ายคนอื่น แต่การที่นายสนธิ ออก ASTV ด่าตน ด่ารัฐบาล ด่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตนจึงให้ทนายไปยื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดเชียงราย “เดี๋ยวเที่ยงนี้ก็รู้ว่าศาลรับฟ้องหรือไม่”

ส่วนกรณีที่พันธมิตรฯ บอกว่าจะมีการจับตัวแกนนำนั้น ร.ต.อ.เฉลิมว่า ไม่จริง ไม่มี กินยาผิดซองแล้ว กินยาผิดแล้ว เพ้อเจ้อ รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งและในระบอบประชาธิปไตย จะทำอย่างที่พันธมิตรฯคิดไม่ได้ และยังมาบอกว่าตนตั้งวอร์รูม ไม่มีหรอก ตนแค่ติดตามสถานการณ์ในฐานะ รมว.มหาดไทย แต่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเลย

“ส่วนที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนบอกว่าในต่างจังหวัดมีการตั้งทีมไล่ล่าแกนนำพันธมิตรฯนั้น เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบ เพราะพันธมิตรฯมีคนเกลียดมาก ตนว่าพันธมิตรฯอย่ามาทำอย่างนี้เลย ถ้าไม่ชอบรัฐบาลก็ไปพึ่งบริการพรรคประชาธิปัตย์”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ ส.ส.หรือ ส.ว.ถอนรายชื่อที่ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญออกก่อน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่ามีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปทำตามที่พันธมิตรฯเรียกร้อง

“พวกคุณเป็นใครไปบังคับสภาแล้วชื่อที่นำไปยื่นก็ยังมีไม่ครบ แอ็คอาร์ทไปยื่นไว้ก่อน ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน ต้องให้ชื่อครบก่อนจึงค่อยไปยื่น แล้วพวกที่ออกมาเอะอะก็เป็นพวกที่สอบตกทั้งนั้น ทั้งนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ลงสมัครพรรคประชาธิปัตย์ก็สอบตกที่บุรีรัมย์ นายสำราญ รอดเพ็ชร ลง กทม.ก็สอบตก อัญชลี ไพรรีรักษ์ สอบตกที่ปากน้ำของพรรคเพื่อแผ่นดิน แพ้พลังประชาชนมาทั้งนั้น มันไม่ยุติธรรมกับประชาชนเลย เขาเดินทางไม่สะดวก เลิกเถอะ ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งนั้น อย่างนี้เดี๋ยวใครไม่พอใจมาปิดถนนบ้าง แล้วทำไง และผมก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะนายกฯ ยังไม่ได้มอบหมายผม แต่ยังเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่มีความรุนแรง ตำรวจเขาสามารถควบคุมได้ ส่วนที่มีข่าวว่าทางกระทรวงมหาดไทย มีการเตือนภัยในระดับ 2 นั้นตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของข้าราชการประจำเขาทำกัน เพราะกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เป็นกระทรวงเกี่ยวกับความมั่นคงก็ต้องดูแล”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เขม่น “สันติอโศก” ควรสวดมนต์อยู่ที่วัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของสันติอโศก จะสามารถตรวจสอบอย่างไรได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สันติอโศกที่เคร่งในศีล ในธรรม มันต้องนอนสวดมนต์อยู่วัดมา ทำไมที่นี่ ประหลาด เมื่อถามอีกว่า วันนี้วันเกิด อยากได้ของขวัญอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนอยากขอร้องให้สังคมไทย ซึ่งเป็นสังคมประชาธิปไตยมีความสมัครสมานสามัคคี ความแตกต่างทางความคิดนั้นได้ แต่ควรต่อสู้กันด้วยมันสมอง ไม่ควรมาใช้กำลังกัน เพราะไม่เป็นผลดี คนไทยด้วยกัน เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ตุลาคมที่ผ่านมา ก็เป็นบทเรียนมาแล้ว ถ้าพันธมิตรฯ จะได้ตั้งหลักคิดสักนิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง โดยที่ฝ่ายการเมืองเองก็ต้องไม่เติมเชื้อไฟด้วย

“เป็ดเหลิม”หน้าแหกศาลยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงรายว่าหลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม ให้ทนายความยื่นร้องต่อศาลจังหวัดเชียงราย ให้ถอนประกันนายสนธิว่า ศาลจังหวัดเชียงรายได้มีรายงานกระบวนพิจารณา คดีหมายเลขดำที่...1397/2549 คดีหมายเลขแดงที่..823/2551 ลงวันที่ 27 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2551 ความอาญา ระหว่างนายเก่งกาจ ศรีหาสาร โจทก์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลย โดยผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีนี้เวลา 14.30 น. ว่า “วันนี้ นายอาวุธ ปรีชาวุฒิ ทนายโจทก์มายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว ความว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราว โดยศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยไม่ให้ใส่ร้ายบุคคลอื่นอันจะเป็นความผิดที่ถูกฟ้องร้อง รายละเอียดปรากฏตามคำร้องฉบับลงวันที่วันนี้

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยวางเงื่อนไขแห่งการปล่อยชั่วคราวไว้ว่า ให้จำเลยละเว้นกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความผิดเช่นเดียวดังนี้อีก แต่จำเลยสามารถเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการได้ และดำเนินการตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ แต่การกระทำดังกล่าวต้องไม่เป็นการให้ร้ายใส่ความบุคคลอื่นอันจะเป็นความผิดทำนองนี้อีก เว้นแต่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย แต่ข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้นจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและหากบุคคลอื่นได้รับความเสียหายย่อมจะใช้สิทธิแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หรือฟ้องร้องเป็นคดีเอง อันเป็นการแก้ไขปัญหาโดยวิธีอื่นใด พฤติการณ์ของจำเลยในครั้งนี้ยังไม่เห็นควรเพิกถอนคำสั่งการปล่อยชั่วคราว จึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้อง ให้ยกคำร้อง

ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ออกมาเตือนนายสนธิ ให้หยุดกิจกรรมสัมมนา "ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ในวันที่ 28 มี.ค. 51 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยอ้างว่าจะเป็นการละเมิดคำสั่งศาลที่ให้ประกันตัวนายสนธิในคดีหมิ่นประมาทนายเก่งกาจ ศรีหาสาร นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายสนธิจึงได้คำร้องถึงศาลจังหวัดเชียงราย ขอให้ศาลอธิบายและขยายความคำสั่งในคดีดังกล่าว และศาลได้มีคำวินิจฉัยว่าการเข้าร่วมงานสัมมนา"ยามเฝ้าแผ่นดินฯ" ของนายสนธิ สามารถกระทำได้ โดยไม่ผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัวแต่อย่างใด

“ชัย”ป้องลูกอยู่เบื้องหลังม็อบถ่อย

ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯจัดการกับแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อสลายม็อบว่า “ตอบไปแล้วว่า ผมแม้แต่คิดยังไม่เคย”

ขณะที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯ เสนอให้ถอนญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของสมาชิกรัฐสภาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ว่า ตนไม่มีสิทธิ์ไปบังคับให้สมาชิกถอนออกไปได้ เพราะเป็นสิทธิตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งการจะถอนก็คงลำบาก เพราะได้ยื่นไปแล้วและตนก็ต้องทำคามข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า คนใกล้ชิดบุตรชายของท่านอยู่เบื้องหลังนายชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับลูกชาย ต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้เขาอยู่บ้านเลขที่ 111 ถ้ามายุ่งก็ผิดระเบียบ ตอนนี้เขาทำมาหากิน อย่าไปยุ่งกับเขา อย่าเข้าใจผิดเลย เขาอยู่อย่างสงบแล้ว อย่าไปทำบาป อย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ เป็นไปไม่ได้

แฉ ตร.บีบพ่อค้าร่วมเอาผิดพันธมิตรฯ

รายงานข่าวจากแหล่งข่าว ซึ่งเป็นพ่อค้ารายหนึ่งที่ขายของอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (27) พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่บริเวณใกล้กับบริเวณดังกล่าวจำนวน 5-6 รายได้ถูกตำรวจในเขตพื้นที่นครบาลหนึ่ง ที่เป็นระดับรองผู้การ พาไปที่ สน.นางเลิ้ง และบังคับให้พ่อค้าแม่ค้าที่พามาลงชื่อให้การกับตำรวจ สน.นางเลิ้งว่า กลุ่มพันธมิตรฯนั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ในบริเวณดังกล่าว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเหล้านี้ขายของไม่ได้และยังทำให้การจราจรติด ขัดรถยนต์ไม่สารถผ่านไปมาได้

นอกจากนี้นายสำราญ รอดเพชร โฆษกบนเวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้เปิดเผยว่า มีคนเข้าไปแจ้งความกับตำรวจว่าผู้ชุมนุมได้ปิดทางเข้า-ออกและมีการตรวจตราข่มขู่คนที่เดินผ่าน ทำให้การเดินทางเข้าซอยไม่สะดวก ซึ่งถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้คนที่ตรวจตราการเข้าออกกลับเป็นฝ่ายตำรวจที่พยายามตรวจค้นผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ รวมทั้งถามคำถามมากกมาย เช่น มีใบถอดถอนมาด้วยหรือไม่ ได้รับเงินมาหรือไม่

พันธมิตรฯ ยังชุมนุมต่อเนื่อง

ด้าน การชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพันธมิตรฯบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ก้าวเข้าสู่วันที่ 3 วานนี้ (27 พ.ค.) ประชาชนยังคงปักหลักชุมนุมอย่างแน่นหนาและต่อเนื่องโดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้มาชุมนุมมากกว่า 10,000 คนและคาดว่าในวันศุกร์ที่ 30 และเสาร์ที่ 31 พ.ค.ที่จะถึงนี้จะมีประชาชนเดินทางมาร่วมชุมนุมมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเครือข่ายพันธมิตรฯ หลายจังหวัดทุกภาคของประเทศก็ได้มีการเปิดเวทีคู่ขนาดกับพันธมิตรฯใน กทม. พร้อมกับมีการล่ารายชื่อถอดถอนบรรดา ส.ส.และ ส.ว.ที่เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย

สำหรับการปราศรัยบนเวทีนั้นได้มีนักวิชาการ และตัวแทนประชาชนจากจังหวัดต่างๆ ผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยและแสดงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง 5 แกนนำพันธมิตรฯ ด้วย

ทั้งนี้ เวลา 14.00 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาที่สะพานมัฆวานรังสรรค์เพื่อเตรียมขึ้นเวที ซึ่ง พล.ต.จำลอง ได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร จะเดินหน้าทำประชามติว่า ช่างเขา คิดว่าคงทำประชามติไม่ทัน นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังยืนยันว่าจะมีการชุมนุมยืดเยื้อกันต่อไปเนื่องจากเงื่อนไขยังไม่เปลี่ยนแปลง

พันธมิตรฯ ยื่นถอด ส.ส.-ส.ว.วันนี้

เวลา 16.30 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯยังยืนยันว่าจะมีการชุมนุมอย่างยืดเยื้อต่อไปและพรุ่งนี้ (28) จะนำรายชื่อกว่า 20,000 รายชื่อ ไปยื่นรายชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงบ่าย ต่อประธานสภา และในวันศุกร์จะนำรายชื่อประชาชนที่ลงชื่อคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญจากต่างจังหวัดไปยื่นอีก 1 ชุด

นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ระบุว่า จะทำประชามติต่อไปว่าจุดยืนของพันธมิตรฯยังชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการลงประชามติในรูปแบบที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การทำประชามติ เป็นการทำเพื่อฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะเข้าใจว่าการทำประชามติไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาลและไม่ได้เป็นการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง เชื่อว่า การทำประชามติจะเป็นการขัดแย้งรอบใหม่ ซึ่งพันธมิตรฯ จะคัดค้านต่อไป เช่น ในเรื่อง 1.รณรงค์โนโหวตการลงประชามติ 2.ไม่ให้ประชาชนไปลงประชามติ เพราะถ้ามีการเดินหน้าลงประชามติจะทำให้เกิดความแตกแยก และจะเป็นเหมือนอดีตที่ผ่านมาที่ประชาชนแตกแยกออกออกเป็นสองฝ่ายระหว่างฝ่าย เอา-ไม่เอา ทักษิณ

ส่วนข้ออ้างที่นายสมัคร ระบุว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนจากต่างประเทศนั้นถ้ารัฐบาลจะสามารถระงับความรุนแรงได้ ก็ไม่ได้ทำลายความเชื่อมั่นในการลงทุนของรัฐบาลเลย แต่การลงทุนของนักลงทุนเขาจะมองดูที่กึ๋นของรัฐบาลมากกว่า ซึ่งเศรษฐกิจไม่ดีก่อนหน้าที่พันธมิตรฯจะทำการชุมนุมแล้ว

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ยังตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ค.โดยขอลากิจด้วยว่า เป็นการลวงโลกครั้งใหญ่ นายจักรภพ ลากิจเพื่อไปทำอะไรหรือไม่ ที่ลากิจไป 7 วัน อาจจะเพื่อทบทวนตัวเองแล้วลาออกเพื่อมาเป็นผู้นำ นปก.รอบใหม่หรือเปล่า อย่างไรก็ตาม หาก นปก.จะนัดชุมนุมก็เป็นสิทธิของ นปก.ไม่มีปัญหา เพราะต่างคนต่างมีความคิดเห็นต่างกัน ซึ่งอยากให้กลุ่ม นปก.มองความคิดของคนอื่นบ้าง อย่ามองความคิดของตัวเองเพียงอย่างเดียว

ส่วนกรณีที่กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะจัดเวทีชนกับพันธมิตรฯ นั้นถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ไม่ควรตั้งเวทีใกล้เคียงกัน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดเหตุรุนแรงได้ ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ จะทำการปรับขบวนและเฝ้ารอรับขบวนเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในเช้าวันนี้ (28) ด้วย

“ยุทธิยง” ปลงตำรวจไทยพึ่งไม่ได้

เวลา 19.00 น.นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกร ASTV ที่ถูกม็อบถ่อยขว้างด้วยหินก้อนใหญ่จนศีรษะแตกเลือดอาบเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ปรากฏตัวด้วยสภาพที่ศีรษะด้านหลังที่ถูกปิดผ้าพันแผลชิ้นใหญ่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ณ สะพานมัฆวาน เมื่อเดินขึ้นเวที นายยุทธิยง ได้ยกมือกราบขอบคุณเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกคนที่โทรศัพท์และมาเยี่ยมเพื่อส่งกำลังใจมาช่วย ขณะที่ตนเองกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทั่วทั้งประเทศ รวมไปถึงเพื่อนพันธมิตรฯที่อยู่ต่างประเทศด้วย พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนวันเกิดเหตุว่า มีกลุ่มคนที่รวมตัวกันต่อต้านพันธมิตรฯได้รุมกันขว้างหินมาบนเวทีขณะที่ตนเองและเพื่อนๆ ยังอยู่บนเวที ซึ่งในช่วงนั้นตนและเพื่อนๆ ได้พยายามหลบก้อนหิน และเรียกร้องให้ตำรวจที่ยืนรักษาการณ์อยู่ในบริเวณนั้นช่วยห้ามปรามด้วย แต่ตำรวจกลับยืนเฉยๆ

“มีญาติและเพื่อนๆ บอกให้ผมไปแจ้งความ แต่ผมคิดว่าผมเลิกพึ่งตำรวจแล้ว เพราะตำรวจไม่ได้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเลย ตำรวจเหล่านี้รับราชการตั้งแต่หนุ่มจนแก่ แต่ก็ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นคนดีหรือใครเป็นคนร้าย”

สุดท้าย นายยุทธิยง ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนทางบ้านมาร่วมชุมนุมกันมากๆ เพราะ ณ วันนี้การเมืองภาคประชาชนได้ลงมาสู่ท้องถนนแล้ว สิทธิของประชาชนจะต้องพิสูจน์ให้นักการเมืองชั่วๆ ของบ้านเมืองได้รู้ว่า สิทธิของประชาชนมีเท่าเทียมพวกนักการเมือง เพราะฉะนั้นบ้านเมืองนี้ไม่ได้สร้างด้วยเงินแต่สร้างด้วยจิตใจ และคุณธรรมความดีที่จะต้องปกป้องเอาไว้ เงินของมหาเศรษฐีไม่มีความหมายสำหรับคนในประเทศนี้ เพราะพวกเราจะยืนหยัดอยู่อีกนาน

ตร.เปิดมาร์ชฯ สกัดเทป “เพ็ญ” จาบจ้วง

เวลา 21.05 น.ขณะที่บนเวทีปราศรัยกำลังเปิดวิดีทัศน์คำปราศรัยของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 พ.ค.50 นั้น ทางผู้ชุมนุมนิ่งฟังอย่างเงียบกริบ และตั้งใจ

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งแผงกั้นไว้หลังเวทีจู่ๆ ก็เปิดเพลงมาร์ชตำรวจผ่านลำโพงโพล่งสวนขึ้นมาเพื่อมากลบเสียงวิดีทัศน์ดังกล่าวทำให้เกิดความวุ่นวายและไม่พอใจของผู้ชุมนุม ส่งเสียงโห่กันอื้ออึง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ได้เข้ามาชี้แจงต่อผู้ชุมนุมอยู่ใกล้กับแผงเหล็กกั้นดังกล่าว ตรงแผงกั้นโดยอ้างว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประสานงานกับทางฝ่ายรักษาความปลอดภัยและพันธมิตรฯ มา 2-3 วัน แล้วว่าให้หันหัวลำโพงของพันธมิตรฯ กลับเข้าสู่ผู้ชุมนุม ไม่อยากให้ลำโพงหันไปทางตำรวจ เพราะเกรงว่าเสียงจะดังไปถึงเขตพระราชฐาน แต่ก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติตามคำขอร้องดังกล่าว

จากนั้นนายสุริยะใส ได้ออกมาเจรจากับตำรวจ และรับปากว่าจะหันลำโพงกลับ โดยสถานการณ์ช่วงนั้นเริ่มตึงเครียดเล็กน้อย เพราะเสียงจากลำโพงของตำรวจมารบกวนกลุ่มผู้ชุมนุม ในจังหวะที่มีการเปิดวิดีทัศน์พอดี ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ลำโพงตัวต้นเหตุดังกล่าวที่ตำรวจอ้างถึงนั้นเพิ่งมาตั้งวันนี้เป็นวันแรก ไม่ได้ตั้งมา 2-3 วัน อย่างที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้พยายามกล่าวอ้างแต่อย่างใด

5 แกนนำพันธมิตรฯ ลั่นสู้ไม่ถอย

กระทั่งเวลา 21.45 น.แกนนำพันธมิตรฯ 5 คนประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย ได้ขึ้นปราศรัย โดยยังคงประกาศที่จะชุมนุมต่อไปอย่างต่อเนื่อง และมีการกล่าวโจมตี ร.ต.อ.เฉลิม อย่างรุนแรง

โดย พล.ต.จำลอง กล่าวถึงผลสรุปการประชุมของแกนนำพันธมิตรฯ ในวันนี้มีมติออกมาว่า จะปักหลักต่อสู้อยู่บนสะพานมัฆวานฯต่อไป แม้ว่าอาจจะต้องเผชิญกับการก่อกวนสารพัดวิธี ที่อาจจะถึงอันตรายต่อชีวิต ท่ามกลางคำยืนยันกึกก้องจากประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่าปักหลักสู้ต่อไปไม่ถอย

ทั้งนี้ ก่อนจบการอภิปราย พล.ต.จำลอง ได้กล่าวกับประชาชนผู้มาชุมนุมว่า Wเรามาวันนี้เพื่อมาใช้หนี้แผ่นดิน ผมเป็นหนี้แผ่นดินมาก เพราะตั้งแต่เรียนหนังสือมาผมเรียนโรงเรียนหลวงมาตลอด ไปเรียนเมืองนอกก็ได้ทุนหลวงแถมยังได้รับเงินเดือนหลวงอีก ผมจึงเป็นหนี้แผ่นดินมากเหลือเกิน แล้ววันนี้พวกเรามาชุมนุมกันเพื่อทำหน้าที่ของเราเพื่อแผ่นดินด้วย”

“สมศักดิ์” ผ่าซาก “เฉลิม” สุดเนรคุณ

นายสมศักดิ์ กล่าวถึง ร.ต.อ.เฉลิมว่า จริงๆ แล้วไม่อยากพูดถึงคนนี้ แต่เมื่อฟังนายสนธิ เปิดเผยว่า ตอนที่ร.ต.อ.เฉลิม หนี รสช. แล้วให้เงินไป 5 แสนบาทซึ่งขี้ขลาด ตาขาว เพราะจะหนีไปต่างประเทศ แล้วมากล่าวหาว่านายสนธิ ไม่ดีอย่างโน้นไม่ดีอย่างนี้ คนอย่างนี้ถือว่าเป็นคนเนรคุณ ส่วนเรื่องการเป็นดอกเตอร์นั้นเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเป็นด็อกธรรมดา คงเป็นง่ายกว่า

“ผมอ่านหนังสือพิมพ์แล้วสงสัยว่าทำไมหน่วยข่าวกรองถึงระบุว่ามีจำนวนคนที่มาร่วมกับพันธมิตรฯ 5 พันคนทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเรามากันหลายหมื่นคน แล้วมาบอกว่ามีการจ้างให้คนมาหัวละ 1,300 บาท ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร พี่น้องครับ เฉลิมรู้ทุกเรื่องเลย แต่กลับไม่รู้ว่าตอนนี้ไอ้ปื๊ด มันอยู่ไหน ไปหาไอ้ปื๊ด มาซิว่ามันอยู่ไหน แค่นี้ยังจับไม่ได้ ไอ้เรื่องทีควรรู้กลับไม่รู้ แต่ไอ้เรื่องที่ไม่ควรรู้กลับรู้”

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนั้นร.ต.อ.เฉลิม หนี รสช.แต่วันนี้กลับมาปากกล้าขาสั่น ฟลุ๊คได้เป็นรัฐมนตรีนอมินีร่วมกับนายสมัคร โดยอยู่ภายใต้คำบงการของหัวหน้าลูกกรอก ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำให้เมืองเรามีปัญหา ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ควรที่จะต้องไปติดคุกตามขั้นตอน

“ตอนเป็นเด็กๆ ผมเคยถูกสอนว่าไม่ควรเนรคุณคน ถ้าเป็นสุนัขก็ควรจะเฝ้าบ้านเฝ้าเมือง แต่อย่าเป็นสุนัขรับใช้ทุนนิยมสามานย์”นายสมศักดิ์ กล่าว

“สนธิ” หยาม “เหลิม” ไร้ราคา

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนรู้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม ขู่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ว่าจะส่งทนายความไม่ร้องศาลที่จังหวัดเชียงราย ให้ถอนประกันตัว เพื่อให้ตนเองต้องติดคุก ทำให้เกิดความสงสัยว่า ตนเองเป็นคดีกับลูกน้องของนายยงยุทธ ติยะไพรัช จึงไม่รู้ว่าไปหนักศรีษะของ คุณเฉลิมตรงไหน ดังนั้นแสดงว่า ขบวนการของเฉลิม กับยงยุทธ เป็นกระบวนการเดียวกัน แต่ศาลเชียงรายยกคำร้องโดยบอกว่า ตามข้อเท็จจริงจำเลยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น การให้ถอนประกันเป็นการไม่สมควร

นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเกิดของ คุณเฉลิม อยากเตือนข้าราชการมหาดไทย และตำรวจที่ไปอวยพรวันเกิดให้ระวังให้ดีว่า ต่อไปไม่รู้ว่าคุณเฉลิมจะไปอยู่ที่ไหน

นายสนธิ ย้ำว่า การชุมนุมคราวนี้ต่างจากครั้งที่แล้ว ที่มีการไล่ คุณทักษิณ ก่อนวันที่ 19 ก.ย. 49 ที่เห็นการทำไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองจึงต้องออกมาไล่ แต่ตอนนี้รู้ว่าคุณทักษิณ อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม พวกคุณทักษิณไม่เข้าใจก็คือประชาชนในที่นี้เรียนรู้การเมือง ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ความสามานย์ หมดไปจากประเทศไทย

นายสนธิ กล่าวว่า อยากพูดถึงข้าราชการชั่ว ทั้งทหาร ตำรวจที่ไปรับใช้นักการเมืองสถุล พร้อมเตือนว่า หากฟังคำสั่งให้มีการสลายการชุมนุมเมื่อไร ก็ขอเอาหัวเป็นประกัน เพราะเมื่อเกิดเหตุเมื่อไร ก็จะถูกนักการเมืองถีบหัวส่ง และขอยืนยันว่า จะตามเช็กบิลกันจนตายไปข้างหนึ่ง ย้ำการต่อสู้ครั้งนี้เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปกป้องแผ่นดิน ใครเป็นคนชั่วของแผ่นดินก็ต้องออกไป

นายสนธิ กล่าวถึง นายจักรภพ ที่เปรียบถึง นายวีระ ที่ต้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ที่ไม่เหมือนคือนายจักรภพจงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ เฉลิมที่เป็นตำรวจกลับไม่เอาผิด แต่กลับมาข่มขู่ตนเองว่า จะติดคุกตลอดชีวิต

“ผมขอย้ำว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นสงครามครั้งสุดท้าย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง คนอย่างคุณเฉลิมไม่มีราคาที่ควรกล่าวถึง เพราะแม้แต่คุณทักษิณ ยังไม่มีราคาเลย”นายสนธิ ระบุ พร้อมทั้งยกเหตุการณ์สมัยการยึดอำนาจของ รสช. คุณเฉลิมต้องวิ่งหางจุกตูด แถมตนเองต้องให้เงินไปอีก 5 แสน แต่ในทางธรรม ถือว่าคนเนรคุณไม่มีวันเจริญ

“ที่ผ่านมาคุณเฉลิมชอบพูดว่าจะขอคุยกับผม ดังนั้นผมอยากจะถามพี่น้องในที่นี่ว่าจะให้ผมคุยหรือไม่ ถ้าไม่อยากให้คุยให้ยกมือ (ปรากฏว่ามีการยกมือทั้งหมด) เมื่อเสียงออกมาอย่างนี้ ดังนั้นให้คุณเฉลิมหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ผมไม่คุย ไม่เผาผีกัน”นายสนธิ ระบุ พร้อมท้าทาย คุณเฉลิม ที่ชอบบอกว่าให้พันธมิตรฯ ตั้งพรรคนัก ก็ขอท้ากลับว่า ให้สู้กันตัวต่อตัวให้ลงสมัครเลือกตั้งแข่งกันในกรุงเทพฯ แข่งกันตัวต่อตัว เพื่อพิสูจน์กันไปเลยว่า ประชาชนจะเลือกใคร

“ผมอยากบอกคุณเฉลิมว่า คนเขาเกลียดคุณขนาดไหน อย่าหลงตัวเองประเภทตีฝีปากมันหมดสมัยไปแล้ว ผมอยากบอกว่าองค์ความรู้ของคุณเฉลิมไม่ได้หนึ่งในล้านของผม”นายสนธิ ระบุ และพร้อมรับคำท้าของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะดีเบทในทุกเวที ทุกช่อง ยกเว้นช่องของนายจักรภพ เอาสมองมาสู้กัน โดยไม่ต้องเตรียมเอกสาร ใช้แต่สมอง ให้คนรู้ว่าใครคือเสือ ใครคือหมา

ในตอนท้ายได้เตือน ร.ต.อ.เฉลิม เรื่องอนิจจังว่า วันนี้คุณใหญ่ แต่พรุ่งนี้คุณอาจลี้ภัย หรือตาย ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ "ผมอยากให้ตายพร้อมกับคุณเฉลิม เพราะอยากรู้ว่า คนจะไปงานศพของใครมากกว่ากัน"นายสนธิ ระบุ และว่า การต่อสู้ครั้งนี้เหมือนเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ เพราะสู้ให้กับแผ่นดิน ตายเป็นตาย

พันธมิตร LA ร่วมต้านฉีก รธน.50

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 25 พ.ค.51 ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกากว่า 250 คน ณ บริเวณด้านหน้ากงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อต่อต้านการแก้ไขเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2550

ทั้งนี้ ในการชุมนุมดังกล่าวยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้กำลังใจกับพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน และเพื่อประณาม-ขับไล่รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวชอีกด้วยที่มีความประพฤติเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน

“การชุมนุมของทางพันธมิตรฯ ในสหรัฐอเมริกา เป็นไปอย่างคึกคักและแสดงออกถึงจิตใจที่รักและห่วงใยในชาติบ้านเมืองของพี่น้องคนไทยในต่างประเทศ ไม่แตกต่างไปจากพี่น้องที่ชุมนุมกันอยู่บนถนนราชดำเนิน”นายนิทัศน์ ศรีดิษฐ์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมงาน กล่าว

พร้อมกันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้มีการรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรการที่พันธมิตรฯ ได้เคยประกาศไว้แล้วอีกด้วยและยังมีการรวบรวมเงินบริจาคเพื่อส่งมอบให้กับเอเอสทีวี เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ประเทศไทยเป็นจำนวนเงินถึง 119,350 บาทอีกด้วย

“มาร์ค” จี้ “หมัก” แสดภาวะผู้นำ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการออกมาชุมนุมของพันธมิตรฯที่ออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อยากให้ทุกฝ่ายได้ใช้สิทธิเสรีภาพ และการแสดงออก โดยคำนึงถึงหลักกฎหมาย หากทุกฝ่ายคำนึงถึงกฎหมายปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งพรรคฯเสนอมาโดยตลอดว่า การแก้ไขปัญหาที่ดีคือการให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมโดยการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา และแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม โดยอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและดูแลเป็นพิเศษด้วยความเท่าเทียมกันเพื่อป้องกันเหตุการณ์ปะทะ

“อยากเรียกร้องให้นายกฯได้แสดงภาวะความเป็นผู้นำในฐานหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ขอร้องให้สมาชิกพรรคที่เข้าชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถอนญัตติออกมาก่อน เพื่อยุติความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในสังคม เพราะการทุ่มงบ 2 พันล้านบาทในการทำประชามติไม่ใช่ประเด็นของการแก้ไขปัญหา เพราะการแก้ไขมีทั้งฝ่ายเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ร่วมแก้ด้วย และขณะนี้ ประเทศก็มีปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของ และพลังงานมีราคาแพงขึ้น แต่รัฐบาลกลับไม่ให้ความสนใจ”

ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.เพชรบุรี ตอบโต้นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชนที่กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการขนคนมาร่วมชุมนุมของพันธมิตรฯว่า นายประชา กำลังให้ร้ายต่อพรรค ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และนายประชา กำลังดูถูกประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะตนเชื่อว่าคนเหล่านั้นมาด้วยความสมัครใจไม่มีใครจัดจ้างมา โดยเฉพาะประชา ชนที่มาจาก จ.เพชรบุรี ที่มาด้วยอุดมการณ์และเข้าร่วมการชุมนุมมาตั้งแต่การขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น