xs
xsm
sm
md
lg

ตจว.เข้ากรุงเสริมทัพพันธมิตรต้านฉีก รธน. – จวก “ตำรวจ” รับใช้ ”นักการเมืองเลว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภูมิภาค – “พันธมิตรต่างจังหวัด” ยกทัพพลังประชาชนเข้ากรุงหนุนพันธมิตรปักหลักชุมนุมไล่รัฐบาลนอมินีต่อเนื่อง ส่วนที่ยังไม่ได้เดินทางไปร่วมก็โอนเงินไปช่วยเป็นทุนร่วมขับไล่ทรราช และปักหลักชุมนุมอยู่ในพื้นที่ “พันธมิตรฯใต้” ที่เดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เผยหลังผ่านคืนแห่งความป่าเถื่อนของเหล่าอันธพาลที่พยายามรุมยำกลุ่มผู้ชุมนุม สลดใจภาพตำรวจกลายเป็นเครื่องมือรับใช้นักการเมืองเลว ปล่อยให้อันธพาลไล่รุมทำร้ายและใช้ความรุนแรงท่ามกลางสายตาของตำรวจหลายร้อยนาย ยืนยันกำลังใจผู้ชุมนุมยังเต็มร้อย

วานนี้ (26 พ.ค.) นายอติวัณณ์ ปานเพชร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา ซึ่งร่วมเดินทางมาชุมชุมที่กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า แม้ว่าพี่น้องทั้งหลายจะใช้เวลาชุมนุม ซึ่งยืดเยื้อข้ามวันข้ามคืนแล้ว ทว่าขวัญและกำลังใจของประชาชนชาวใต้ที่ร่วมชุมนุมก็ยังดีอยู่ แม้ว่าคืนที่ผ่านมา (25 พ.ค.) จะมีเหตุยั่วยุจากฝ่ายตรงข้ามและทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น แต่พันธมิตรชาวใต้ก็ปลอดภัยดีทุกคน

หลังจากที่ผู้ชุมนุมต้องนอนตากน้ำค้างกลางถนนมาหนึ่งคืนวันนี้ก็ได้นำเต็นท์มากางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มพี่น้องผู้ชุมนุมจากทั่วประเทศ ซึ่งปักหลักอยู่ด้วยความเข้มแข็ง ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้กลับไปทำงานตามปกติ แต่สัญญาว่าจะมาร่วมชุมนุมหลังจากเลิกงานแล้ว นอกจากนี้ ประชาชนที่ไม่สามารถร่วมชุมนุมได้ก็ไม่ได้ละทิ้ง แต่เสียสละกำลังเงินและจัดหาอาหารมาให้พันธมิตรฯ

“เช้าวันนี้(26) แม้ว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่ยอมเปิดทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา แต่ตัวแทนพันธมิตรจากภาคใต้ก็ได้ร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยื่นหนังสือถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ซึ่งจะเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งที่พี่น้องชาวใต้ได้มีส่วนร่วมทางการเมือง โดยไม่นิ่งเฉยต่อการทุจริต คอร์รัปชัน และระบอบทรราชที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศไทย” นายอติวัณณ์ กล่าว และว่า

พันธมิตรในภาคใต้ทั้ง จ.สงขลา และสตูลส่วนหนึ่งได้เดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อผลัดเปลี่ยนกำลังที่เหลือให้มาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหากภารกิจไม่เสร็จสิ้นก็จะไม่เลิกการชุมนุมและพันธมิตรก็ยังต้องการให้ประชาชนที่รู้เห็นความเลวร้ายของระบอบทรราชนี้ อย่าได้นิ่งดูดายจดจ้องเพียงหน้าจอโทรทัศน์ แต่ควรออกมาแสดงพลังบริสุทธิ์ที่เปี่ยมด้วยสงบ สันติ อหิงสา ขับไล่รัฐบาลและระบอบทักษิณให้เป็นรูปธรรม ด้วยการขึ้นมาชุมนุมที่กรุงเทพฯ โดยเร็วด้วย

นางอุดมศรี จันทร์รัศมี พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งเป็นอีกผู้หนึ่งที่ร่วมชุมนุมใหญ่ เปิดเผยว่า จากการร่วมชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เห็นชัดว่าขณะนี้ตำรวจไทยไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้กับประชาชน แต่กลับรับใช้นักการเมืองเลวๆ ทั้งที่เป็นข้าของแผ่นดินที่กินเงินภาษีของประชาชนทุกบาททุกสตางค์ และเปิดทางกลุ่มอันธพาลได้เข้ามารุมท้ายพันธมิตรซึ่งชุมนุมกันด้วยความสันติ และเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ทั้งยั่วยุด้วยการโชว์ของลับ ขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และขว้างมีดสปาร์ตา ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางสายตาของตำรวจหลายร้อยนาย ที่ยืนถือเกราะกำบังและไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน

“ความป่าเถื่อนที่ตำรวจปล่อยให้พวกอันธพาลเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมที่ใช้สันติ การบาดเจ็บมันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความรู้สึกเจ็บใจ ว่าทำไมตำรวจไม่ช่วยเราเลย แต่กลับยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม ทั้งที่เราถูกไล่กวดจากพวกอันธพาลทุกครั้ง ที่ฉวยจังหวะเข้ามาทำร้ายตลอดเวลา พวกเราต้องดูแลกันเอง จัดการ์ดเฝ้าเวรยามและให้ผู้หญิงและเด็กอยู่ตรงกลางแถวเพื่อป้องกันเหตุอันตราย” นายอุดมศรี กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนต้องเดินทางกลับมาทำงานต่อที่ จ.สตูล แต่ก็จะระดมพลพรรคของพันธมิตรในภาคใต้ตอนล่างให้ร่วมขึ้นไปชุมนุม และระดมเงินบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

สำหรับบรรยากาศตามร้านขายอาหารหลายแห่งที่ จ.สตูล ประชาชนต่างเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรผ่านทางสื่อโทรทัศน์สถานีต่างๆ ที่ออกแพร่ภาพการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มคัดค้านที่มีการขว้างปาและรุมทำร้ายกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด และหลายกลุ่มได้เตรียมขนชายฉกรรจ์เข้าร่วมสนับสนุนในการประท้วงครั้งนี้ด้วย เนื่องจากในวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมากลุ่มคน จ.สตูลที่เดินทางเข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนผู้สูงอายุทั้งนั้น

คนภูเก็ตเข้ากรุงอีกสมทบพันธมิตร

นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มยามและพันธมิตรในส่วนของ จ.ภูเก็ตว่า ในส่วนของแกนนำจะร่วมเดินทางไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพฯในขณะนี้ นอกจากนั้นยังมีในส่วนของกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตย และชาว จ.ภูเก็ตที่รับไม่ได้กับพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้ร่วมเดินทางไปสมทบอีกจำนวนหนึ่ง โดยการเดินทางเข้ากรุงเทพฯนั้นใช้ยุทธการดาวกระจายต่างคนต่างเดินทางและไปพบกันที่ลานชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเพื่อร่วมสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ และในส่วนของกลุ่มยามภูเก็ต–พันธมิตร รวมทั้งประชาชนบางส่วนที่เดินทางไปจะร่วมต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรจนถึงที่สุด

ส่วนการจัดกิจกรรมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรองรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมที่กรุงเทพฯได้ ก็จะจัดให้มีการถ่ายทอดสดเหมือนเดิมโดยจะเริ่มในเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากการถ่ายทอดสดแล้วยังจัดให้มีการลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ด้วย โดยวันนี้มีการเตรียมเอกสารถอดถอนไว้บริการประชาชนจำนวน 500 ชุดในขณะที่ตอนนี้มีการลงชื่อถอดถอนไปแล้วกว่า 500 ราย

นายณัชจรงค์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้คัดค้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและเข้าไปทำร้ายร่างกายของกลุ่มพันธมิตรว่า คิดว่าคนพวกนี้เป็นผลผลิตของความเห็นแก่เงิน คนเหล่านี้ทำอะไรก็ได้เพื่อเงินไม่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องหรือความชอบธรรม และคนเหล่นนี้แหละที่จะทำให้ชาติลำบาก

“ในส่วนของผม ซึ่งเป็นคนไทยคนหนึ่งและเป็นคนไทยที่รักประเทศชาติอยากเรียกร้องให้คนทั้งประเทศออกมาร่วมแสดงพลังเรียกร้องให้เกิดความถูกต้องเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะทำให้คนทั้งประเทศลำบากต่อไป ไม่ว่าจะเรื่องของน้ำมันที่แพงขึ้น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่เงินเดือนเท่าเดิม คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกมาแสดงพลังก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะถ้าสายไปแล้วไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้”

ตอ.ระดมทุน-สิ่งของหนุนพันธมิตร

นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เผยว่า ขณะนี้ตนยังอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ แต่ได้มีการประสานงานกับกลุ่มพันธมิตรในพื้นที่ภาคตะวันออกแล้ว ซึ่งขณะนี้มีการระดมทุนทรัพย์ และสิ่งของเครื่องใช้ และอาหาร ยา เพื่อนำมาสนับสนุน ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ พร้อมทั้งกลุ่มพันธมิตรอีกจำนวนมากเตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาสมทบกลับกลุ่มผู้ชุมนุมหลักและขอยืนยันว่าจะขอชุมนุมอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการถอดถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญออก

โดยในวันนี้ (27 พ.ค.) จะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่งถึงแนวทางการต่อสู้ หากรัฐบาลยิ่งนิ่งเฉยโดยอาจจะมีการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อให้รัฐบาลได้เห็นถึงความไม่ถูกต้องของการดำเนินการของรัฐบาลที่กระทำอยู่ในทุกวันนี้ โดยพวกเราจะร่วมกันพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เนื่องจากกรณีที่พรรคพลังประชาชน กำลังเดินหน้าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนคนไทย มากกว่า 14 ล้านเสียง โดยเพียงเพื่อต้องการแก้ไข เพื่อเปิดทางให้กับพวกพ้อง มากกว่าประโยชน์ของประชาชน โดยอ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งในความเป็นจริงทำ เพื่อใครคนใดคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่เช้าวานนี้ได้มีประชาชนนำหนังสือลงลายมือชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านศูนย์ข่าวศรีราชาเพื่อส่งต่อไปยังแกนนำพันธมิตรที่รวบรวมลายมือชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมมนูญ โดยแจงพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดมาตรา 270 จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญ 4 ข้อ ซึ่งแกนนำพันธมิตรจะนำรายชื่อประชาชน 20,000 รายชื่อ มายื่นให้ประธานวุฒิสภาเพื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ เนื่องจากติดภารกิจไม่สามารถเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯได้ แต่ได้ส่งกำลังใจ พร้อมลายมือชื่อและร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนที่มีกำลังและสามารถเดินทางไปร่วมชุมนุนที่กรุงเทพฯได้พากันออกมาเยอะๆ

กลุ่มสระแก้วยันไม่ถอยแม้ถูกลอบกัด

นายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำกลุ่มพันธมิตร จ.สระแก้ว เผยว่า กลุ่มตนซึ่งมีประมาณเกือบ 100 คนเดินทางมาร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.ซึ่งในช่วงปะทะกันทางกลุ่มได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรไม่ได้มีอาวุธอะไรมาชุมนุมกันอย่างสงบ กลับโดนทางกลุ่ม นปก. ลอบทำร้ายถึง 2 ครั้ง ทำให้พรรคพวกตนที่ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ได้รับบาดเจ็บคนละเล็กละน้อย ซึ่งพรรคพวกที่ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ หลายคนที่เข้ามาร่วมการชุมนุมในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แล้วมาพบเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเอง ตอนที่ถูกพวก นปก.ลอบทำร้าย จึงเข้าใจ และสมัครใจที่จะเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ต่อไปทันที

“กลุ่มผมยังเคลือบแคลงสงสัยอยู่ว่า ทำไมตำรวจที่มาดูแลความปลอดภัยกลับนิ่งเฉย ปล่อยให้กลุ่ม นปก. เข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตรทั้งที่กลุ่มพันธมิตรไม่มีอาวุธแม้แต่คนเดียว เสมือนรู้เห็นเป็นใจเปิดทางให้มีการทำร้ายกันเกิดขึ้น โดยไม่มีการเข้าห้ามปรามหรือแก้ไขสถานการณ์ จนทำให้เกิดการตะลุมบอนกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และยังติดใจในส่วนของ รมว.มหาดไทย ที่มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรที่ไม่มีอาวุธ มันเกินไปหรือเปล่า แล้วมาออกข่าวว่าที่ยิงใส่กลุ่มพันธมิตรนั้นเพราะกลุ่มพันธมิตรมีจำนวนเยอะกว่า โดยไม่มองว่าฝ่ายไหนถูก ฝ่ายไหนผิด การที่พันธมิตรฯลุกขึ้นสู้เพราะว่าพวกเราโดนทำร้ายกันก่อน จนทนไม่ได้เท่านั้นเอง”

นายอัมรินทร์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว ที่ติดตามข่าวสารเหตุการณ์อยู่ในพื้นที่จำนวนมากเตรียมที่จะเดินทางเข้ามาสมทบแล้ว ซึ่งก็มีบางส่วนเดินทางมาก่อน โดยเหมารถบัสมากัน 2 คัน แต่ก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นในช่วงบริเวณ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งคาดว่ากำลังเสริมทั้งหมดที่กำลังจะเดินทางมาจะถึงที่ชุมนุมได้ในช่วงเย็นนี้(26) แน่นอน

ชาวขอนแก่นเข้ากรุงสมทบอีก

ที่ จ.ขอนแก่น มีประชาชนทยอยมาขอแบบฟอร์มยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างต่อเนื่องที่ศูนย์ข่าว “ผู้จัดการ-ASTV News 1” จ.ขอนแก่นค่อนข้างคึกคัก บ้างก็ขอแบบฟอร์มกลับไปยังที่ทำงานหรือบ้านพัก เพื่อให้เพื่อนฝูงและญาติๆ ได้ร่วมลงชื่อถอดถอนด้วย

หลายคนบอกว่า ได้ติดตามรับชมการชุมนุมของพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ เห็นภาพเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมถูกก่อกวนขว้างปาทำร้ายร่างกายแล้วน่าเห็นใจและไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ห้ามปราม หรือสกัดกลุ่มก่อกวนเหล่านั้นออกไปจากบริเวณที่ชุมนุม ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อยากจะเดินทางไปร่วมชุมนุมด้วย แต่ติดปัญหาที่ต้องทำงานประจำ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลนายสมัครไม่ยอมดำเนินการตามเงื่อนไขของการชุมนุม ด้วยการถอนญัตติและการชุมนุมยืดเยื้อไปถึงวันศุกร์นี้พวกเขาก็จะเดินทางไปร่วมชุมนุมด้วย

ขณะที่ในบ่ายวันเดียวกันชาวชุมแพหลายสิบคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณ และติดตามภาพเหตุการณ์ผู้ชุมนุมถูกทำร้ายได้เหมารถยนต์เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับเครือข่ายพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯแล้ว

คนอุบลฯโอนเงินร่วมไล่ทรราช

ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี ประชาชนได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรผ่านสถานีเคเบิลทีวีท้องถิ่นทุกช่องที่รับสัญญาณถ่ายทอดของ astv แทบทุกหลังคาเรือน และมีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ความรุนแรงที่กลุ่มพันธมิตรถูกกลุ่มฝ่ายต่อต้านทำร้าย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยปล่อยเกียร์ว่างไม่เข้ายุติการยั่วยุและจับกุมผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านที่มีอาวุธ

นอกจากนี้ ชาว จ.อุบลราชธานี ที่เฝ้าติดตามดูการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรยังได้โทรศัพท์สอบถามเหตุการณ์การชุมนุมจากเพื่อนที่เข้าร่วมชุมนุมเป็นระยะ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มนักธุรกิจในจังหวัดได้ทยอยโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรอีกเป็นเงินนับแสนบาทด้วย

พันธมิตรฯ ใต้แฉ “ตำรวจ-อันธพาล” รับใช้ทรราช-ระดมกำลังหนุนชุมนุมต่อ
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – พันธมิตรใต้ซึ่งเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เผยหลังผ่านคืนแห่งความป่าเถื่อนของเหล่าอันธพาลที่พยายามรุมยำกลุ่มผู้ชุมนุม สลดใจภาพตำรวจกลายเป็นเครื่องมือรับใช้นักการเมืองเลว ปล่อยให้อันธพาลไล่รุมทำร้ายและใช้ความรุนแรงท่ามกลางสายตาของตำรวจหลายร้อยนาย อย่างไรก็ตาม ยืนยันกำลังใจผู้ชุมนุมยังเต็มร้อย แต่ขอกำลังเสริมจากปักษ์ใต้เพิ่ม ซึ่งขณะนี้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้เดินทางมายังภูมิลำเนาเพื่อร่วมระดมทั้งเงินบริจาค-กำลังผู้ชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ จ.สตูล เตรียมเดินทางไปเพิ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น