ผู้จัดการรายวัน - น้ำประปาไทย ซื้อขายวันแรกแผ่วปิดแค่ 4.36 บาท สูงกว่าจอง 0.16 บาท หรือ 3.81% หลังตลาดหุ้นไทยเจอแรงกดดันจากตลาดหุ้นโลก ฉุดดัชนีรูดเกือบ 10 จุด ด้านผู้บริหาร-ที่ปรึกษาฯ พอใจ แม้ไม่คึกคักมากนัก แต่แอบหวังนักลงทุนจะให้ความสนใจในระยะยาว ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ. ช.การช่าง แย้มอาจซื้อหุ้นในกระดานเพิ่ม หากราคารูดแรง
วานนี้ (22 พ.ค.) หลักทรัพย์ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW จำนวน 3,990 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 1 บาท ได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก หลังจากเสนอขายเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท
โดยราคา TTW เปิดการซื้อขายที่ 4.20 บาท ซึ่งเป็นราคาซื้อขายต่ำสุดและเท่ากับราคาไอพีโอ ก่อนจะมีแรงซื้อขายมาอย่างหนาแน่นจนทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มเหนือราคาจองได้ แม้ว่าภาวะตลาดหุ้นรวมจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ โดยราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 4.46 บาท และปิดการซื้อขายที่หุ้นละ 4.36 บาท สูงกว่าราคาจอง 0.16 บาท คิดเป็น 3.81% มูลค่าการซื้อขายรวม 1,437.65 ล้านบาท
ขณะที่รายงานการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ พบมีการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) ของหลักทรัพย์บมจ. น้ำประปาไทย หรือ TTW จำนวน 1.06 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 4.36 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 4.62 ล้านบาท
ตลาดหุ้นรูดหนักเกือบ 10 จุด
ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลาดทั้งวัน สูงสุดที่ 886.57 จุด ต่ำสุด 874.34 จุด และปิดการซื้อขายที่ 874.54 จุด ลดลงจากวันก่อน 9.65 จุด คิดเป็น 1.09% มูลค่าการซื้อขายรวม 31,600.92 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,726.46 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,096.97 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 629.50 ล้านบาท
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW กล่าวว่า ราคาเปิดที่หุ้นละ 4.20 บาท เท่ากับราคาไอพีโอถือเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่เอื้อ คือดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากวันก่อน สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย และดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลงกว่า 227 จุด
"ผมรู้สึกพอใจกับราคาเปิดที่ 4.20 บาท แม้จะเท่ากับราคาไอพีโอ ซึ่งสวนทางกับภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ดัชนีติดลบ และมั่นใจว่าหุ้น TTW จะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหุ้นสาธารณูปโภคที่มีปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่ดีมีรายได้ และผลกำไรเติบโตอย่างมั่นคงทุกปีนับตั้งแต่บริษัทเปิดให้บริการในปี 2547 รวมทั้งช่วงที่เปิดให้จองหุ้นมีนักลงทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศ และนักลงทุนรายย่อยได้แสดงความจำนงขอซื้อหุ้นสูงกว่าที่บริษัทเสนอขายเป็นจำนวนมาก"
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ นายสมโพธิ กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการชำระหนี้ได้ภายในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ประมาณเดือนละ 20 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/51 บริษัทมีรายได้รวม 858 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 306 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 480 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 223 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้รายได้รวมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,250 ล้านบาท
ปัจจุบัน บมจ. น้ำประปาไทย มีกำลังผลิตน้ำประปาสูงสุดที่ 320,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีอายุสัญญาซื้อขายน้ำประปากับการประปาภูมิภาค (กปภ.) เหลืออีก 26 ปี ขณะที่บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด หรือ PTW (บริษัทย่อยที่ ธธ" ถือหุ้น 98%) มีกำลังการผลิต 288,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และกำลังดำเนินการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ชึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2551 โดยมีอายุสัญญาซื้อขายน้ำประปากับกปภ.เหลืออีก 16 ปี
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.น้ำประปาไทย หรือ TTW กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ราคาหุ้น TTW ยื่นเหนือจองได้จากราคาไอพีโอ 4.20 บาท แม้จะปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่เชื่อว่าหุ้น TTW ซึ่งเป็นหุ้นระยะยาวอยู่ในกลุ่มสาธารณูปโภคที่มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาขายน้ำประปาสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามเงินเฟ้อ ทำให้ผลการดำเนินงานค่อนข้างมีเสถียรภาพ
ช.การช่างเล็งซื้อหุ้นเข้าพอร์ต
ด้านนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง หรือ CK ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.น้ำประปาไทย กล่าวว่า บริษัทอาจจะซื้อหุ้น TTW คืนเข้าพอร์ต หากราคาหุ้นบนกระดานปรับลดลงแรง เนื่องจากยังมั่นใจในพื้นฐานกิจการที่มีความมั่นคงสูง จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ขายหุ้นเดิมออกไป 143.06 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/51 บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายหุ้น TTW ประมาณ 500 ล้านบาท แต่จะเป็นกำไรประมาณ 250 ล้านบาท ประกอบกับผลประกอบการปกติยังอยู่ในเกณฑ์ดี บริษัทจึงความมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/51 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/51 ที่มีกำไรสุทธิ 97.87 ล้านบาท
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบมจ. น้ำประปาไทย ประกอบด้วย บมจ.ช.การช่าง 35.26% บจก. มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) 25.88% บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ 9.24% ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 1.85% ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 1.71% กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทฯ และพนักงานวอเตอร์โฟลว์ 1.00% และประชาชน 25.06%
โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายเกิน5บ.
บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่า TTW ปี 51 จะมีอัตราการกำไรสุทธิขยายตัว 32% จากการทำงบการเงินรวมกับ PTW และปริมาณขายที่เพิ่มทั้งในส่วนของ TTW และ PTW ขณะที่ปี 52 จะขยายตัวต่อเนื่องได้อีก 55% ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มของ PTW ราคาขายน้ำที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายลดลง โดยให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 5.65 บาท จึงแนะนำให้ซื้อลงทุน เพราะยังมีส่วนต่าง (Upside) จากราคาไอพีโอประมาณ 35%
ขณะที่ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินคาดว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วันภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้ TTW มียอดขายปีนี้เป็น 3,176 ล้านบาท หรือเติบโต 24% ขณะที่อัตรากำไรขึ้นต้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 49-50 อยู่ที่ระดับ 70.8% และ 69.6% ตามลำดับ และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2551 จะเติบโตถึง 43% ที่ 1,319 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.31 บาท โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.00 บาท จึงแนะนำให้ซื้อ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานหลังจากที่บวกต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว จากการปรับตัวเพิ่มของหุ้นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งสอดคล้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น แต่ขณะนี้ทั้งราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นมากได้เริ่มที่จะสร้างปัญหาในส่วนของเงินเฟ้อ ทำให้คาดการณ์ว่ามีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงท้ายปีนี้
"ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง จะส่งผลลบต่อผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนได้ เช่น บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น จะทำให้ต้นทุนในการทำธุรกิจปิโตรเคมีสูงตามไปด้วย ขณะที่กลุ่มขนส่งอย่าง บมจ.การบินไทย (THAI) และ บมจ. อาร์ ซี แอล (RCL) ปีนี้คงจะต้องรับภาระค่าน้ำมันที่สูงมาก"
วานนี้ (22 พ.ค.) หลักทรัพย์ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW จำนวน 3,990 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 1 บาท ได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก หลังจากเสนอขายเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท
โดยราคา TTW เปิดการซื้อขายที่ 4.20 บาท ซึ่งเป็นราคาซื้อขายต่ำสุดและเท่ากับราคาไอพีโอ ก่อนจะมีแรงซื้อขายมาอย่างหนาแน่นจนทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มเหนือราคาจองได้ แม้ว่าภาวะตลาดหุ้นรวมจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ โดยราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 4.46 บาท และปิดการซื้อขายที่หุ้นละ 4.36 บาท สูงกว่าราคาจอง 0.16 บาท คิดเป็น 3.81% มูลค่าการซื้อขายรวม 1,437.65 ล้านบาท
ขณะที่รายงานการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ พบมีการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) ของหลักทรัพย์บมจ. น้ำประปาไทย หรือ TTW จำนวน 1.06 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 4.36 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 4.62 ล้านบาท
ตลาดหุ้นรูดหนักเกือบ 10 จุด
ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลาดทั้งวัน สูงสุดที่ 886.57 จุด ต่ำสุด 874.34 จุด และปิดการซื้อขายที่ 874.54 จุด ลดลงจากวันก่อน 9.65 จุด คิดเป็น 1.09% มูลค่าการซื้อขายรวม 31,600.92 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,726.46 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,096.97 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 629.50 ล้านบาท
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW กล่าวว่า ราคาเปิดที่หุ้นละ 4.20 บาท เท่ากับราคาไอพีโอถือเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่เอื้อ คือดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากวันก่อน สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย และดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลงกว่า 227 จุด
"ผมรู้สึกพอใจกับราคาเปิดที่ 4.20 บาท แม้จะเท่ากับราคาไอพีโอ ซึ่งสวนทางกับภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ดัชนีติดลบ และมั่นใจว่าหุ้น TTW จะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหุ้นสาธารณูปโภคที่มีปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่ดีมีรายได้ และผลกำไรเติบโตอย่างมั่นคงทุกปีนับตั้งแต่บริษัทเปิดให้บริการในปี 2547 รวมทั้งช่วงที่เปิดให้จองหุ้นมีนักลงทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศ และนักลงทุนรายย่อยได้แสดงความจำนงขอซื้อหุ้นสูงกว่าที่บริษัทเสนอขายเป็นจำนวนมาก"
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ นายสมโพธิ กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการชำระหนี้ได้ภายในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ประมาณเดือนละ 20 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/51 บริษัทมีรายได้รวม 858 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 306 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 480 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 223 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้รายได้รวมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,250 ล้านบาท
ปัจจุบัน บมจ. น้ำประปาไทย มีกำลังผลิตน้ำประปาสูงสุดที่ 320,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีอายุสัญญาซื้อขายน้ำประปากับการประปาภูมิภาค (กปภ.) เหลืออีก 26 ปี ขณะที่บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด หรือ PTW (บริษัทย่อยที่ ธธ" ถือหุ้น 98%) มีกำลังการผลิต 288,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และกำลังดำเนินการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ชึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2551 โดยมีอายุสัญญาซื้อขายน้ำประปากับกปภ.เหลืออีก 16 ปี
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.น้ำประปาไทย หรือ TTW กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ราคาหุ้น TTW ยื่นเหนือจองได้จากราคาไอพีโอ 4.20 บาท แม้จะปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่เชื่อว่าหุ้น TTW ซึ่งเป็นหุ้นระยะยาวอยู่ในกลุ่มสาธารณูปโภคที่มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาขายน้ำประปาสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามเงินเฟ้อ ทำให้ผลการดำเนินงานค่อนข้างมีเสถียรภาพ
ช.การช่างเล็งซื้อหุ้นเข้าพอร์ต
ด้านนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง หรือ CK ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.น้ำประปาไทย กล่าวว่า บริษัทอาจจะซื้อหุ้น TTW คืนเข้าพอร์ต หากราคาหุ้นบนกระดานปรับลดลงแรง เนื่องจากยังมั่นใจในพื้นฐานกิจการที่มีความมั่นคงสูง จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ขายหุ้นเดิมออกไป 143.06 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/51 บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายหุ้น TTW ประมาณ 500 ล้านบาท แต่จะเป็นกำไรประมาณ 250 ล้านบาท ประกอบกับผลประกอบการปกติยังอยู่ในเกณฑ์ดี บริษัทจึงความมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/51 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/51 ที่มีกำไรสุทธิ 97.87 ล้านบาท
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบมจ. น้ำประปาไทย ประกอบด้วย บมจ.ช.การช่าง 35.26% บจก. มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) 25.88% บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ 9.24% ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 1.85% ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 1.71% กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทฯ และพนักงานวอเตอร์โฟลว์ 1.00% และประชาชน 25.06%
โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายเกิน5บ.
บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่า TTW ปี 51 จะมีอัตราการกำไรสุทธิขยายตัว 32% จากการทำงบการเงินรวมกับ PTW และปริมาณขายที่เพิ่มทั้งในส่วนของ TTW และ PTW ขณะที่ปี 52 จะขยายตัวต่อเนื่องได้อีก 55% ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มของ PTW ราคาขายน้ำที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายลดลง โดยให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 5.65 บาท จึงแนะนำให้ซื้อลงทุน เพราะยังมีส่วนต่าง (Upside) จากราคาไอพีโอประมาณ 35%
ขณะที่ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินคาดว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วันภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้ TTW มียอดขายปีนี้เป็น 3,176 ล้านบาท หรือเติบโต 24% ขณะที่อัตรากำไรขึ้นต้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 49-50 อยู่ที่ระดับ 70.8% และ 69.6% ตามลำดับ และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2551 จะเติบโตถึง 43% ที่ 1,319 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.31 บาท โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.00 บาท จึงแนะนำให้ซื้อ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานหลังจากที่บวกต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว จากการปรับตัวเพิ่มของหุ้นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งสอดคล้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น แต่ขณะนี้ทั้งราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นมากได้เริ่มที่จะสร้างปัญหาในส่วนของเงินเฟ้อ ทำให้คาดการณ์ว่ามีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงท้ายปีนี้
"ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง จะส่งผลลบต่อผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนได้ เช่น บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น จะทำให้ต้นทุนในการทำธุรกิจปิโตรเคมีสูงตามไปด้วย ขณะที่กลุ่มขนส่งอย่าง บมจ.การบินไทย (THAI) และ บมจ. อาร์ ซี แอล (RCL) ปีนี้คงจะต้องรับภาระค่าน้ำมันที่สูงมาก"