พูดถึงหลวงตามหาบัวอยากเป็นสังฆราช
หลวงตาก็เจริญธรรมมาและก็มีญาติโยมไปขึ้นกันมาก ต่อมาญาติโยมนั้นก็เลยกลายเป็นเน็ตเวิร์กที่ต่อมา คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้อย่างสบายใจ เช่น ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย แม้กระทั่งพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง ก็มีความเคารพในหลวงตามหาบัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว สมเด็จพระนางเจ้าก็เสด็จฯ โดยเฉพาะเวลาหลวงตา มากรุงเทพฯ ก็เสด็จฯไป
โดยเฉพาะจำได้ไหมที่หลวงตาหาทองมาเพื่อชำระหนี้ประเทศ ตอนนั้นเป็นระยะที่หลวงตามีชื่อเสียงที่สุด ว่าเป็นพระพิเศษ ไม่เหมือนพระทั่วไป สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ก็เสด็จฯ ที่วัดป่าบ้านตาด
เอาล่ะ ทั้งหมดนั้นทำให้หลวงตาเองก็อยู่ในสถานะพระพิเศษ ปรากฏว่า ผู้ช่วยของหลวงตาที่มีชื่อว่า ทองก้อน ซึ่งบัดนี้แตกกันไปแล้ว ทองก้อน นี่เป็นคนที่ให้ความคิดกับหลวงตาว่า หลวงตามีอาวุโสในทางพระ ที่เรียกว่า พรรษาสูงกว่าทุกองค์ที่อยู่ในพระราชาคณะ
ผมไม่ทราบว่า พูดอย่างไรล่ะ แต่ดูเหมือนกับว่า ต่อมาความต้องการจะเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ คือ สมเด็จพระสังฆราช ก็เกิดขึ้น แทนที่จะไปตามอริยศักดิ์ทั่วไป ก็คิดจะขึ้นทางด่วน
เรื่องที่จะลัดขึ้นเคยมีคนใช้คำนี้ไว้แล้ว แต่ใช้ในทางที่ดี คือพระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นพระพิศาลธรรมวาที รู้สึกตอนนี้จะเลื่อนสมณศักดิ์แล้ว คนที่จำได้ท่าน เล่าให้ผมฟัง พระพยอม นี่เป็นพระครูธรรมดา แต่พระเจ้าอยู่หัวนี่โปรดเกล้าฯ ให้เป็นท่านเจ้าคุณ คือ เป็นพระพิศาลธรรมวาที เรียกว่า ท่านเจ้าคุณ ที่พิศาลธรรมวาที ก็เรียกว่า เจ้าคุณพยอมนั่นเอง
เคยเล่าให้ผมฟังว่า ในหลวงตั้งอย่างนี้ปรู้ดปร้าด รวดเร็ว วันที่เจ้าคุณพยอมไปรับพระราชทานพัดยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เสด็จมาเป็นระยะๆ เรียกว่า มีพระราชปฏิสันถาร กับพระแต่ละองค์ พอมาถึงพระพยอม ท่านเป็นพระนักพูด มีปฏิญาณในการพูด ท่านก็ถวายพระพร บอกว่า พระมหาบพิตรแต่งตั้งพระองค์อย่างนี้ มีคนเขาว่า เหมือนขึ้นลิฟท์ ก็กราบทูลอย่างนั้น พระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งสวนทันทีว่า ให้ขึ้นลิฟท์ไปทำงาน จะกลัวอะไร
เพราะฉนั้นคำว่าขึ้นลิฟท์ มันก็มีในสารบบขึ้นมา ก็คือ การข้ามทางไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ผมไม่รู้ว่าหลวงตาท่านคิดเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่า ทองก้อนคิด พี่น้องทราบไหมครับว่า วัดในเมืองไทย ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก หลายหมื่นวัด ถ้านำเอาที่ หรือที่เรียกว่าธรณีสงฆ์ และโบราณวัตถุต่างๆ ศาสนสถานวัตถุต่างๆ มารวมกันทั่วประเทศ กิจการคณะสงฆ์ จะมีทรัพย์สินรวมกันทั่วประเทศประมาณ 4 แสนล้าน พี่น้องทราบเรื่องนี้ไหมครับ แล้วพี่น้องนึกภาพต่อไปไหมครับว่า ทำไมคนอยากเป็นใหญ่ในวงการนี้
ด่าคนใกล้ชิดราชวงศ์เป็นพวกตอแหล
มันเริ่มมีสัญญาณที่แปล คุณสนธิ เริ่มตั้งขบวนการนี้ที่เรียกว่า เรารักในหลวง จำได้ไหมครับ ใส่เสื้อเหลืองเป็นยุคแรกๆ คือ เสื้อเหลืองนี่ เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลทักษิณโปรโมทขึ้น และทำให้คนแสดงความจงรักภักดีอย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ อันนี้ฝีมือรัฐบาลทักษิณ ที่คนเขาว่าไม่จงรักภักดีนั่นแหละ
เดี๋ยวๆ เรื่องพระเจ้าอยู่หัวกับนายกฯทักษิณ จะพูดอีกทีหนึ่ง อยากจะทบทวนความจำเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ในที่เกิดเหตุตั้งหลายเรื่อง ก็เลยเล่าได้ เอาเรื่องนี้ก่อน คุณสนธิ สร้างพลังเสื้อเหลืองขึ้นมา พูดง่ายๆคือ ยุให้วังกับรัฐบาลตีกัน เพราะเห็นแล้วว่า ไม่มีทางอื่นจะโค่นทักษิณได้ ยกเว้นจะว่าให้ตีกับในวัง หรือให้ในวังไม่ชอบ เพราะในวังนี่มีคนหลายประเภท พระบรมวงศนานุวงศ์ระดับสูง เรายกไว้ แต่บุคคลที่เชื่อมระหว่างพระบรมวงศานุวงศ์ทั่วไปกับบุคคลข้างล่าง เป็นคนหลายหลากความคิด และจิตใจ หลายหลากผลประโยชน์ และที่สำคัญก็คือว่า มีลักษณะเหมือนคอร์ททั่วๆไป
ท่านเคยดูหนังจีนไหมครับ คนที่เป็นขุนนางในหนังจีนเขาจะมีความสามารถอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เป็นทักษะคือ ต้องมีความสามารถในการตอแหล คำว่า ตอแหล ไม่ได้เป็นคำด่า แต่เป็นคำไทยแท้ ที่แปลว่า ความจริงส่วนหนึ่ง ความเท็จส่วนหนึ่ง แล้วก็บิดเบือน มีความสามารถในการจับจริงมานิดนึง ให้คนพอเชื่อ แล้วผสมกับความเท็จลงไป
บอกคนที่อยู่เบื้องหลังปฏิวัติใหญ่กว่าป๋าเปรม
คุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผมทำงานด้วยไม่อยากจะวิจารณ์ผู้บังคับบัญชาเลย แต่นี่บ้านเมืองใหญ่กว่า ความรู้สึกส่วนตัว คุณสุรเกียรติ์ อยู่ได้จนถึงนาทีสุดท้ายเพราะอะไร อยู่เพื่อจะกระซิบคุณทักษิณ ที่นิวยอร์ก ว่า อย่าไปสู้เลย เพราะรัฐประหารครั้งนี้สูงมาก
ซึ่งเป็นผลให้คุณทักษิณตัดสินใจไม่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะอยากเห็นความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ผมนะเสียใจมาก ถ้ารู้ว่ารับมืออยู่กับโจรก็เชียร์ให้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นไปซะนานแล้ว ทางนี้จะได้กลายเป็นเถื่อนไปให้หมด ทางนี้หมายถึงที่กรุงเทพฯนะ ไม่ว่าจะฤาษีเลี้ยงเต่า หรือเต่าควายอะไรทั้งหลายนั่นแหละ เถื่อนทั้งนั้น เพราะฉนั้นเนี่ย มันมีเหตุผลที่จะต้องตัดสินใจยามคับขัน ผมเห็นใจท่านนายกฯ ตอนนั้นผมอยู่ที่กรุงเทพฯนะครับ ท่านนายกฯ อยู่นิวยอร์ก ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะเริ่มได้กลิ่นอะไรไม่ค่อยดี ในเมื่อเข้าซอยตรงนี้ ก็เล่าตรงนี้ว่า ทำไมไม่สู้ กำลังก็มี เตรียมไว้แล้วด้วย ก็ตอบสั้นๆ เท่านั้นล่ะครับ แล้วขอตอบประโยคเดียว ใครถามก็จะร้องเพลงให้ฟัง ให้ตอบเพิ่มว่า เหตุที่ไม่สู้ก็เพราะว่า เราเตรียมกำลังไว้สู้กับคุณเปรมเท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะคุณเปรมนั่นเหรอ ก็จบเกมไปนานแล้ว
เพราะว่าดูหนังจีนเรื่องเดียวกันรู้ว่าจะจัดการกับนางพญาผมขาวอย่างไร
หลวงตาก็เจริญธรรมมาและก็มีญาติโยมไปขึ้นกันมาก ต่อมาญาติโยมนั้นก็เลยกลายเป็นเน็ตเวิร์กที่ต่อมา คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้อย่างสบายใจ เช่น ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย แม้กระทั่งพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง ก็มีความเคารพในหลวงตามหาบัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว สมเด็จพระนางเจ้าก็เสด็จฯ โดยเฉพาะเวลาหลวงตา มากรุงเทพฯ ก็เสด็จฯไป
โดยเฉพาะจำได้ไหมที่หลวงตาหาทองมาเพื่อชำระหนี้ประเทศ ตอนนั้นเป็นระยะที่หลวงตามีชื่อเสียงที่สุด ว่าเป็นพระพิเศษ ไม่เหมือนพระทั่วไป สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ก็เสด็จฯ ที่วัดป่าบ้านตาด
เอาล่ะ ทั้งหมดนั้นทำให้หลวงตาเองก็อยู่ในสถานะพระพิเศษ ปรากฏว่า ผู้ช่วยของหลวงตาที่มีชื่อว่า ทองก้อน ซึ่งบัดนี้แตกกันไปแล้ว ทองก้อน นี่เป็นคนที่ให้ความคิดกับหลวงตาว่า หลวงตามีอาวุโสในทางพระ ที่เรียกว่า พรรษาสูงกว่าทุกองค์ที่อยู่ในพระราชาคณะ
ผมไม่ทราบว่า พูดอย่างไรล่ะ แต่ดูเหมือนกับว่า ต่อมาความต้องการจะเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ คือ สมเด็จพระสังฆราช ก็เกิดขึ้น แทนที่จะไปตามอริยศักดิ์ทั่วไป ก็คิดจะขึ้นทางด่วน
เรื่องที่จะลัดขึ้นเคยมีคนใช้คำนี้ไว้แล้ว แต่ใช้ในทางที่ดี คือพระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นพระพิศาลธรรมวาที รู้สึกตอนนี้จะเลื่อนสมณศักดิ์แล้ว คนที่จำได้ท่าน เล่าให้ผมฟัง พระพยอม นี่เป็นพระครูธรรมดา แต่พระเจ้าอยู่หัวนี่โปรดเกล้าฯ ให้เป็นท่านเจ้าคุณ คือ เป็นพระพิศาลธรรมวาที เรียกว่า ท่านเจ้าคุณ ที่พิศาลธรรมวาที ก็เรียกว่า เจ้าคุณพยอมนั่นเอง
เคยเล่าให้ผมฟังว่า ในหลวงตั้งอย่างนี้ปรู้ดปร้าด รวดเร็ว วันที่เจ้าคุณพยอมไปรับพระราชทานพัดยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เสด็จมาเป็นระยะๆ เรียกว่า มีพระราชปฏิสันถาร กับพระแต่ละองค์ พอมาถึงพระพยอม ท่านเป็นพระนักพูด มีปฏิญาณในการพูด ท่านก็ถวายพระพร บอกว่า พระมหาบพิตรแต่งตั้งพระองค์อย่างนี้ มีคนเขาว่า เหมือนขึ้นลิฟท์ ก็กราบทูลอย่างนั้น พระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งสวนทันทีว่า ให้ขึ้นลิฟท์ไปทำงาน จะกลัวอะไร
เพราะฉนั้นคำว่าขึ้นลิฟท์ มันก็มีในสารบบขึ้นมา ก็คือ การข้ามทางไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ผมไม่รู้ว่าหลวงตาท่านคิดเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่า ทองก้อนคิด พี่น้องทราบไหมครับว่า วัดในเมืองไทย ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก หลายหมื่นวัด ถ้านำเอาที่ หรือที่เรียกว่าธรณีสงฆ์ และโบราณวัตถุต่างๆ ศาสนสถานวัตถุต่างๆ มารวมกันทั่วประเทศ กิจการคณะสงฆ์ จะมีทรัพย์สินรวมกันทั่วประเทศประมาณ 4 แสนล้าน พี่น้องทราบเรื่องนี้ไหมครับ แล้วพี่น้องนึกภาพต่อไปไหมครับว่า ทำไมคนอยากเป็นใหญ่ในวงการนี้
ด่าคนใกล้ชิดราชวงศ์เป็นพวกตอแหล
มันเริ่มมีสัญญาณที่แปล คุณสนธิ เริ่มตั้งขบวนการนี้ที่เรียกว่า เรารักในหลวง จำได้ไหมครับ ใส่เสื้อเหลืองเป็นยุคแรกๆ คือ เสื้อเหลืองนี่ เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลทักษิณโปรโมทขึ้น และทำให้คนแสดงความจงรักภักดีอย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ อันนี้ฝีมือรัฐบาลทักษิณ ที่คนเขาว่าไม่จงรักภักดีนั่นแหละ
เดี๋ยวๆ เรื่องพระเจ้าอยู่หัวกับนายกฯทักษิณ จะพูดอีกทีหนึ่ง อยากจะทบทวนความจำเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ในที่เกิดเหตุตั้งหลายเรื่อง ก็เลยเล่าได้ เอาเรื่องนี้ก่อน คุณสนธิ สร้างพลังเสื้อเหลืองขึ้นมา พูดง่ายๆคือ ยุให้วังกับรัฐบาลตีกัน เพราะเห็นแล้วว่า ไม่มีทางอื่นจะโค่นทักษิณได้ ยกเว้นจะว่าให้ตีกับในวัง หรือให้ในวังไม่ชอบ เพราะในวังนี่มีคนหลายประเภท พระบรมวงศนานุวงศ์ระดับสูง เรายกไว้ แต่บุคคลที่เชื่อมระหว่างพระบรมวงศานุวงศ์ทั่วไปกับบุคคลข้างล่าง เป็นคนหลายหลากความคิด และจิตใจ หลายหลากผลประโยชน์ และที่สำคัญก็คือว่า มีลักษณะเหมือนคอร์ททั่วๆไป
ท่านเคยดูหนังจีนไหมครับ คนที่เป็นขุนนางในหนังจีนเขาจะมีความสามารถอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เป็นทักษะคือ ต้องมีความสามารถในการตอแหล คำว่า ตอแหล ไม่ได้เป็นคำด่า แต่เป็นคำไทยแท้ ที่แปลว่า ความจริงส่วนหนึ่ง ความเท็จส่วนหนึ่ง แล้วก็บิดเบือน มีความสามารถในการจับจริงมานิดนึง ให้คนพอเชื่อ แล้วผสมกับความเท็จลงไป
บอกคนที่อยู่เบื้องหลังปฏิวัติใหญ่กว่าป๋าเปรม
คุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผมทำงานด้วยไม่อยากจะวิจารณ์ผู้บังคับบัญชาเลย แต่นี่บ้านเมืองใหญ่กว่า ความรู้สึกส่วนตัว คุณสุรเกียรติ์ อยู่ได้จนถึงนาทีสุดท้ายเพราะอะไร อยู่เพื่อจะกระซิบคุณทักษิณ ที่นิวยอร์ก ว่า อย่าไปสู้เลย เพราะรัฐประหารครั้งนี้สูงมาก
ซึ่งเป็นผลให้คุณทักษิณตัดสินใจไม่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะอยากเห็นความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ผมนะเสียใจมาก ถ้ารู้ว่ารับมืออยู่กับโจรก็เชียร์ให้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นไปซะนานแล้ว ทางนี้จะได้กลายเป็นเถื่อนไปให้หมด ทางนี้หมายถึงที่กรุงเทพฯนะ ไม่ว่าจะฤาษีเลี้ยงเต่า หรือเต่าควายอะไรทั้งหลายนั่นแหละ เถื่อนทั้งนั้น เพราะฉนั้นเนี่ย มันมีเหตุผลที่จะต้องตัดสินใจยามคับขัน ผมเห็นใจท่านนายกฯ ตอนนั้นผมอยู่ที่กรุงเทพฯนะครับ ท่านนายกฯ อยู่นิวยอร์ก ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะเริ่มได้กลิ่นอะไรไม่ค่อยดี ในเมื่อเข้าซอยตรงนี้ ก็เล่าตรงนี้ว่า ทำไมไม่สู้ กำลังก็มี เตรียมไว้แล้วด้วย ก็ตอบสั้นๆ เท่านั้นล่ะครับ แล้วขอตอบประโยคเดียว ใครถามก็จะร้องเพลงให้ฟัง ให้ตอบเพิ่มว่า เหตุที่ไม่สู้ก็เพราะว่า เราเตรียมกำลังไว้สู้กับคุณเปรมเท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะคุณเปรมนั่นเหรอ ก็จบเกมไปนานแล้ว
เพราะว่าดูหนังจีนเรื่องเดียวกันรู้ว่าจะจัดการกับนางพญาผมขาวอย่างไร