วานนี้(16 พ.ค.) ในการประชุมวุฒิสภา ได้พิจารณาวาระให้ความเห็นชอบประธานและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายพิศาล พิริยะสถิต ประธาน ฯ และนายไสว พราหมณี นายบุญปลูก ชายเกตุ นาย อุดม มั่งมีดี นายถวิล อินทรักษา นายกุลพัชร์ อิทธิธรรมวินิจ กรรมการฯ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม เสนอให้เป็นการประชุมลับ เนื่องจากพาดพิงถึงบุคคลที่สาม ซึ่งหลังจากได้ใช้เวลาประชุมลับ นาน 1 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการ ตรวจสอบประวัติความประพฤติและจริยธรรมบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ จำนวน 26 คน กำหนดเวลาพิจารณา 90 วัน เพื่อให้พิจารณาได้ทันการเปิดสมัยประชุมสภาครั้งต่อไปวันที่ 1 ส.ค.
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ในการประชุมลับ รัฐมนตรี ได้ชี้แจงเหตุการณ์ดำเนินการที่ล่าช้าเกิน 60 วันตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งตนในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและพิจารณากฎหมายฉบับนี้เห็นว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดโทษหากทำเกินเวลา แม้จะมีปัญหาตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่คิดว่าไม่เป็นปัญหาใหญ่
อย่างไรก็ตามที่ประชุมเห็นว่า ควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบประวัติ เพราะผู้ได้รับการเสนอชื่อหลายคนถูกร้องเรียน เช่น เคยเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชนหรือเป็นที่ปรึกษาอดีตประธานวุฒิสภา หรือมีข้อร้องเรียนว่าบุกรุกที่สาธารณะ และทั้ง 6 คน ยังผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯด้วยองค์ประชุมไม่ครบ ดังนั้นวุฒิสภาจึงไม่ควรให้ผ่านอย่างรีบเร่ง เพราะป.ป.ท.ถือเป็นคนสำคัญในการตรวจสอบ ทุจริตข้าราชการระดับต่ำกว่าซี 8 ลง มาซึ่งถือเป็นข้าราชการส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นมาตรฐานที่วุฒิสภาเคยทำ
ทั้งนี้การตรวจสอบประวัติเชิงลึกจะเน้นไปในการตรวจคุณสมบัติ ส่วนกระบวนการเห็นชอบในขั้นก่อนหน้านี้อาจมีปัญหาจนมีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป แต่ไม่ใช่เรื่องของวุฒิสภา
นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อตรวจสอบประวัติและความประพฤติว่าวุฒิสภาต้องการความรอบคอบ ในการให้ความเห็นชอบรายชื่อ ป.ป.ท.ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมาเพราะเป็นตำแหน่ง ที่มีความสำคัญในการดูแลในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของข้าราชการ ผู้ที่มาเป็นกรรมการจึงต้องได้รับการตรวจสอบที่รอบคอบ แม้กระทรวงฯ จะมีการตรวจสอบแล้ว แต่วุฒิสภาต้องการให้มีความละเอียดรอบคอบยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อ บางรายได้ใช่หรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องขอสงวนไว้ก่อน เพราะเป็นการประชุมลับ หากมีปัญหาคงต้องได้รับการตรวจสอบก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือปัญหาองค์ประชุมในการลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลมาดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ท.โดยมีผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเพียง 195 เสียง จึงขอให้สภาแก้บันทึกการประชุมว่า ที่ประชุมสภา ไม่ได้มีมติเห็นชอบด้วย เพราะเสียงลงมติไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิก ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนยืนยันว่า การลงมตินั้นถูกต้องแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มอบหมายให้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายกฎหมายไปตรวจดูการลงมติมีปัญหาหรือไม่
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ในการประชุมลับ รัฐมนตรี ได้ชี้แจงเหตุการณ์ดำเนินการที่ล่าช้าเกิน 60 วันตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งตนในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและพิจารณากฎหมายฉบับนี้เห็นว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดโทษหากทำเกินเวลา แม้จะมีปัญหาตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่คิดว่าไม่เป็นปัญหาใหญ่
อย่างไรก็ตามที่ประชุมเห็นว่า ควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบประวัติ เพราะผู้ได้รับการเสนอชื่อหลายคนถูกร้องเรียน เช่น เคยเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชนหรือเป็นที่ปรึกษาอดีตประธานวุฒิสภา หรือมีข้อร้องเรียนว่าบุกรุกที่สาธารณะ และทั้ง 6 คน ยังผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯด้วยองค์ประชุมไม่ครบ ดังนั้นวุฒิสภาจึงไม่ควรให้ผ่านอย่างรีบเร่ง เพราะป.ป.ท.ถือเป็นคนสำคัญในการตรวจสอบ ทุจริตข้าราชการระดับต่ำกว่าซี 8 ลง มาซึ่งถือเป็นข้าราชการส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นมาตรฐานที่วุฒิสภาเคยทำ
ทั้งนี้การตรวจสอบประวัติเชิงลึกจะเน้นไปในการตรวจคุณสมบัติ ส่วนกระบวนการเห็นชอบในขั้นก่อนหน้านี้อาจมีปัญหาจนมีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป แต่ไม่ใช่เรื่องของวุฒิสภา
นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อตรวจสอบประวัติและความประพฤติว่าวุฒิสภาต้องการความรอบคอบ ในการให้ความเห็นชอบรายชื่อ ป.ป.ท.ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมาเพราะเป็นตำแหน่ง ที่มีความสำคัญในการดูแลในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของข้าราชการ ผู้ที่มาเป็นกรรมการจึงต้องได้รับการตรวจสอบที่รอบคอบ แม้กระทรวงฯ จะมีการตรวจสอบแล้ว แต่วุฒิสภาต้องการให้มีความละเอียดรอบคอบยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อ บางรายได้ใช่หรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องขอสงวนไว้ก่อน เพราะเป็นการประชุมลับ หากมีปัญหาคงต้องได้รับการตรวจสอบก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือปัญหาองค์ประชุมในการลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลมาดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ท.โดยมีผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเพียง 195 เสียง จึงขอให้สภาแก้บันทึกการประชุมว่า ที่ประชุมสภา ไม่ได้มีมติเห็นชอบด้วย เพราะเสียงลงมติไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิก ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนยืนยันว่า การลงมตินั้นถูกต้องแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มอบหมายให้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายกฎหมายไปตรวจดูการลงมติมีปัญหาหรือไม่
