ผู้จัดการรายวัน - พรานทะเล เผยยอดขายไตรมาสแรกโตกว่า 20% เร่งเดินหน้าขยายไลน์และส่งสินค้าใหม่เข้าตลาดอย่างต่อเนื่องทุกหมวด พร้อมทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ส่งเครื่องจักรสำหรับแพ็คเกจสินค้าใหม่ มั่นใจยอดขายในไตรมาส 2 พุ่งกว่า 300 ล้านบาท ลั่นสิ้นปียอดขาย 1,200 ล้านบาท
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจตลาดอาหารทะเลแช่แข็งภายใต้แบรนด์ “พรานทะเล” เผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 บริษัทฯมียอดขายรวม 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปี 2550 โดยมีการเติบโตในหมวดสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุงกว่า 80% อาหารทะเลพร้อมทานกว่า 20% และหมวดซูชิที่ดำเนินการจัดจำหน่ายภายในโมเดิร์นเทรดกว่า 80% ซึ่งนับว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากเดิมเพียง 60%
ทั้งนี้ เป็นเพราะโมเดิร์นเทรดมีการขยายตัวต่อเนื่องในปัจจุบันประมาณ 10% และการเลิกกิจการของร้านค้าที่เช่าพื้นที่เดิมภายในโมเดิร์นเทรด ทำให้ ‘พรานทะเล’ ได้ดำเนินการขยายช่องทางจำหน่ายซูชิเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัวของตลาดอาหารแช่แข็ง ที่มีอัตราขยายตัวที่ 20-30% นั้น นับว่าแบรนด์ ‘พรานทะเล’ มีทิศทางการเติบโตและการขยายธุรกิจในทางบวกและอยู่ในอันดับต้นของตลาดอาหารแช่แข็ง
โดยช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายไลน์ของสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นในทุกหมวดผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น โดยในหมวดของอาหารพร้อมปรุงนั้น ได้เตรียมนำผลิตภัณฑ์เนื้อปลาหลากหลายชนิดออกวางจำหน่าย อาทิ เนื้อปลาช่อนยักษ์ สำหรับในหมวดอาหารพร้อมรับประทานได้เตรียมนำเมนู ‘Blood Group – เมนูตามกรุ๊ปเลือด’ ออกวางจำหน่าย ซึ่งช่วงแรกจะออกประมาณ 12 เมนู
ในหมวดของซูชิ ภายใต้แบรนด์ I LOVE SUSHI by Prantalay บริษัทฯยังคงเน้นในเรื่องรูปแบบของความเป็นซูชิ ฟิวชั่น ฟู้ดส์ อาทิ ภาคเหนือ – ซูชิปลาราดน้ำพริกอ่อง หรือ ซูชิคำเมือง, ภาคอีสาน – ซูชิจิ้มแจ่ว หรือ อีสานซูชิ และภาคใต้ – ซูชิแกงไตปลา – ซูชิมโนรา เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
บริษัทฯได้ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในการแพ็คผลิตภัณฑ์จากเดิมในระบบ IQF เป็นระบบ Vacuum เป็นระบบแพ็คแบบสูญญากาศที่ทำให้ผิวของผลิตภัณฑ์ไม่สัมผัสกับอากาศจึงไม่เกิดการสูญเสียน้ำ ทั้งหมด 10 เครื่อง ซึ่งในแต่ละเครื่องมีกำลังในการแพ็คผลิตภัณฑ์ประมาณ 3-5 ตันต่อวัน
บริษัทฯยังคงรูปแบบการออกบูธเทศกาลผลิตภัณฑ์ ‘พรานทะเล’ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมจะมีกลุ่มสมาชิกของพรานทะเลเข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์ในแต่ละสถานที่เพิ่มเติมประมาณ 40% จากเดิม 20% และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% จากเดิม 15-20% และล่าสุดเข้าร่วมงาน THAIFEX – The World of Food Asia 2008
"จากกลยุทธ์การตลาดจะทำให้ยอดขายไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมทั้งปีของ ‘พรานทะเล’ 1,200 ล้านบาท" นายอนุรัตน์กล่าว
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจตลาดอาหารทะเลแช่แข็งภายใต้แบรนด์ “พรานทะเล” เผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 บริษัทฯมียอดขายรวม 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปี 2550 โดยมีการเติบโตในหมวดสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุงกว่า 80% อาหารทะเลพร้อมทานกว่า 20% และหมวดซูชิที่ดำเนินการจัดจำหน่ายภายในโมเดิร์นเทรดกว่า 80% ซึ่งนับว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากเดิมเพียง 60%
ทั้งนี้ เป็นเพราะโมเดิร์นเทรดมีการขยายตัวต่อเนื่องในปัจจุบันประมาณ 10% และการเลิกกิจการของร้านค้าที่เช่าพื้นที่เดิมภายในโมเดิร์นเทรด ทำให้ ‘พรานทะเล’ ได้ดำเนินการขยายช่องทางจำหน่ายซูชิเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัวของตลาดอาหารแช่แข็ง ที่มีอัตราขยายตัวที่ 20-30% นั้น นับว่าแบรนด์ ‘พรานทะเล’ มีทิศทางการเติบโตและการขยายธุรกิจในทางบวกและอยู่ในอันดับต้นของตลาดอาหารแช่แข็ง
โดยช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายไลน์ของสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นในทุกหมวดผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น โดยในหมวดของอาหารพร้อมปรุงนั้น ได้เตรียมนำผลิตภัณฑ์เนื้อปลาหลากหลายชนิดออกวางจำหน่าย อาทิ เนื้อปลาช่อนยักษ์ สำหรับในหมวดอาหารพร้อมรับประทานได้เตรียมนำเมนู ‘Blood Group – เมนูตามกรุ๊ปเลือด’ ออกวางจำหน่าย ซึ่งช่วงแรกจะออกประมาณ 12 เมนู
ในหมวดของซูชิ ภายใต้แบรนด์ I LOVE SUSHI by Prantalay บริษัทฯยังคงเน้นในเรื่องรูปแบบของความเป็นซูชิ ฟิวชั่น ฟู้ดส์ อาทิ ภาคเหนือ – ซูชิปลาราดน้ำพริกอ่อง หรือ ซูชิคำเมือง, ภาคอีสาน – ซูชิจิ้มแจ่ว หรือ อีสานซูชิ และภาคใต้ – ซูชิแกงไตปลา – ซูชิมโนรา เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
บริษัทฯได้ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในการแพ็คผลิตภัณฑ์จากเดิมในระบบ IQF เป็นระบบ Vacuum เป็นระบบแพ็คแบบสูญญากาศที่ทำให้ผิวของผลิตภัณฑ์ไม่สัมผัสกับอากาศจึงไม่เกิดการสูญเสียน้ำ ทั้งหมด 10 เครื่อง ซึ่งในแต่ละเครื่องมีกำลังในการแพ็คผลิตภัณฑ์ประมาณ 3-5 ตันต่อวัน
บริษัทฯยังคงรูปแบบการออกบูธเทศกาลผลิตภัณฑ์ ‘พรานทะเล’ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมจะมีกลุ่มสมาชิกของพรานทะเลเข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์ในแต่ละสถานที่เพิ่มเติมประมาณ 40% จากเดิม 20% และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% จากเดิม 15-20% และล่าสุดเข้าร่วมงาน THAIFEX – The World of Food Asia 2008
"จากกลยุทธ์การตลาดจะทำให้ยอดขายไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมทั้งปีของ ‘พรานทะเล’ 1,200 ล้านบาท" นายอนุรัตน์กล่าว