ผู้จัดการรายวัน – สำหรับคอสุกี้ โดยเฉพาะนักชิมรุ่นใหญ่ ชื่อของร้าน “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” เป็นที่รู้จักอย่างดี ด้วยความอร่อยตามแบบฉบับสูตรโบราณ ครองใจลูกค้ามานานกว่า 50 ปี และเมื่อทายาทอย่าง “พีระ เถลิงศักดานุวงศ์” เข้ามาต่อยอดธุรกิจ ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าสู่คนทำงาน และครอบครัว จากจุดขายรสชาติดั้งเดิม เป็นอีกทางเลือกของคนรักสุกี้
สานฝันจากเซ็นหลุยส์สู่พระราม 9
พีระ เถลิงศักดานุวงศ์ วัย 55 ปี เจ้าของร้าน “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” เล่าว่า ครอบครัวทำธุรกิจร้านสุกี้มายาวนาน ตั้งแต่รุ่นพ่อและแม่ เคยขายย่านเยาวราช กระทั่ง มาเปิดร้านที่เซ็นหลุยส์ ซ.3 เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ซึ่งชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นิยมของลูกค้ายาวนานถึงปัจจุบัน ขนาดต้องเข้าคิวรอกิน
“ตั้งแต่เด็ก ผมก็ช่วยงานที่ร้านมาตลอด ทำให้รู้ทุกขั้นตอน ที่ผ่านมา ผมมีความฝันอยากจะขยายร้าน เพราะร้านที่เซ็นหลุยส์ มันคับแคบ ห้องครัว ห้องน้ำก็ไม่สะดวก ที่จอดรถก็ไม่มี ซึ่งแถวนั้น มันขยายไม่ได้เลย” พีระ เผยถึงแรงบันดาลใจ
แม้จะมีความฝันดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้ เขาใช้เวลาไปกับธุรกิจส่วนตัวรับก่อสร้าง และตกแต่งภายใน จนถึงจุดอิ่มตัว จึงกลับมาสานความตั้งใจ เมื่อพบทำเลเหมาะสม ริมถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านในปัจจุบัน ตำนานบทใหม่ของร้านสุกี้ “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” จึงเกิดขึ้น เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ร้านสุกี้ในบรรยากาศสวนอาหาร
“ผมบังเอิญขับรถผ่าน เห็นป้ายประกาศให้เช่า แล้วรู้สึกชอบทันที ทั้งโครงสร้างที่เดิมเคยเปิดเป็นร้านอาหาร กับทำเลอยู่ติดกับถนนใหญ่ แต่กว่าจะได้เช่า ก็ต้องแย่งกับคนอื่นกว่า 7-8 ราย ซึ่งก็เป็นโชคดีที่เจ้าของเลือกผม” พีระ เผย และเล่าต่อว่า
เนื่องจากเคยทำงานตกแต่งมาก่อน จึงใช้ประสบการณ์มาตกแต่งร้าน เน้นออกมาสไตล์ไทยโบราณ แถมด้วยบรรยากาศของสวนร่มรื่น ใช้เวลาปรับปรุงนานกว่า 6 เดือน ด้วยงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าเซ็งร้านแล้ว ใช้ทุนเริ่มต้นธุรกิจกว่า 5-6 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นทุนส่วนตัวล้วนๆ
ทั้งนี้ ร้านสุกี้ “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” ตั้งอยู่ที่ริม ถ.พระราม 9 พื้นที่ 300 ตารางวา มีบริการกว่า 30 โต๊ะ รองรับแขกได้กว่า 150 คน ที่จอดรถ รับได้ 20 คัน เปิดบริการทุกวัน จ.- พฤ. 16.00 – 23.00 น. และ ศ. – อา. 11 .00 – 23.00 น.
สืบสานสูตรดั้งเดิม 50 ปี
แม้ว่าจะตกแต่งร้านใหม่ แต่หัวใจสำคัญของธุรกิจ คือ การนำเสนอสุกี้สูตรดั้งเดิมของครอบครัว เคล็ดลับ คือ สูตรน้ำจิ้ม และการหมักเนื้อ
พีระ เสริมว่า น้ำจิ้มเป็นสูตรที่แม่คิดค้นขึ้น ความอร่อยอยู่ที่ความหอมหวานจากเต้าหู้ยี้กับส่วนผสมที่เป็นความลับ ส่วนเนื้อต้องหมักด้วยเต้าเจี้ยวข้ามคืน ช่วยให้เนื้อนุ่มหอม ส่วนขั้นตอนแล่เนื้อสำคัญเช่นกัน ต้องใช้มีดเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องจักร เพราะจะเสียรสชาติ
“การแล่เนื้อด้วยเครื่อง ต้องเอาเนื้อไปแช่แข็งก่อนจึงเอามาแล่ได้ มันทำให้เนื้อกระด้าง แต่สูตรดั้งเดิมต้องใช้มีดแล่ ซึ่งคนที่ทำต้องชำนาญมากๆ ซึ่งใช้เวลาทำค่อนข้างนาน แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ของร้านเรา ซึ่งสุกี้เจ้าใหญ่ไม่สามารถทำได้” เจ้าของร้าน อธิบาย
นอกจากนั้น ในร้านยังมีเมนูอื่นๆ ทั้งคาว และหวานไว้บริการ รวมแล้วกว่า 50 รายการ พระเอก คือ หมูเด้ง เกี้ยวกุ้ง และลูกชิ้นปู ซึ่งเป็นสูตรโบราณที่ทางร้านทำเอง
เปิดตลาดลูกค้าคนทำงาน
พีระ เผยว่า เมื่อเริ่มเปิดร้านเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็ประสบความสำเร็จทันที เพราะมีฐานลูกค้าเดิมตามมากิน และด้วยทำเลร้านอยู่ย่านธุรกิจ ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าสู่คนทำงานมาสร้างสรรค์หลังเลิกงาน นอกจากนั้น ได้กระแสบอกต่อ เมื่อลูกค้าติดใจรสชาติช่วยบอกต่อทางอินเตอร์เน็ต จึงมีลูกค้าจากทุกมุมกรุงเทพฯ ทั้งกลุ่มวัยรุ่น และครอบครัวเดินทางมาลิ้มลอง ต่อวันยอดขายหลักหมื่น ถ้าเป็นสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัวทีเดียว
“ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกว่า เขาอยากจะมีทางเลือกร้านสุกี้อื่นๆ บ้าง แทนที่ต้องกินของเจ้าใหญ่รายเดียว พอมาเจอร้านเราก็ติดใจนำไปบอกต่อ เพราะนอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว รสชาติกล้าพูดว่าไม่เป็นรอง ส่วนราคาของเราก็ถูกกว่ามาก” พีระ กล่าว
ในส่วนการดูแลคุณภาพอาหารนั้น เขาเล่าว่า ต้องจ่ายตลาดด้วยตัวเองเกือบทุกวัน โดยมีร้านประจำ โดยจะซื้อในปริมาณเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อจะได้ของสดใหม่เสมอ และป้องกันต้นทุนจม นอกจากนั้น ก่อนร้านเปิดเน้นเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม เพื่อบริการลูกค้าได้รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหัวใจของธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเขานำประสบการณ์ที่เคยช่วยพ่อแม่มาปรับใช้
พีระ เผยด้วยว่า ความฝันสูงสุดต้องการนำร้านสุกี้ นัมเบอร์วัน โอเด้ง เข้าขายในห้างสรรพสินค้า จากที่เปิดร้านนี้จนธุรกิจอยู่ตัว แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ยอดขายที่ร้านไม่เคยตก จึงลงทุนกว่า 1 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ แถวแฮปปี้แลนด์ หน้าหมู่บ้านเสนา วิลล่า 84 เมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้ร้านนี้เป็นต้นแบบนำร่องเพื่อขยายสาขาอื่นๆ ต่อไปให้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักดีพอ และพร้อมในทุกๆ ด้าน จะพาร้านสุกี้สูตรโบราณของเขาขึ้นไปแข่งกับสุกี้เจ้าดังในห้างสรรพสินค้า
โทร.08-7977-5566,0-2719-7367-8
สานฝันจากเซ็นหลุยส์สู่พระราม 9
พีระ เถลิงศักดานุวงศ์ วัย 55 ปี เจ้าของร้าน “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” เล่าว่า ครอบครัวทำธุรกิจร้านสุกี้มายาวนาน ตั้งแต่รุ่นพ่อและแม่ เคยขายย่านเยาวราช กระทั่ง มาเปิดร้านที่เซ็นหลุยส์ ซ.3 เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ซึ่งชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นิยมของลูกค้ายาวนานถึงปัจจุบัน ขนาดต้องเข้าคิวรอกิน
“ตั้งแต่เด็ก ผมก็ช่วยงานที่ร้านมาตลอด ทำให้รู้ทุกขั้นตอน ที่ผ่านมา ผมมีความฝันอยากจะขยายร้าน เพราะร้านที่เซ็นหลุยส์ มันคับแคบ ห้องครัว ห้องน้ำก็ไม่สะดวก ที่จอดรถก็ไม่มี ซึ่งแถวนั้น มันขยายไม่ได้เลย” พีระ เผยถึงแรงบันดาลใจ
แม้จะมีความฝันดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้ เขาใช้เวลาไปกับธุรกิจส่วนตัวรับก่อสร้าง และตกแต่งภายใน จนถึงจุดอิ่มตัว จึงกลับมาสานความตั้งใจ เมื่อพบทำเลเหมาะสม ริมถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านในปัจจุบัน ตำนานบทใหม่ของร้านสุกี้ “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” จึงเกิดขึ้น เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ร้านสุกี้ในบรรยากาศสวนอาหาร
“ผมบังเอิญขับรถผ่าน เห็นป้ายประกาศให้เช่า แล้วรู้สึกชอบทันที ทั้งโครงสร้างที่เดิมเคยเปิดเป็นร้านอาหาร กับทำเลอยู่ติดกับถนนใหญ่ แต่กว่าจะได้เช่า ก็ต้องแย่งกับคนอื่นกว่า 7-8 ราย ซึ่งก็เป็นโชคดีที่เจ้าของเลือกผม” พีระ เผย และเล่าต่อว่า
เนื่องจากเคยทำงานตกแต่งมาก่อน จึงใช้ประสบการณ์มาตกแต่งร้าน เน้นออกมาสไตล์ไทยโบราณ แถมด้วยบรรยากาศของสวนร่มรื่น ใช้เวลาปรับปรุงนานกว่า 6 เดือน ด้วยงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าเซ็งร้านแล้ว ใช้ทุนเริ่มต้นธุรกิจกว่า 5-6 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นทุนส่วนตัวล้วนๆ
ทั้งนี้ ร้านสุกี้ “นัมเบอร์วัน โอเด้ง” ตั้งอยู่ที่ริม ถ.พระราม 9 พื้นที่ 300 ตารางวา มีบริการกว่า 30 โต๊ะ รองรับแขกได้กว่า 150 คน ที่จอดรถ รับได้ 20 คัน เปิดบริการทุกวัน จ.- พฤ. 16.00 – 23.00 น. และ ศ. – อา. 11 .00 – 23.00 น.
สืบสานสูตรดั้งเดิม 50 ปี
แม้ว่าจะตกแต่งร้านใหม่ แต่หัวใจสำคัญของธุรกิจ คือ การนำเสนอสุกี้สูตรดั้งเดิมของครอบครัว เคล็ดลับ คือ สูตรน้ำจิ้ม และการหมักเนื้อ
พีระ เสริมว่า น้ำจิ้มเป็นสูตรที่แม่คิดค้นขึ้น ความอร่อยอยู่ที่ความหอมหวานจากเต้าหู้ยี้กับส่วนผสมที่เป็นความลับ ส่วนเนื้อต้องหมักด้วยเต้าเจี้ยวข้ามคืน ช่วยให้เนื้อนุ่มหอม ส่วนขั้นตอนแล่เนื้อสำคัญเช่นกัน ต้องใช้มีดเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องจักร เพราะจะเสียรสชาติ
“การแล่เนื้อด้วยเครื่อง ต้องเอาเนื้อไปแช่แข็งก่อนจึงเอามาแล่ได้ มันทำให้เนื้อกระด้าง แต่สูตรดั้งเดิมต้องใช้มีดแล่ ซึ่งคนที่ทำต้องชำนาญมากๆ ซึ่งใช้เวลาทำค่อนข้างนาน แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ของร้านเรา ซึ่งสุกี้เจ้าใหญ่ไม่สามารถทำได้” เจ้าของร้าน อธิบาย
นอกจากนั้น ในร้านยังมีเมนูอื่นๆ ทั้งคาว และหวานไว้บริการ รวมแล้วกว่า 50 รายการ พระเอก คือ หมูเด้ง เกี้ยวกุ้ง และลูกชิ้นปู ซึ่งเป็นสูตรโบราณที่ทางร้านทำเอง
เปิดตลาดลูกค้าคนทำงาน
พีระ เผยว่า เมื่อเริ่มเปิดร้านเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็ประสบความสำเร็จทันที เพราะมีฐานลูกค้าเดิมตามมากิน และด้วยทำเลร้านอยู่ย่านธุรกิจ ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าสู่คนทำงานมาสร้างสรรค์หลังเลิกงาน นอกจากนั้น ได้กระแสบอกต่อ เมื่อลูกค้าติดใจรสชาติช่วยบอกต่อทางอินเตอร์เน็ต จึงมีลูกค้าจากทุกมุมกรุงเทพฯ ทั้งกลุ่มวัยรุ่น และครอบครัวเดินทางมาลิ้มลอง ต่อวันยอดขายหลักหมื่น ถ้าเป็นสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัวทีเดียว
“ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกว่า เขาอยากจะมีทางเลือกร้านสุกี้อื่นๆ บ้าง แทนที่ต้องกินของเจ้าใหญ่รายเดียว พอมาเจอร้านเราก็ติดใจนำไปบอกต่อ เพราะนอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว รสชาติกล้าพูดว่าไม่เป็นรอง ส่วนราคาของเราก็ถูกกว่ามาก” พีระ กล่าว
ในส่วนการดูแลคุณภาพอาหารนั้น เขาเล่าว่า ต้องจ่ายตลาดด้วยตัวเองเกือบทุกวัน โดยมีร้านประจำ โดยจะซื้อในปริมาณเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อจะได้ของสดใหม่เสมอ และป้องกันต้นทุนจม นอกจากนั้น ก่อนร้านเปิดเน้นเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม เพื่อบริการลูกค้าได้รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหัวใจของธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเขานำประสบการณ์ที่เคยช่วยพ่อแม่มาปรับใช้
พีระ เผยด้วยว่า ความฝันสูงสุดต้องการนำร้านสุกี้ นัมเบอร์วัน โอเด้ง เข้าขายในห้างสรรพสินค้า จากที่เปิดร้านนี้จนธุรกิจอยู่ตัว แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ยอดขายที่ร้านไม่เคยตก จึงลงทุนกว่า 1 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ แถวแฮปปี้แลนด์ หน้าหมู่บ้านเสนา วิลล่า 84 เมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้ร้านนี้เป็นต้นแบบนำร่องเพื่อขยายสาขาอื่นๆ ต่อไปให้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักดีพอ และพร้อมในทุกๆ ด้าน จะพาร้านสุกี้สูตรโบราณของเขาขึ้นไปแข่งกับสุกี้เจ้าดังในห้างสรรพสินค้า
โทร.08-7977-5566,0-2719-7367-8
