ผู้จัดการรายวัน - สทน.ครวญ ตลาดคนไทยวิกฤต ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่กระดิก ฉุดคนไทยงดเที่ยวลงอีก 15% ฉะ ททท.ไม่จริงใจช่วยกระตุ้น โขกค่าบูธงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยแพงถึง 2 หมื่นบาท
นายเจริญ วังอนานนท์ รักษาการนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของคนไทยปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยประมาณการณ์ว่าตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศปีนี้มอาจจะลดลง 15% มากกว่าที่ผ่านมาจะลดลงเฉลี่ยที่ 5-10% เท่านั้น
ทั้งนี้เพราะคนไทยเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน จึงหมดอารมณ์ที่จะเดินทางท่องเที่ยว เช่น ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากสินค้าราคาแพง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลในเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน
“ขณะนี้โรงแรมระดับ 4-5 ดาว เริ่มส่งหนังสือโปรโมชั่นราคาห้องพักมาให้แก่บริษัทนำเที่ยว จากก่อนหน้านี้โรงแรมในระดับนี้จะไม่ค่อยสนใจทำตลาดกับบริษัทนำเที่ยว ตรงนี้จึงเป็นสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปีนี้จะเงียบเหงากว่าทุกปี”
ดังนั้นจึงต้องการให้ ททท.ใช้ช่วงโลวซีซั่นปีนี้ ปลุกตลาดในประเทศให้คึกคัก เพราะที่ผ่านมา มองว่า ททท.ไม่ค่อยสนใจดูแลตลาดในประเทศมากนัก ขณะที่การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนศกนี้ ททท.เรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่บูธละ 2 หมื่นบาท ซึ่ง สทน.มองว่าเป็นตัวเลขที่แพง เหมือน ททท.ไม่จริงใจช่วยภาคเอกชน ดังนั้นปีนี้สมาชิกของ สทน. จึงตอบรับไปออกบูธน้อยไม่ถึง 10 ราย จากสมาชิกกว่า 300 ราย
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ขณะนี้มีผู้จองบูธแล้วประมาณ 250 บูธ จากพื้นที่ทั้งหมดที่จัดไว้ประมาณ กว่า 300 บูธ เฉลี่ยทุกภูมิภาค แต่ภาคที่ค่อนข้างมาออกบูธน้อยคือภาคอีสาน ขณะนี้ กำลังให้ฝ่ายที่ดูแลเร่งส่งหนังสือไปเชิญชวน เนื่องจากปีนี้เป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยวอีสาน เพราะเอกชนภาคอีสาน ยังไม่คุ้นเคยกับการร่วมทำตลาดกับส่วนกลาง
นายเจริญ วังอนานนท์ รักษาการนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของคนไทยปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยประมาณการณ์ว่าตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศปีนี้มอาจจะลดลง 15% มากกว่าที่ผ่านมาจะลดลงเฉลี่ยที่ 5-10% เท่านั้น
ทั้งนี้เพราะคนไทยเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน จึงหมดอารมณ์ที่จะเดินทางท่องเที่ยว เช่น ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากสินค้าราคาแพง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลในเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน
“ขณะนี้โรงแรมระดับ 4-5 ดาว เริ่มส่งหนังสือโปรโมชั่นราคาห้องพักมาให้แก่บริษัทนำเที่ยว จากก่อนหน้านี้โรงแรมในระดับนี้จะไม่ค่อยสนใจทำตลาดกับบริษัทนำเที่ยว ตรงนี้จึงเป็นสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปีนี้จะเงียบเหงากว่าทุกปี”
ดังนั้นจึงต้องการให้ ททท.ใช้ช่วงโลวซีซั่นปีนี้ ปลุกตลาดในประเทศให้คึกคัก เพราะที่ผ่านมา มองว่า ททท.ไม่ค่อยสนใจดูแลตลาดในประเทศมากนัก ขณะที่การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนศกนี้ ททท.เรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่บูธละ 2 หมื่นบาท ซึ่ง สทน.มองว่าเป็นตัวเลขที่แพง เหมือน ททท.ไม่จริงใจช่วยภาคเอกชน ดังนั้นปีนี้สมาชิกของ สทน. จึงตอบรับไปออกบูธน้อยไม่ถึง 10 ราย จากสมาชิกกว่า 300 ราย
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ขณะนี้มีผู้จองบูธแล้วประมาณ 250 บูธ จากพื้นที่ทั้งหมดที่จัดไว้ประมาณ กว่า 300 บูธ เฉลี่ยทุกภูมิภาค แต่ภาคที่ค่อนข้างมาออกบูธน้อยคือภาคอีสาน ขณะนี้ กำลังให้ฝ่ายที่ดูแลเร่งส่งหนังสือไปเชิญชวน เนื่องจากปีนี้เป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยวอีสาน เพราะเอกชนภาคอีสาน ยังไม่คุ้นเคยกับการร่วมทำตลาดกับส่วนกลาง