xs
xsm
sm
md
lg

วิศวะจุฬาแชมป์คะแนน แอดมิชชั่นพยาบาลฮอต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - สกอ.ประกาศผลแอดมิชชั่นปีการศึกษา 2551 เผยคะแนนรวมสูงสุด ร้อยละ 91.22 อยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ คณะพยาบาลศาสตร์ขึ้นทำเนียบคณะยอดนิยมเบียดนิติศาสตร์แชมป์ปีก่อนตกเวที ขณะที่นักเรียนเตรียมอุดมศึกษา กวาดคะแนนสูงสุดแต่ละคณะเพียบ 2 นักเรียนผู้พิการทางสายตาฝ่าด่านติดมหาวิทยาลัย 2 คน ด้าน “กษม” เจ้าของคะแนนอันดับหนึ่งแนะเรียนหนังสือต้องมุ่งมั่นและควบคุมตัวเองให้ได้

วานนี้ (4 พ.ค.) นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวการประกาศผลการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในระบบกลาง หรือ แอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา 2551ว่า การประกาศผลแอดมิชชั่นอย่างเป็นทางการเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 4 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยนักเรียนสามารถตรวจสอบผลการคัดเลือก ทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) www.cuas.or.th และเว็บไซต์ของหน่วยงานที่ร่วมประกาศผล รวม 16 แห่ง

นายบุญลือ กล่าวว่า ในปี 2551 นี้ มีผู้สมัครแอดมิชชั่นรวมทั้งสิ้น 116,324 คน เพื่อเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ที่ สกอ.ดำเนินการคัดเลือกให้ รวม 94 สถาบัน เพื่อศึกษาใน 788 คณะ/ประเภทวิชา มีผู้ผ่านการคัดเลือก มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกาย ทั้งหมด 79,286 คน โดยสามารถจำแนกตามสถาบันการศึกษาของรัฐในสังกัด สกอ.จำนวนรับตามระเบียบการ 80,696 คน จำนวนผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ 75,551 คน แบ่งเป็นมหาวิทยาลัย 21 แห่ง จำนวน 54,979 คน ผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ 62,754 คน ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฎ มหาวิทยาลัยราชมงคล และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รับได้จำนวน 25,717 คน จำนวนผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ 12,797 คน ส่วนสถาบันการศึกษาของรัฐในสังกัดหน่วยงานอื่นๆ รับได้ 4,821 คน ผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ 308 คน และสถาบันการศึกษาเอกชน รับได้ 36,895 คน ผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ 3,427 คน

สำหรับการสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 - 17 พฤษภาคมนี้ ตามที่ได้มีการแจ้งไว้ในระเบียบการคัดเลือก ประจำปี 2551

“สำหรับการคัดเลือกประจำปีการศึกษา 2551 ผู้ผ่านการคัดเลือกที่ได้คะแนนรวมสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 91.22 คือ นายเกษม อิทธิสวัสดิพันธุ์ จากโรงเรียนเตรียมอุดม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สำหรับคณะสาขาวิชาที่มีผู้สมัครคัดเลือกมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 5,375 คน คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิชารังสีเทคนิค มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 3,088 คน สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 2,694 คน” นายบุญลือ กล่าว

นอกจากนี้คะแนนสูงสุดในแต่ละคณะสาขาวิชามีดังนี้ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวีกิจ เจริญสุข จาก รร.เตรียมอุดม คะแนนร้อยละ 89.72 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ น.ส.สิรพร เนียมสนิท รร.สาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร้อยละ 87.77 คณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ น.ส.กัญญานันท์ สังข์หล่อ จากรร.ราชินีบน คะแนนร้อยละ 91.04 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ นายณพัทธ์ บูรณถาวรสม รร.เตรียมอุดมศึกษา คะแนนร้อยละ 87.78 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายธนกร หล่ออัศวินนนท์ จากรร.เตรียมอุดมศึกษา คะแนนร้อยละ 86.08 คณะพาณิชย์ศาสตร์การบัญชี จุฬาฯ น.ส.พีรดา พจน์เจริญอนันต์ รร.เตรียมอุดมศึกษา คะแนนร้อยละ 85.41 และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ นายกล้าก้าว เอกพาณิชย์ถาวร รร.เตรียมอุดมศึกษา คะแนนร้อยละ 85.23

นายบุญลือ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในปีการศึกษานี้ มีผู้สมัครพิการทางสายตา จำนวน 2 คน ที่ผ่านการคัดเลือก และมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกาย ได้แก่ น.ส.นนทิรา ปาสาเน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร และน.ส.ยอดขวัญ คูวัชระเจริญ คณะมนุษยศาสตร์และสัมคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สำหรับนักเรียนที่พาดหวังจากระบบแอดมิชชั่นในปีนี้ ยังมีโอกาสเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาได้ เนื่องจากสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนอีกจำนวนหนึ่งที่เปิดรับนักศึกษาอยู่ในขณะนี้ โดยนักเรียนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของแต่ละมหาวิทยาลัยได้

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าแอดมิชชั่นปี 2550 ที่ผ่านมา คณะที่นักเรียนนิยมสมัครมากที่สุดสายศิลป์ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ ขณะที่สายวิทย์ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์

นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องรักษาระดับการรับนักศึกษาของตัวเองไว้ ซึ่งในส่วนนักเรียนที่แหลือกว่า 30,000 ที่นั่ง มหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ต้องพยายามประกาศเพื่อที่จะได้รับนักศึกษาเข้าเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นผู้ปกครองจึงไม่ควรต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะได้รับการยืนยันจากหลายๆ มหาวิทยาลัยว่าจะนำเรื่องการรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อจากนี้ทันที

"สำหรับกลุ่มมหาวิทยาลัยของรัฐในสังกัด สกอ. จำนวน 21 แห่ง ที่ขอให้ สกอ.คัดเลือกให้จำนวน 54,979 คน แต่สกอ.สามารถคัดเลือกให้ได้ 62,754 คน ซึ่งมากกว่าที่กำหนด 8,000 คนนั้น จำนวนที่เกินอาจทำให้มีผู้ปกครองรู้สึกกังวล ว่าอาจสอบสัมภาษณ์ตก เท่าที่ตรวจสอบเมื่อเรียงคะแนนกันทั้งหมดแล้ว คนสุดท้ายที่แต่ละมหาวิทยาลัยรับไว้ มีคะแนนเท่ากันหลายคน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะไม่ตัดออก แต่จะให้ผ่านได้ทั้งหมด เนื่องจากจะมีนักเรียนบางส่วนที่สละสิทธิ์ ดังนั้น ทุกคนจะได้ศึกษาต่ออย่างแน่นอนส่วนคะแนนประกาศสูงสุดแต่ละลำดับ เป็นคะแนนที่ตัด 85% ขึ้นไป และเป็นที่น่าดีใจว่า มีสถาบันการศึกษาในส่วนภูมิภาค ที่เข้ามาสอดแทรกหลายแห่ง"นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า การที่คณะสาขาวิชาที่มีผู้สมัครคัดเลือกมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 5,375 คน คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิชารังสีเทคนิค มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 3,088 คน สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 2,694 คน ซึ่งตัวเลขที่ออกมาเป็นเพียงการบ่งชี้ว่า ผู้สมัครเลือกคณะสาขาวิชาอันดับ 1 ในหลักสูตรใดมากที่สุด ซึ่งพบว่า มีผู้สมัครเลือกเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพามากที่สุดถึงกว่า 5,00 คน แต่สามารถรับได้เพียง 48 คนเท่านั้น เนื่องจากผู้สมัครพิจารณาคะแนนการสอบคัดเลือกในปีที่ผ่านมา ซึ่งคะแนนอยู่ในระดับกลางไม่สูงมาก ทำให้หลายคนใจตรงกัน และสมัครสอบ ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีทั้งคนเก่งและไม่เก่ง ดังนั้น ผู้สมัครอาจจะสอบได้ในคณะสาขาวิชาอันดับที่ 2 หรือ 3 ก็เป็นได้ ดังนั้น ผู้ที่พลาดหวังจากการสอบคัดเลือกเข้าม.บูรพาจึงน่าจะมีที่เรียนไม่มีปัญหา

“ปัจจัยที่ทำให้ผลการสมัครคัดเลือกผู้สมัครเทไปเรียนที่คณะพยาบาล หรือคณะสหเวชศาสตร์ ไม่ใช่เพราะทั้ง 2 คณะ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่น่าจะเป็นเพราะเรื่องของคะแนนการสอบในปีที่ผ่านมามากกว่า อย่างเมื่อปีที่แล้วเป็นคณะนิติศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ปีนี้เป็นคณะพยาบาลศาสตร์และคณะสหเวชศาสตร์ ปีหน้าก็อาจเป็นคณะอื่นก็จะหมุนไปในลักษณะนี้ ขึ้นอยู่กับว่าปีนี้คะแนนจะมีผลออกมาเป็นอย่างไรมากกว่า ซึ่งสกอ.ยังไม่ได้ประกาศผลคะแนนสูงสุดและคะแนนต่ำสุดในแต่ละวิชา แต่พฤติกรรมของนักเรียนก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ”นายสุเมธ กล่าว

นายกษม อิทธิสวัสดิ์พันธุ์ ผู้ที่ได้คะแนนสูงที่สุดในประเทศไทย ในแอดมิชชั่น โดยทำคะแนนได้ 9,121.7 จากคะแนนเต็ม 10,000 คะแนน หรือ คิดเป็นร้อยละ 91.22 เปิดเผยเคล็ดลับการเรียนหนังสือว่า ต้องมีความมุ่งมั่นและควบคุมตนเองได้ โดยการเตรียมตัวถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตนเองมีการเตรียมตัวมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้น จึงไม่สนับสนุนหากใครที่ต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย แล้วใช้เวลาเตรียมตัวเพียงไม่กี่ปีก่อนสอบ เพราะการเรียนต้องสะสมความรู้และหมั่นทำโจทย์ จะทำให้รู้ว่าตนเองยังไม่เข้าใจในเรื่องใด จะได้ทบทวนได้ตรงจุด

นายกษม กล่าวอีกว่า การเรียนพิเศษก็นับว่ามีส่วนช่วยให้ตนเองอ่านหนังสือได้ถูกจุดมากขึ้น ซึ่งตนเองก็เรียนพิเศษเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอ่านหนังสือและทำโจทย์เองด้วย ส่วนงานอดิเรกชอบเล่นเทนนิส และฟุตบอล นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทำหนังสั้นของโรงเรียนด้วย สำหรับอนาคตมีความฝันจะไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ สาขาปิโตรเลี่ยม ที่เท็กซัส สหรัฐอเมริกา เพราะเป็นสาขาที่ขาดแคลนในประเทศไทย โดยในการเรียนระดับปริญญาตรีนั้น ได้เลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเป็นความฝันเช่นกัน

ด้านนางเพียงรอ อิทธิสวัสดิ์พันธุ์ มารดา กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจในตัว น้องบูม มาโดยตลอด เพราะเป็นเด็กที่ขยันเรียน และไว้ใจได้ การที่ให้ น้องบูม มาเรียนในกรุงเทพฯ และอยู่คนเดียว ก็ไม่ได้หนักใจอะไรเพราะตลอดเวลาทราบดีว่า น้องบูม เป็นเด็กดี และการสอบได้คะแนนที่ 1 ของประเทศไทยครั้งนี้ ก็ดีใจด้วย

นายกษม หรือ น้องบูม ปัจจุบันอายุ 18 ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จังหวัดสุโขทัย จากนั้นสอบเข้าเรียนมัธยมปลาย ได้ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จึงเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และพักอยู่โดยลำพังที่คอนโดมิเนี่ยม ย่านสะพานควาย ซึ่งเป็นที่พักที่ผู้ปกครองซื้อไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีพี่น้อง 3 คน น้องบูมเป็นบุตรคนที่ 2 พี่ชายคนโต กำลังศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนน้องคนเล็ก กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จังหวัดสุโขทัย บิดาทำงานด้านเทคนิคการแพทย์ ส่วนมารดาเป็นพยาบาล ที่โรงพยาบาลสุโขทัย.
กำลังโหลดความคิดเห็น