พะเยา - เครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือขู่ระดมพลอีกรอบ หลังยื่นหนังสือถึง“นายกฯสมัคร” ตั้งแต่ปลายมีนาคม 2551 แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใน 4 ข้อเรียกร้องที่จะช่วยต่อชีวิตให้แก่กลุ่มผู้ผลิต นัดประชุมแกนนำที่พะเยากลางเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนกำหนดท่าทีให้ชัดเจนอีกครั้ง
นายชวลิต หอประเสริฐวงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2551 เครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ ได้นำเอกสารเกี่ยวกับข้อร้องเรียน ความเดือดร้อนส่งถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแก้ไขและช่วยเหลือ เรื่องสุรากลั่นชุมชนให้ได้รับความเป็นธรรมในกิจการประกอบการเครื่องดื่มยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาสมาชิกเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ ได้มีมติที่ประชุมว่า จะรวมตัวกันเข้ากรุงเทพฯ เพื่อประท้วงและยื่นหนังสือไปยังรัฐบาล ให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาแก่ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชน แต่ได้ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากทางแกนนำมองว่าในห้วงเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มที่เรียกร้องทางการเมืองกันจำนวนมาก ถ้าชาวบ้านเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จะทำให้รัฐบาลมีปัญหา และชาวบ้านจะถูกมองเป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงหันมาเรียกร้องโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรีทางเอกสาร และผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้มือที่สามนำปัญหานี้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ด้านการเมือง
นายชวลิต บอกว่า กลุ่มได้ร้องขอให้ทีมงานสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการ 4 ประเด็น คือ 1.นำข้อมูลเสนอให้แก่นายกรัฐมนตรีโดยตรง 2.ขอนายกรัฐมนตรี ได้นำปัญหาเรื่องเหล้าพื้นบ้านและสุรากลั่นชุมชนเสนอในรายการของท่านวันอาทิตย์ทางช่อง 11 3.ขอให้ทีมงานสำนักนายกฯ นัดแกนนำชาวบ้านประชุม เพื่อรับเรื่องปัญหาและติดตามผล และ 4.ขอให้ผู้ที่รับเรื่องอย่าส่งเรื่องต่อ รมต.ช่วยคลัง ดำเนินการแทน เพราะกลุ่มไม่ไว้ใจใครนอกจากนายกฯ
ที่ปรึกษาด้านวิชาการ เครือข่ายฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2551 จะมีการอบรมสัมมนาเรื่องแนวทางพัฒนาสุราชุมชนครั้งที่ 1 ของสมาพันธ์สุราชุมชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดผลกระทบแอลกอฮอล์แห่งชาติและสมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ ซึ่งทางเครือข่ายจะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม 50-60 คนในการอบรมและสัมมนาครั้งนี้ด้วย ตนจะนำเรื่องที่นี้เข้าที่ประชุมเครือข่ายฯ จังหวัดต่าง ๆ ที่ยังเป็นเครือข่ายฯ ในภาคเหนือ เพื่อหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“อาจจะรวมพลเข้ากรุงเทพฯ หรือรวมพลที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรือส่งตัวแทนเจรจากับรัฐบาล เพื่อประสานร่วมมือกับสมาพันธ์หรือสมาคมอื่น ๆ”
นายชวลิต กล่าวว่า คงต้องประชุมเพื่อสรุปงานกันอีกครั้งก่อนดำเนินการที่พะเยาประมาณกลางเดือน พฤษภาคม 2551 ซึ่งคิดว่าคงจะถึงเวลาที่จะทำอะไรกันอย่างมีพลังจริง ๆ เสียที เพราะกฎอัยการศึกก็ยกเลิกแล้ว การจัดส่งข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องในส่วนกลางและผู้ใหญ่ในรัฐบาลพิจารณาแล้ว หากไม่มีความคืบหน้าเราก็มีเหตุผลที่จะแสดงพลังตามสิทธิ
นายชวลิต หอประเสริฐวงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2551 เครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ ได้นำเอกสารเกี่ยวกับข้อร้องเรียน ความเดือดร้อนส่งถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแก้ไขและช่วยเหลือ เรื่องสุรากลั่นชุมชนให้ได้รับความเป็นธรรมในกิจการประกอบการเครื่องดื่มยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาสมาชิกเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ ได้มีมติที่ประชุมว่า จะรวมตัวกันเข้ากรุงเทพฯ เพื่อประท้วงและยื่นหนังสือไปยังรัฐบาล ให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาแก่ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชน แต่ได้ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากทางแกนนำมองว่าในห้วงเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มที่เรียกร้องทางการเมืองกันจำนวนมาก ถ้าชาวบ้านเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จะทำให้รัฐบาลมีปัญหา และชาวบ้านจะถูกมองเป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงหันมาเรียกร้องโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรีทางเอกสาร และผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้มือที่สามนำปัญหานี้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ด้านการเมือง
นายชวลิต บอกว่า กลุ่มได้ร้องขอให้ทีมงานสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการ 4 ประเด็น คือ 1.นำข้อมูลเสนอให้แก่นายกรัฐมนตรีโดยตรง 2.ขอนายกรัฐมนตรี ได้นำปัญหาเรื่องเหล้าพื้นบ้านและสุรากลั่นชุมชนเสนอในรายการของท่านวันอาทิตย์ทางช่อง 11 3.ขอให้ทีมงานสำนักนายกฯ นัดแกนนำชาวบ้านประชุม เพื่อรับเรื่องปัญหาและติดตามผล และ 4.ขอให้ผู้ที่รับเรื่องอย่าส่งเรื่องต่อ รมต.ช่วยคลัง ดำเนินการแทน เพราะกลุ่มไม่ไว้ใจใครนอกจากนายกฯ
ที่ปรึกษาด้านวิชาการ เครือข่ายฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2551 จะมีการอบรมสัมมนาเรื่องแนวทางพัฒนาสุราชุมชนครั้งที่ 1 ของสมาพันธ์สุราชุมชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดผลกระทบแอลกอฮอล์แห่งชาติและสมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ ซึ่งทางเครือข่ายจะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม 50-60 คนในการอบรมและสัมมนาครั้งนี้ด้วย ตนจะนำเรื่องที่นี้เข้าที่ประชุมเครือข่ายฯ จังหวัดต่าง ๆ ที่ยังเป็นเครือข่ายฯ ในภาคเหนือ เพื่อหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“อาจจะรวมพลเข้ากรุงเทพฯ หรือรวมพลที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรือส่งตัวแทนเจรจากับรัฐบาล เพื่อประสานร่วมมือกับสมาพันธ์หรือสมาคมอื่น ๆ”
นายชวลิต กล่าวว่า คงต้องประชุมเพื่อสรุปงานกันอีกครั้งก่อนดำเนินการที่พะเยาประมาณกลางเดือน พฤษภาคม 2551 ซึ่งคิดว่าคงจะถึงเวลาที่จะทำอะไรกันอย่างมีพลังจริง ๆ เสียที เพราะกฎอัยการศึกก็ยกเลิกแล้ว การจัดส่งข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องในส่วนกลางและผู้ใหญ่ในรัฐบาลพิจารณาแล้ว หากไม่มีความคืบหน้าเราก็มีเหตุผลที่จะแสดงพลังตามสิทธิ