พะเยา – กลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือเตรียมยื่นหนังสือ รมว.คลัง-ปธ.สภาฯ จี้แยกฐานภาษีระหว่างเหล้าพื้นบ้านกับอุตสาหกรรมนายทุน ลั่นภายในปีนี้ไม่คืบหน้าระดมม็อบครั้งใหญ่บุกทวงคำตอบ-ถามความคืบหน้าถึงกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า กลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านจังหวัดพะเยา และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ชมรมผู้ผลิตสุราพื้นบ้านภาคเหนือในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประมาณ 50 คน ได้ร่วมประชุมประจำเดือนเพื่อสรุปความเคลื่อนไหวและกำหนดทิศทางของกลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านในอนาคต ที่ทำการกลุ่มเกษตรกรทำนาบ้านต๊ำ ต.ต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา
นายชวลิต หอประเสริฐวงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อแจ้งให้สมาชิกกลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านได้ทราบถึงความคืบหน้าของการเจรียมยื่นหนังสือต่อรัฐบาลภายในเดือนมีนาคม 2551 นี้
โดยเสนอให้รัฐบาลเร่งผ่านกฎหมายแยกฐานภาษีสุรากลั่นชุมชนออกจากสุราขาวโรงงานให้เป็นผลบังคับใช้ที่เป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งได้แจ้งให้แต่ละจังหวัดในภาคเหนือ ประกอบด้วย จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.น่าน และ จ.ลำพูน เฉพาะจังหวัดที่มีการเกาะกลุ่มประสานงานกันอย่างเข้มแข็งเสมอมา ส่งตัวแทนจังหวัดละ 2 คน พร้อมกับที่ปรึกษาเครือข่าย ฯ เข้ายื่นหนังสือ
นายชวลิต กล่าวต่ออีกว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ได้แยกเป็นสองทางคือ ทางแรกจะยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และทางที่สองยื่นต่อฝ่ายนิติบัญญัติคือประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ โดยตรง
“หากหลังจากยื่นหนังสือแล้ว ภายในหนึ่งปีกฎหมายการแยกฐานภาษีสุรากลั่นชุมชนออกจากสุราขาวโรงงาน ยังไม่มีผลคืบหน้าใดๆ พวกตนพร้อมด้วยแกนนำหลายจังหวัดในภาคต่างๆ จะรวมพลังกันขับเคลื่อนกลุ่มมวลชนไปส่วนกลางทันที เพราะหากตะโกนในภูมิภาครัฐบาลไม่ได้ยินก็ต้องไปตะโกนข้างๆ หูอีกครั้ง” นายชวลิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า กลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านจังหวัดพะเยา และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ชมรมผู้ผลิตสุราพื้นบ้านภาคเหนือในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประมาณ 50 คน ได้ร่วมประชุมประจำเดือนเพื่อสรุปความเคลื่อนไหวและกำหนดทิศทางของกลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านในอนาคต ที่ทำการกลุ่มเกษตรกรทำนาบ้านต๊ำ ต.ต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา
นายชวลิต หอประเสริฐวงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อแจ้งให้สมาชิกกลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านได้ทราบถึงความคืบหน้าของการเจรียมยื่นหนังสือต่อรัฐบาลภายในเดือนมีนาคม 2551 นี้
โดยเสนอให้รัฐบาลเร่งผ่านกฎหมายแยกฐานภาษีสุรากลั่นชุมชนออกจากสุราขาวโรงงานให้เป็นผลบังคับใช้ที่เป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งได้แจ้งให้แต่ละจังหวัดในภาคเหนือ ประกอบด้วย จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.น่าน และ จ.ลำพูน เฉพาะจังหวัดที่มีการเกาะกลุ่มประสานงานกันอย่างเข้มแข็งเสมอมา ส่งตัวแทนจังหวัดละ 2 คน พร้อมกับที่ปรึกษาเครือข่าย ฯ เข้ายื่นหนังสือ
นายชวลิต กล่าวต่ออีกว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ได้แยกเป็นสองทางคือ ทางแรกจะยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และทางที่สองยื่นต่อฝ่ายนิติบัญญัติคือประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ โดยตรง
“หากหลังจากยื่นหนังสือแล้ว ภายในหนึ่งปีกฎหมายการแยกฐานภาษีสุรากลั่นชุมชนออกจากสุราขาวโรงงาน ยังไม่มีผลคืบหน้าใดๆ พวกตนพร้อมด้วยแกนนำหลายจังหวัดในภาคต่างๆ จะรวมพลังกันขับเคลื่อนกลุ่มมวลชนไปส่วนกลางทันที เพราะหากตะโกนในภูมิภาครัฐบาลไม่ได้ยินก็ต้องไปตะโกนข้างๆ หูอีกครั้ง” นายชวลิต กล่าว