ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณากระทู้ถามสด ของนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นถามนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาค่าจ้างแรงงานว่า ไม่ทราบรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาของผู้ใช้แรงงา เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะในการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ที่ผู้ใช้แรงงานจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนั้น ส่วนใหญ่นายกรัฐมนตรีจะมาร่วมกล่าว สุนทรพจน์ เพื่อเป็นการให้เกียรติและให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ กลับไม่ให้ความสำคัญ แค่คำกล่าวสุนทรพจน์กว่าจะได้มาทราบว่า รมว.แรงงานต้องไปขอร้องให้เขียนให้ ที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรี ไม่กี่คนที่ไม่มาร่วมงานวันแรงงานแห่งชาติ อาทิ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่ตอนนั้นเกิดปัญหาเดือนพ.ค.35
“นายกฯ สามารถกำหนดตารางการมาร่วมงานได้เนื่องจากไม่ว่ารัฐบาลไหน ก็ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการจัดงานนี้ขึ้น แต่สำหรับนายสมัครอาจเป็นเพราะสมัยเป็น รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2519 เคยประกาศห้ามลูกจ้างนัดหยุดงานประท้วง และยังบริภาษว่าผู้ใช้แรงงานว่าเป็น แก๊งข้างถนน” อีก นายองอาจกล่าว
นายองอาจถามนายกรัฐมนตรีว่า ในปีนี้ผู้ใช้แรงงานต่างเรียกร้องให้รัฐบาลปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มอีก 9 บาท จากที่รัฐบาลกำหนดให้ค่าจ้างสูงสุดอยู่ที่ 194 บาท และต่ำสุด 144 บาท ไม่ทราบว่ารัฐบาลมีจุดยืนในการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้หรือไม่ และถ้ามีเป็นจำนวนเท่าไหร่ นอกจากนี้จะจัดการกับปัญหาการทุจริตการส่งแรงงาน ไปทำงานต่างประเทศ , ความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการกับกองทุนประกันสังคม จำนวนหลานแสนล้านบาท , ปัญหาการคุ้มครองแรงงาน และการพัฒนาฝีมือแรงงานไทย อย่างไร
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า เรื่อง ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 144 และ 194 บาทนั้น รัฐบาลได้ดำกำหนดไว้เมื่อเดือน มกราคม 2551 ส่วนการเรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้าง 9 บาทนั้นมาจากสภาลูกจ้าง ขอยืนยันว่า รัฐบาลมีนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงานแน่นอน โดยจะประชุมร่วมเพื่อพิจารณาค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำอีกเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 2 พ.ค. ขอยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาผู้ใช้แรงงานและค่าจ้างแรงงาน รวมทั้งการให้สวัสดิการต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบกระทู้ถามสดครั้งนี้ เมื่อนายองอาจพยายาม ถามไปยังนโยบายของรัฐบาลในการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ และปัญหาการไม่ให้ความ สำคัญกับผู้ใช้แรงงาน ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจให้กับนางอุไรวรรณ มาก ถึงกับลุกขึ้นตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำเสียงดุดันว่า “เรื่องค่าจ้างแรงงาน เอาความจริงมาพูดกันมั๊ย” ทำให้นายองอาจต้องชี้แจงว่าการซักถามไม่ได้กล่าวหาว่ารัฐมนตรีไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงาน แต่ต้องการถามนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อผู้ใช้แรงงาน
“นายกฯ สามารถกำหนดตารางการมาร่วมงานได้เนื่องจากไม่ว่ารัฐบาลไหน ก็ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการจัดงานนี้ขึ้น แต่สำหรับนายสมัครอาจเป็นเพราะสมัยเป็น รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2519 เคยประกาศห้ามลูกจ้างนัดหยุดงานประท้วง และยังบริภาษว่าผู้ใช้แรงงานว่าเป็น แก๊งข้างถนน” อีก นายองอาจกล่าว
นายองอาจถามนายกรัฐมนตรีว่า ในปีนี้ผู้ใช้แรงงานต่างเรียกร้องให้รัฐบาลปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มอีก 9 บาท จากที่รัฐบาลกำหนดให้ค่าจ้างสูงสุดอยู่ที่ 194 บาท และต่ำสุด 144 บาท ไม่ทราบว่ารัฐบาลมีจุดยืนในการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้หรือไม่ และถ้ามีเป็นจำนวนเท่าไหร่ นอกจากนี้จะจัดการกับปัญหาการทุจริตการส่งแรงงาน ไปทำงานต่างประเทศ , ความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการกับกองทุนประกันสังคม จำนวนหลานแสนล้านบาท , ปัญหาการคุ้มครองแรงงาน และการพัฒนาฝีมือแรงงานไทย อย่างไร
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า เรื่อง ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 144 และ 194 บาทนั้น รัฐบาลได้ดำกำหนดไว้เมื่อเดือน มกราคม 2551 ส่วนการเรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้าง 9 บาทนั้นมาจากสภาลูกจ้าง ขอยืนยันว่า รัฐบาลมีนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงานแน่นอน โดยจะประชุมร่วมเพื่อพิจารณาค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำอีกเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 2 พ.ค. ขอยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาผู้ใช้แรงงานและค่าจ้างแรงงาน รวมทั้งการให้สวัสดิการต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบกระทู้ถามสดครั้งนี้ เมื่อนายองอาจพยายาม ถามไปยังนโยบายของรัฐบาลในการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ และปัญหาการไม่ให้ความ สำคัญกับผู้ใช้แรงงาน ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจให้กับนางอุไรวรรณ มาก ถึงกับลุกขึ้นตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำเสียงดุดันว่า “เรื่องค่าจ้างแรงงาน เอาความจริงมาพูดกันมั๊ย” ทำให้นายองอาจต้องชี้แจงว่าการซักถามไม่ได้กล่าวหาว่ารัฐมนตรีไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงาน แต่ต้องการถามนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อผู้ใช้แรงงาน
