“หมอศุภผล” แกนนำกลุ่มมดเมือง ปชป.หอบหลักฐานแจกเงินซื้อเสียงเลือกตั้งเทศบาลนครโคราช เข้าร้อง กกต.เชือดโคตรทุจริตเลือกตั้งนายกเล็ก และ ส.ท. ระบุ 2 กลุ่มการเมืองทุ่มเงินกว่า 100 ล้านซื้อเสียงครั้งใหญ่อย่างอุกอาจโจ๋งครึ่มไม่เกรงกลัว กม.และไม่เว้นแม้แต่ซื้อเสียงกันข้างอนุสาวรีย์ย่าโม เพื่อแข่งกันชิงอำนาจเข้ายึดครอง เทศบาลนคร บริหารงบแผ่นดิน 4 ปีกว่า 4,800 ล้านยันเดินหน้าทำงานตรวจสอบทุจริตเทศบาลแบบเกาะติดต่อเนื่อง
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สาขานครราชสีมา ถ.มนัส ข้างไนท์บาร์ซ่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครราชสีมา หมายเลข 3 พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครนครราชสีมา กลุ่มมดเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวการเลือกตั้งเทศบาลนคร นครราชสีมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า กลุ่มมดเมือง ในฐานะผู้เสนอทางเลือกใหม่สำหรับการบริหารเทศบาลนคร ขอขอบคุณคะแนนเสียงกว่า 8,000 คะแนนของชาวโคราช ที่เป็นคะแนนใสบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากการทุจริตซื้อสิทธิขายเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้ มีข่าวและข้อเท็จจริงของการทุจริตคิดมิชอบ ซื้อสิทธิขายเสียงกระทำผิดกฎหมาย เลือกตั้งอย่างอุกอาจรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
“มีการจ่ายเงินซื้อเสียงอย่างโจ๋งครึ่ม เปิดเผยเป็นระบบ ทั้งในสถานที่ สวนสาธารณะ ในทุกตลาด หรือในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และจ่ายเงินตามถนน ในชุมชนทุกชุมชน ไม่เว้นแม้แต่สวนสาธารณะข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ในอัตราหัวละ 400, 500, 800 บาท หรือบางคนได้รับถึง 1500-2,000 บาท”
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงทุนซื้อเสียงของนักเลือกตั้ง 2 กลุ่ม เพื่อแข่งขันกัน ซื้อบ้านเมืองและซื้อเทศบาลนครนครราชสีมาครั้งใหญ่ที่สุด โดยกลุ่มหนึ่งลงทุนด้วยจำนวนเงินมากกว่า 75 ล้านบาท และกลุ่มที่ 2 ลงทุนด้วยเงินจำนวนที่น้อยกว่า
“พวกเขาลงทุนแข่งขันกันเพื่อชิงอำนาจเข้าไปบริหารเทศบาลแห่งนี้ ด้วยเงินรวมกันกว่า 100 ล้านบาท เพื่อทำอะไร ต้องการอะไร หรืออยากได้อะไรจากเทศบาลแห่งนี้ ซึ่งมีงบประมาณมหาศาล อันเป็นภาษีของคนโคราช รวมกัน 4 ปีจำนวนกว่า 4,800 ล้านบาท”
ฉะนั้น กลุ่มมดเมือง จึงขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา ให้แสดงความกล้าหาญเด็ดขาด ไม่ก้มหัวต่ออำนาจเงิน จัดการกับกลุ่มเลือกตั้งทุจริต ที่ท้าทายกฎหมายซึ่ง กกต.ดูแลอยู่ ขอให้แสดงความชัดเจน ตรงไปตรงมา และ แสดงให้ประชาชนเห็นการกระทำที่เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์เที่ยงตรงของ กกต.
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า เราขอเชิญชวนประชาชนที่รักบ้านเมืองโคราช ออกมาปกป้องบ้านเมืองให้รอดพ้นจากกลุ่มธุรกิจการเมือง และนักลงทุนทางการเมือง ด้วยการจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเข้าไปเกี่ยวข้องด้านต่างๆ เช่น ที่ดินจำนวนมาก เงินลงทุน สัมปทาน หรือรับเหมาก่อสร้างกับโครงการใหญ่ๆ ทั้งหลายของเทศบาล เช่น การสร้างถนน ฝายกั้นน้ำ คลองส่งน้ำ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน พวกเราจะดำเนินการผลักดัน พร้อมค้นหาหลักฐานการทุจริต ของกลุ่มธุรกิจการเมืองและนักลงทุนเลือกตั้งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอ ต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัดและในส่วนกลาง และติดตามผลการดำเนินการ อย่างใกล้ชิด
ทพ.ศุภผล กล่าวว่าแม้กลุ่มมดเมืองจะไม่ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารเทศบาล ในเวลานี้ ก็จะขออาสาประชาชนคนโคราชติดตามดูแลการใช้จ่ายงบประมาณมหาศาล ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน จำนวนกว่า 4,800 ล้านบาทอย่างใกล้ชิด พร้อมกับขออาสาดูแลความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนในเขตเทศบาลต่อไป
“ขอประกาศต่อประชาชนโคราช ว่า กลุ่มมดเมืองดำเนินการเคลื่อนไหว ทางการเมืองอย่างเปิดเผย โปร่งใสและสะอาดมาโดยตลอด เพื่อสร้างการเมืองสีขาว ในโคราชบ้านเรา อย่างมานะบากบั่น กลุ่มมดเมือง จะคัดค้าน และไม่กระทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สกปรก ไม่เปิดเผย กระทำการใต้ดินอย่างขี้ขลาดไม่กล้าหาญ และเป็นการทุจริต อันจะพบเห็นได้เป็นระยะๆ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งครั้งนี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว กลุ่มมดเมือง นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ได้เดินทางไปยื่นหนังสือกับ กกต.นครราชสีมา พร้อมมอบหลักฐานเป็นเงินซื้อเสียงที่ประชาชนได้รับจาก 2 กลุ่มการเมือง พร้อมพยานบุคคล อีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้ กกต.ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร่งด่วน
“มีชาวโคราชผู้กล้าหาญจำนวนหลายคน ที่พร้อมเป็นพยานบุคคลให้กับเรา ประกับหลักฐานอื่นๆ เช่น เงินที่ใช้ในการซื้อเสียงจำนวนหนึ่งแล้ว เชื่อว่า กกต.จะสามารถพิจารณาเอาผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ถึงขั้นให้ใบแดงหรือใบเหลือง ได้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากยื่นหนังสือและหลักฐานกับกกต.นครราชสีมาแล้ว เราจะเข้ายื่นเรื่องต่อ กกต.กลาง ด้วย เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาของการทุจริตเลือกตั้งท้องถิ่น”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ ส.ท.เทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า นายสุรวุฒิ เชิดชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 พร้อมนำลูกทีม ผู้สมัคร ส.ท.กลุ่มประสานมิตรก้าวหน้า ชนะการเลือกตั้งแบบยกทีมทั้ง 24 คนใน 4 เขตเลือกตั้ง
ส่วนที่ได้คะแนนมาอันดับ 2 คือ ดร.ชาญชัย อินทรประวัติ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี หมาย 2 กลุ่มโคราชชาติพัฒนา อันดับ 3 ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้สมัครฯ หมายเลข 3 กลุ่มมดเมือง พรรคประชาธิปัตย์ และ อันดับ 4 จากผู้สมัครนายกเทศมนตรีทั้งหมด 4 คน คือ นายรัฐประทีป กีรติอุไร ผู้สมัคร หมายเลข 1 กลุ่มชาวโคราช
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สาขานครราชสีมา ถ.มนัส ข้างไนท์บาร์ซ่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครราชสีมา หมายเลข 3 พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครนครราชสีมา กลุ่มมดเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวการเลือกตั้งเทศบาลนคร นครราชสีมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า กลุ่มมดเมือง ในฐานะผู้เสนอทางเลือกใหม่สำหรับการบริหารเทศบาลนคร ขอขอบคุณคะแนนเสียงกว่า 8,000 คะแนนของชาวโคราช ที่เป็นคะแนนใสบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากการทุจริตซื้อสิทธิขายเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้ มีข่าวและข้อเท็จจริงของการทุจริตคิดมิชอบ ซื้อสิทธิขายเสียงกระทำผิดกฎหมาย เลือกตั้งอย่างอุกอาจรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
“มีการจ่ายเงินซื้อเสียงอย่างโจ๋งครึ่ม เปิดเผยเป็นระบบ ทั้งในสถานที่ สวนสาธารณะ ในทุกตลาด หรือในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และจ่ายเงินตามถนน ในชุมชนทุกชุมชน ไม่เว้นแม้แต่สวนสาธารณะข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ในอัตราหัวละ 400, 500, 800 บาท หรือบางคนได้รับถึง 1500-2,000 บาท”
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงทุนซื้อเสียงของนักเลือกตั้ง 2 กลุ่ม เพื่อแข่งขันกัน ซื้อบ้านเมืองและซื้อเทศบาลนครนครราชสีมาครั้งใหญ่ที่สุด โดยกลุ่มหนึ่งลงทุนด้วยจำนวนเงินมากกว่า 75 ล้านบาท และกลุ่มที่ 2 ลงทุนด้วยเงินจำนวนที่น้อยกว่า
“พวกเขาลงทุนแข่งขันกันเพื่อชิงอำนาจเข้าไปบริหารเทศบาลแห่งนี้ ด้วยเงินรวมกันกว่า 100 ล้านบาท เพื่อทำอะไร ต้องการอะไร หรืออยากได้อะไรจากเทศบาลแห่งนี้ ซึ่งมีงบประมาณมหาศาล อันเป็นภาษีของคนโคราช รวมกัน 4 ปีจำนวนกว่า 4,800 ล้านบาท”
ฉะนั้น กลุ่มมดเมือง จึงขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา ให้แสดงความกล้าหาญเด็ดขาด ไม่ก้มหัวต่ออำนาจเงิน จัดการกับกลุ่มเลือกตั้งทุจริต ที่ท้าทายกฎหมายซึ่ง กกต.ดูแลอยู่ ขอให้แสดงความชัดเจน ตรงไปตรงมา และ แสดงให้ประชาชนเห็นการกระทำที่เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์เที่ยงตรงของ กกต.
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า เราขอเชิญชวนประชาชนที่รักบ้านเมืองโคราช ออกมาปกป้องบ้านเมืองให้รอดพ้นจากกลุ่มธุรกิจการเมือง และนักลงทุนทางการเมือง ด้วยการจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเข้าไปเกี่ยวข้องด้านต่างๆ เช่น ที่ดินจำนวนมาก เงินลงทุน สัมปทาน หรือรับเหมาก่อสร้างกับโครงการใหญ่ๆ ทั้งหลายของเทศบาล เช่น การสร้างถนน ฝายกั้นน้ำ คลองส่งน้ำ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน พวกเราจะดำเนินการผลักดัน พร้อมค้นหาหลักฐานการทุจริต ของกลุ่มธุรกิจการเมืองและนักลงทุนเลือกตั้งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอ ต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัดและในส่วนกลาง และติดตามผลการดำเนินการ อย่างใกล้ชิด
ทพ.ศุภผล กล่าวว่าแม้กลุ่มมดเมืองจะไม่ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารเทศบาล ในเวลานี้ ก็จะขออาสาประชาชนคนโคราชติดตามดูแลการใช้จ่ายงบประมาณมหาศาล ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน จำนวนกว่า 4,800 ล้านบาทอย่างใกล้ชิด พร้อมกับขออาสาดูแลความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนในเขตเทศบาลต่อไป
“ขอประกาศต่อประชาชนโคราช ว่า กลุ่มมดเมืองดำเนินการเคลื่อนไหว ทางการเมืองอย่างเปิดเผย โปร่งใสและสะอาดมาโดยตลอด เพื่อสร้างการเมืองสีขาว ในโคราชบ้านเรา อย่างมานะบากบั่น กลุ่มมดเมือง จะคัดค้าน และไม่กระทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สกปรก ไม่เปิดเผย กระทำการใต้ดินอย่างขี้ขลาดไม่กล้าหาญ และเป็นการทุจริต อันจะพบเห็นได้เป็นระยะๆ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งครั้งนี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว กลุ่มมดเมือง นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ได้เดินทางไปยื่นหนังสือกับ กกต.นครราชสีมา พร้อมมอบหลักฐานเป็นเงินซื้อเสียงที่ประชาชนได้รับจาก 2 กลุ่มการเมือง พร้อมพยานบุคคล อีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้ กกต.ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร่งด่วน
“มีชาวโคราชผู้กล้าหาญจำนวนหลายคน ที่พร้อมเป็นพยานบุคคลให้กับเรา ประกับหลักฐานอื่นๆ เช่น เงินที่ใช้ในการซื้อเสียงจำนวนหนึ่งแล้ว เชื่อว่า กกต.จะสามารถพิจารณาเอาผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ถึงขั้นให้ใบแดงหรือใบเหลือง ได้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากยื่นหนังสือและหลักฐานกับกกต.นครราชสีมาแล้ว เราจะเข้ายื่นเรื่องต่อ กกต.กลาง ด้วย เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาของการทุจริตเลือกตั้งท้องถิ่น”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ ส.ท.เทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า นายสุรวุฒิ เชิดชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 พร้อมนำลูกทีม ผู้สมัคร ส.ท.กลุ่มประสานมิตรก้าวหน้า ชนะการเลือกตั้งแบบยกทีมทั้ง 24 คนใน 4 เขตเลือกตั้ง
ส่วนที่ได้คะแนนมาอันดับ 2 คือ ดร.ชาญชัย อินทรประวัติ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี หมาย 2 กลุ่มโคราชชาติพัฒนา อันดับ 3 ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้สมัครฯ หมายเลข 3 กลุ่มมดเมือง พรรคประชาธิปัตย์ และ อันดับ 4 จากผู้สมัครนายกเทศมนตรีทั้งหมด 4 คน คือ นายรัฐประทีป กีรติอุไร ผู้สมัคร หมายเลข 1 กลุ่มชาวโคราช
