ความจริงเบนาซีร์ บุตโต ก็เสียชีวิตไปนานพอควรแล้ว และทางอังกฤษก็แถลงว่าตายเพราะแรงอัดจากระเบิดโดย สกอตแลนด์ยาร์ด มีความเห็นเช่นนั้น
แต่ทางพรรคการเมืองของนางบุตโตก็หาได้พอใจกับข้อสรุปเบื้องต้นไม่
และทำท่าว่าจะเอากรณีลอบสังหารให้เป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งได้อย่างชัดเจน
โฆษกพรรคคือ เชอรี่ เรห์แมน แถลงว่า ผลสอบสวนยังคงอยู่และจะทำให้ทางพรรคเสาะหาพวกลอบทำร้ายผู้นำพรรคต่อไปจนกว่าจะได้ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง
สกอตแลนด์ยาร์ด นั้นได้เคยมีข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องการตายว่า การที่ศีรษะของนางบุตโตได้รับบาดเจ็บไม่ได้มาจากอะไรมากไปกว่าจากถูกแรงดันของแรงระเบิดของผู้ฆ่าตัวตายด้วยระเบิดพลีชีพ (เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปีที่แล้ว)
และชี้ว่าแผลที่หัวนาง ไม่ได้เกิดจากกระสุนปืนแต่ประการใด
ก่อนหน้านี้มีข่าวแพร่ว่าเธอโดนยิงที่ศีรษะ ทำให้เชื่อว่านอกจากผู้พลีชีพแล้ว มีการลอบยิงเธอด้วย
ทฤษฎีนี้เคยแพร่หลายไปอย่างกว้างขวางมาก่อน
แม้แต่รัฐบาลก็สรุปความเห็นไปในทิศทางที่ทาง สกอตแลนด์ยาร์ด ให้ความเห็นเช่นนั้น โดยที่ยังไม่ได้อ่านข้อสรุปแต่อย่างใด
“เป็นที่แน่นอนว่า แรงกระทบจากพลังระเบิดฆ่าตัวตาย ส่งผลให้ศีรษะของนางบุตโตเกิดแผล” ทางรัฐบาลให้ความเห็นเช่นเดียวกับทางทีมสืบสวนจากสกอตแลนด์ยาร์ด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยปากีสถาน กล่าวว่า การสอบสวนเกี่ยวกับคดีนางบุตโตนั้น เวลานี้สรุปได้ว่าสิ้นสุดแล้ว และเพิ่มเติมว่าทางรัฐบาลก็จะให้ สกอตแลนด์ยาร์ด ช่วยหาหลักฐานว่าใครเป็นผู้บงการ หรืออยู่เบื้องหลังการโจมตีคราวนี้ด้วย
แน่นอนว่าทางการปากีสถานเองก็จะดำเนินการโดยอิสระควบคู่ไปด้วย เกี่ยวกับขบวนการลอบสังหารนางบุตโต
เวลานี้รัฐบาลชี้นิ้วไปที่ผู้นำกลุ่มชนเผ่าหนึ่งที่มีชื่อว่า ไบตุลเลาะห์ เมห์ซุด ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง บงการการลอบฆ่านางบุตโต
แต่ว่าสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น เอพี รวมทั้งกลุ่มทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในปากีสถาน กล่าวถึงผลการสืบสวนของสกอตแลนด์ยาร์ด ว่า การได้ข้อสรุปของทาง สกอตแลนด์ยาร์ด นั้น ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะยังขาดพื้นฐานเกี่ยวกับการสืบสวนอีกหลายอย่าง
แม้ว่าผลสอบสวนจากทางอังกฤษ ได้สร้างความตึงเครียดให้กับการเมืองในปากีสถาน และจะส่งผลต่อการเลือกตั้ง
แต่ว่าการโจมตีก็ทำให้การเลือกตั้งสั่นคลอนแน่นอน ว่าประชาชนจะปลอดภัยหรือไม่
หรือสงสัยว่า จะมีผู้นำการเมือง คนอื่นๆ ที่จะเป็นเหยื่อถูกลอบสังหารอีกหรือไม่
ปากีสถานนั้นเป็นสังคมชนเผ่า และมักปกครองตัวเอง เป็นพวกที่มักมีลักษณะขุนศึก และเป็นเขตอิสระซึ่งมีอำนาจรัฐในตัวเองโดยปริยาย
หลังการตายของบุตโต ก็มิได้มีการทำนิติเวช อาจเป็นความเชื่อทางศาสนาแต่ก็ทำให้เกิดการจลาจลในเขตอื่นๆ เช่น ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่คนโดนฆ่าไป 27 ศพ ในการระดมหาเสียงที่นั่น
แม้จะมีการสิ้นสุดการสอบสวนไปแล้ว
แต่ก็มีการเรียกร้องให้รื้อฟื้นคดีและให้มีการสอบสวนกันใหม่
บางคนก็ว่ารัฐบาลรีบสรุปว่าใครคือคนอยู่เบื้องหลัง และบอกว่าเป็นการเหวี่ยงแหไปยังผู้นำชนเผ่าบางคน ซึ่งอาจไม่ได้บงการก็ได้
เกี่ยวกับมีคนเห็นมือปืนในที่เกิดเหตุนั้น ทางอังกฤษระบุว่า ยังระบุคนคนนั้นไม่ได้ชัด แต่เป็นไปได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนที่พลีชีพด้วยระเบิด
และว่ามือระเบิดพลีชีพยืนใกล้กับที่เกิดเหตุแค่ 2 เมตร เท่านั้น
แน่นอนว่า แม้เรื่องนี้จะนานมาแล้ว
แต่มันก็ยังเป็นประเด็นที่พูดกันมาก และก็ยังพูดกันอยู่นาน ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรมากกว่าเชื่อทางอังกฤษเหมือนกับว่าปล่อยให้ “คนกลาง” เป็นผู้ตัดสินในคดีประวัติศาสตร์ของชาติ
หรือว่ามันจะเป็นคดี “ลึกลับ” ต่อไปอีกยาวนานในประวัติการเมืองของปากีสถาน