เอเอฟพี - ผลสำรวจหลายสำนักชี้ ฮิลลารี คลินตัน จะมีชัยชนะในศึกการหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารี ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย ที่จัดขึ้นวานนี้(22) ทว่าเธอจะต้องทำให้ได้มากกว่าแค่เบียดแซง บารัค โอบามา คู่แข่งที่มีคะแนนรวมนำหน้าอยู่ เพื่อกอบกู้ชุบชีวิตการรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีของเธอ ให้สามารถดำเนินต่อไปได้
นักสังเกตการณ์ต่างมีความเห็นว่าคลินตันจำเป็นต้องชนะด้วยคะแนนเป็นตัวเลขสองหลัก จึงจะสามารถขจัดเสียงเรียกร้องให้เธอถอนตัวเสียจากการแข่งขันหาตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้
นอกจากนั้น ชัยชนะอย่างงดงามเท่านั้นจึงจะสร้างพลังกระตุ้นอย่างแรงไปถึงการเลือกตั้งขั้นต้นครั้งต่อไปที่จะจัดขึ้นพร้อมกันที่มลรัฐอินเดียนา และนอร์ธ โคโรไลนา ในวันที่ 6 พฤษภาคม และหลังจากนั้นอีกไม่นานก็จะเป็นการเลือกตั้งขั้นต้นในอีก 6 มลรัฐที่เหลือในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
แต่ถ้าโอบามาได้ชัยชนะอย่างเหลือเชื่อที่เพนซิลเวเนีย หนทางสู่การเป็นผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเพื่อสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของคลินตันก็จะหดแคบลงไปอีก และจะทำลายความใฝ่ฝันของเธอที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯด้วย
ทั้งนี้ สถานการณ์ของอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ในขณะนี้ก็ล่อแหลมเต็มที เพราะเธอยังเป็นรองโอบามา ทั้งในส่วนของจำนวนมลรัฐที่ชนะ, จำนวนคณะตัวแทนในที่ประชุมใหญ่ของพรรค (เดเลเกตส์) ที่คิดตามสัดส่วนของผลคะแนนการเลือกตั้งขั้นต้น, คะแนนหยั่งเสียงผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตในทั่วประเทศ, รวมทั้งในด้านการแข่งขันกันหาเงินทุนสนับสนุนการหาเสียงของพรรคที่ใช้กันเป็นเรือนร้อยๆ ล้านดอลลาร์
แต่ฝ่ายของคลินตันก็ยืนยันถึงความสามารถของเธอที่จะได้รับเลือก ซึ่งไม่ใช่แค่การคิดคำนวณคะแนนเลือกตั้ง โดยเมื่อวันจันทร์(21)คลินตันได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า
"ดิฉันจะสู้ต่อจนกว่าทุกคนจะใช้สิทธิลงคะแนนในขั้นตอนนี้ครบทั้งหมด"
ชัยชนะในมลรัฐเพนซิลเวเนียจะสนับสนุนคำกล่าวอ้างของคลินตันที่ว่า มีแต่เธอเท่านั้นที่จะทำให้ฐานอำนาจของเดโมแครตมีความแข็งแกร่ง และจะสามารถดึงฐานเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้ใช้แรงงานหัวอนุรักษนิยม และนำชัยชนะมาให้ได้การเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปลายปี
โฮเวิร์ด โวล์ฟสัน โฆษกของคลินตันกล่าวว่า "ถ้าหากว่าเราทำได้ดีในเพนซิลเวเนีย มันก็จะแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเราอยู่ในสถานะที่ดีกว่าที่จะมีชัยชนะในมลรัฐใหญ่ ๆ ที่ฐานคะแนนเสียงยังเหวี่ยงไปมาไม่แน่นอน ซึ่งเดโมแครตจำเป็นต้องชนะรีพับลิกันให้ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้"
ผลสำรวจล่าสุดต่างระบุว่าคลินตันจะมีชัยชนะในครั้งนี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นชัยชนะชนิดที่พลิกโฉมการเลือกตั้งตามที่เธอหวังไว้หรือไม่ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยซัฟโฟล์กระบุว่าคลินตันมีคะแนนนำโอบามาอยู่ 52 เปอร์เซ็นต์ต่อ 42 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยควินนิแปกชี้ว่าคะแนนของคลินตันทิ้งห่างอยู่ 7 แต้ม คือ 51 ต่อ 44 เปอร์เซ็นต์
แต่แม้ว่าคลินตันจะได้คะแนนนำถึง 10 แต้มในมลรัฐเพนซิลเวเนีย ก็จะไม่ได้ทำให้เธอได้คะแนนในส่วนของคณะตัวแทนเพิ่มขึ้นจนส่งผลต่อคะแนนของโอบามาที่นำอยู่ เนื่องจากจำนวนคณะตัวแทนทั้ง 158 คนของมลรัฐเพนซิลเวเนียจะถูกจัดสรรตามสัดส่วนคะแนนที่ผู้สมัครแต่ละคนได้มา ซึ่งเป็นระบบคิดคะแนนของพรรคเดโมแครต
RealClearPolitics.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์อิสระระบุว่า ปัจจุบันโอบามามีคะแนนในส่วนของคณะตัวแทนอยู่ 1,650 คะแนน ส่วนคลินตันมีคะแนนส่วนนี้ 1,508 คะแนน
ด้วยเหตุนี้ คลินตันจึงกำลังเร่งดึงคะแนนจากคณะตัวแทนระดับสูงของพรรค (ซูเปอร์เดเลเกตส์) ซึ่งน่าจะเป็นผู้มีบทบาทตัดสินว่าใครคือผู้สมัครของพรรคในการเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากทั้งคลินตันและโอบามา ต่างก็ไม่มีใครที่จะได้คะแนนในส่วนของคณะตัวแทนได้ถึง 2,025 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนชี้ขาดสำหรับผู้ชนะการหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้น
นักสังเกตการณ์ต่างมีความเห็นว่าคลินตันจำเป็นต้องชนะด้วยคะแนนเป็นตัวเลขสองหลัก จึงจะสามารถขจัดเสียงเรียกร้องให้เธอถอนตัวเสียจากการแข่งขันหาตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้
นอกจากนั้น ชัยชนะอย่างงดงามเท่านั้นจึงจะสร้างพลังกระตุ้นอย่างแรงไปถึงการเลือกตั้งขั้นต้นครั้งต่อไปที่จะจัดขึ้นพร้อมกันที่มลรัฐอินเดียนา และนอร์ธ โคโรไลนา ในวันที่ 6 พฤษภาคม และหลังจากนั้นอีกไม่นานก็จะเป็นการเลือกตั้งขั้นต้นในอีก 6 มลรัฐที่เหลือในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
แต่ถ้าโอบามาได้ชัยชนะอย่างเหลือเชื่อที่เพนซิลเวเนีย หนทางสู่การเป็นผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเพื่อสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของคลินตันก็จะหดแคบลงไปอีก และจะทำลายความใฝ่ฝันของเธอที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯด้วย
ทั้งนี้ สถานการณ์ของอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ในขณะนี้ก็ล่อแหลมเต็มที เพราะเธอยังเป็นรองโอบามา ทั้งในส่วนของจำนวนมลรัฐที่ชนะ, จำนวนคณะตัวแทนในที่ประชุมใหญ่ของพรรค (เดเลเกตส์) ที่คิดตามสัดส่วนของผลคะแนนการเลือกตั้งขั้นต้น, คะแนนหยั่งเสียงผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตในทั่วประเทศ, รวมทั้งในด้านการแข่งขันกันหาเงินทุนสนับสนุนการหาเสียงของพรรคที่ใช้กันเป็นเรือนร้อยๆ ล้านดอลลาร์
แต่ฝ่ายของคลินตันก็ยืนยันถึงความสามารถของเธอที่จะได้รับเลือก ซึ่งไม่ใช่แค่การคิดคำนวณคะแนนเลือกตั้ง โดยเมื่อวันจันทร์(21)คลินตันได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า
"ดิฉันจะสู้ต่อจนกว่าทุกคนจะใช้สิทธิลงคะแนนในขั้นตอนนี้ครบทั้งหมด"
ชัยชนะในมลรัฐเพนซิลเวเนียจะสนับสนุนคำกล่าวอ้างของคลินตันที่ว่า มีแต่เธอเท่านั้นที่จะทำให้ฐานอำนาจของเดโมแครตมีความแข็งแกร่ง และจะสามารถดึงฐานเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้ใช้แรงงานหัวอนุรักษนิยม และนำชัยชนะมาให้ได้การเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปลายปี
โฮเวิร์ด โวล์ฟสัน โฆษกของคลินตันกล่าวว่า "ถ้าหากว่าเราทำได้ดีในเพนซิลเวเนีย มันก็จะแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเราอยู่ในสถานะที่ดีกว่าที่จะมีชัยชนะในมลรัฐใหญ่ ๆ ที่ฐานคะแนนเสียงยังเหวี่ยงไปมาไม่แน่นอน ซึ่งเดโมแครตจำเป็นต้องชนะรีพับลิกันให้ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้"
ผลสำรวจล่าสุดต่างระบุว่าคลินตันจะมีชัยชนะในครั้งนี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นชัยชนะชนิดที่พลิกโฉมการเลือกตั้งตามที่เธอหวังไว้หรือไม่ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยซัฟโฟล์กระบุว่าคลินตันมีคะแนนนำโอบามาอยู่ 52 เปอร์เซ็นต์ต่อ 42 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยควินนิแปกชี้ว่าคะแนนของคลินตันทิ้งห่างอยู่ 7 แต้ม คือ 51 ต่อ 44 เปอร์เซ็นต์
แต่แม้ว่าคลินตันจะได้คะแนนนำถึง 10 แต้มในมลรัฐเพนซิลเวเนีย ก็จะไม่ได้ทำให้เธอได้คะแนนในส่วนของคณะตัวแทนเพิ่มขึ้นจนส่งผลต่อคะแนนของโอบามาที่นำอยู่ เนื่องจากจำนวนคณะตัวแทนทั้ง 158 คนของมลรัฐเพนซิลเวเนียจะถูกจัดสรรตามสัดส่วนคะแนนที่ผู้สมัครแต่ละคนได้มา ซึ่งเป็นระบบคิดคะแนนของพรรคเดโมแครต
RealClearPolitics.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์อิสระระบุว่า ปัจจุบันโอบามามีคะแนนในส่วนของคณะตัวแทนอยู่ 1,650 คะแนน ส่วนคลินตันมีคะแนนส่วนนี้ 1,508 คะแนน
ด้วยเหตุนี้ คลินตันจึงกำลังเร่งดึงคะแนนจากคณะตัวแทนระดับสูงของพรรค (ซูเปอร์เดเลเกตส์) ซึ่งน่าจะเป็นผู้มีบทบาทตัดสินว่าใครคือผู้สมัครของพรรคในการเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากทั้งคลินตันและโอบามา ต่างก็ไม่มีใครที่จะได้คะแนนในส่วนของคณะตัวแทนได้ถึง 2,025 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนชี้ขาดสำหรับผู้ชนะการหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้น
