บ้านใร่กาแฟสยายปีกธุรกิจใหม่ เป็นตัวแทนบริการท่องเที่ยว ประเดิมจังหวัดสระบุรี พร้อมเปิดแนวรกุกาแฟ โหมหนัก 2 แบรนด์ คอฟฟี่เอฟ-ไทยชงบอร์ก เตรียมยกพลขึ้นห้างเปิดสาขาขยายฐานลูกค้า ทยอยปิดสาขาบนบีทีเอสจนหมด ส่วนบ้านใร่ใบกระเพราติดลมบนลุยอีก 3 สาขา
นายอัศวิน ไขรัศมี ประธานบริหาร บริษัท ออกแบบไร่นา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านบ้านใร่กาแฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่สู่การบริการท่องเที่ยว จากเดิมที่ทำธุรกิจหลักคือ ร้านกาแฟ เพื่อเป็นการขยายฐานและเพิ่มศักยภาพขององค์กรให้มากขึ้น
ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทฯได้จับมือร่วมกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและจังหวัดสระบุรี เพื่อให้บริษัทฯเป็นตัวแทนในการรับจอง ซื้อ ตั๋วโดยสาร ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร รวมทั้งการให้บริการข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ และยังใช้บ้านใร่กาแฟสาขาเอกมัยเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปสระบุรีด้วยสำหรับคณะทัวร์ต่างๆที่ต้องการใช้บริการด้านสถานที่ หากลูกค้าที่ติดต่อผ่านบริษัทฯ
ในช่วงแรกนี้จะเป็นตัวแทนเฉพาะจังหวัดสระบุรีก่อน เนื่องจากว่าบริษัทฯมีฐานการผลิตอยู่ที่สระบุรีอยู่แล้วจึงมีความเชี่ยวชาญด้านเส้นทาง คาดว่าน่าจะเกิดความสะดวกกว่า ส่วนในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆเพิ่มเติมอีก
ขณะเดียวกันแผนการขยายธุรกิจหลักคือ ร้านกาแฟและร้านอาหารนั้นจะยังคงมีต่อเนื่อง โดยนายอัศวินกล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายสาขาของร้านบ้านใร่กาแฟเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วย จากเดิมที่ไม่เคยอยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มเซ็นทรัลค้าปลีกรายใหญ่ ที่จะมีการเปิดสาขาใหม่ที่พัทยากับแจ้งวัฒนะด้วย
อย่างไรก็ตามจะไม่ได้เน้นขยายสาขาของบ้านใร่กาแฟ
มากนัก หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ทยอยปิดสาขาไปหลายแห่งเนื่องจากหมดสัญญาบ้างหรือยอดขายไม่ดีบ้าง จากเดิมที่มี 110 สาขา โดยเฉพาะปิดสาขาบนบีทีเอสไปทั้งหมด 6 แห่ง
ทั้งนี้แบรนด์ที่รุกหนักมากขึ้นคือ แบรนด์คอฟฟี่เอฟกับแบรนด์ไทยชงบอร์ก ซึ่งเป็นตลาดที่ถูกกว่าบ้านใร่กาแฟ เป็นการขยายฐานตลาดกลางและล่าง โดยมีแผนที่จะขยายร้านคอฟฟี่เอฟควบคู่ไปกับร้านบ้านใร่ใบกระเพรา ที่วางตำแหน่งทางการตลาดแบบเดียวกับร้านแบล็คแคนยอนและแมคคาเฟ่ ซึ่งคาดว่าสาขาแรกจะเห็นได้ในปีนี้
จากเดิมที่การขยายตัวของแบรนด์คอฟฟี่เอฟจะขยายสาขาติดไปกับเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสในรูปแบบคอร์เนอร์ ซึ่งเปิดแล้ว 6 สาขา จากปัจจุบันคอฟฟี่เอฟมีทั้งหมด 20 สาขา ซึ่งจะเน้นการขายแฟรนไชส์ด้วยเงื่อนไข ลงทุน 65,000 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมต่างๆ
ขณะที่แบรนด์ไทยชงบอร์กนั้นปัจจุบันเปิดบริการแล้ว 160 สาขา โดยเน้นการขายแฟรนไชส์เช่นกัน เงื่อนไขคือ ลงทุน 38,000 บาทแบบคีออส และลงทุน 35,000 บาท แบบรถเข็น เน้นทำเลหน้าเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสเช่นกัน
สำหรับธุรกิจใหม่ร้านอาหารแบรนด์บ้านใร่ใบกระเพราปีนี้จะเน้นหนักมากขึ้น หลังจากที่ทดลองเปิดสาขาแรกที่เอกมัยได้เกือบปีเศษ พบว่าได้รับความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งภายในปีนี้ จะมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 3 แห่ง โดยในเดือนเมษายนนี้จะเปิดสาขาที่ 2 ในย่านพระราม 3 ตามด้วยสาขาที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี และคลอง 2 อำเภอลำลูกกา
นายอัศวินกล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ มียอดขายเติบโต 5% จากความถี่ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น และคาดว่าในช่วงหน้าร้อนนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% โดยเฉพาะเดือนเมษายนยอดขายกาแฟจะเพิ่มสูงกว่าช่วงปกติ 50,000 แก้ว
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตรายได้ปีนี้ไว้ที่ 10% จากปี 2550 ที่มีรายได้รวม 155 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจกาแฟ 80% และร้านอาหาร 20% อย่างไรก็ตามคาดว่าสัดส่วนรายได้จากอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในอนาคตอีกไม่นานหลังจากขยายสาขาเพื่มขึ้น ล่าสุดบ้านใร่กาแฟฉลองครบรอบ 10 ปี ด้วยการออกผลิตภัณธ์ใหม่เป็นแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น 2 รายการ เป็นกาแฟ ณ บ้านกำแพงหิน เทพเสด็จ และกระเจี๊ยบดอกแดง หนองแซง สระบุรี ราคากระป๋องละ 120 บาท โดยมีจำนวนกำกัด 5,000 กระป๋อง
นายอัศวิน ไขรัศมี ประธานบริหาร บริษัท ออกแบบไร่นา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านบ้านใร่กาแฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่สู่การบริการท่องเที่ยว จากเดิมที่ทำธุรกิจหลักคือ ร้านกาแฟ เพื่อเป็นการขยายฐานและเพิ่มศักยภาพขององค์กรให้มากขึ้น
ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทฯได้จับมือร่วมกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและจังหวัดสระบุรี เพื่อให้บริษัทฯเป็นตัวแทนในการรับจอง ซื้อ ตั๋วโดยสาร ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร รวมทั้งการให้บริการข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ และยังใช้บ้านใร่กาแฟสาขาเอกมัยเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปสระบุรีด้วยสำหรับคณะทัวร์ต่างๆที่ต้องการใช้บริการด้านสถานที่ หากลูกค้าที่ติดต่อผ่านบริษัทฯ
ในช่วงแรกนี้จะเป็นตัวแทนเฉพาะจังหวัดสระบุรีก่อน เนื่องจากว่าบริษัทฯมีฐานการผลิตอยู่ที่สระบุรีอยู่แล้วจึงมีความเชี่ยวชาญด้านเส้นทาง คาดว่าน่าจะเกิดความสะดวกกว่า ส่วนในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆเพิ่มเติมอีก
ขณะเดียวกันแผนการขยายธุรกิจหลักคือ ร้านกาแฟและร้านอาหารนั้นจะยังคงมีต่อเนื่อง โดยนายอัศวินกล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายสาขาของร้านบ้านใร่กาแฟเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วย จากเดิมที่ไม่เคยอยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มเซ็นทรัลค้าปลีกรายใหญ่ ที่จะมีการเปิดสาขาใหม่ที่พัทยากับแจ้งวัฒนะด้วย
อย่างไรก็ตามจะไม่ได้เน้นขยายสาขาของบ้านใร่กาแฟ
มากนัก หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ทยอยปิดสาขาไปหลายแห่งเนื่องจากหมดสัญญาบ้างหรือยอดขายไม่ดีบ้าง จากเดิมที่มี 110 สาขา โดยเฉพาะปิดสาขาบนบีทีเอสไปทั้งหมด 6 แห่ง
ทั้งนี้แบรนด์ที่รุกหนักมากขึ้นคือ แบรนด์คอฟฟี่เอฟกับแบรนด์ไทยชงบอร์ก ซึ่งเป็นตลาดที่ถูกกว่าบ้านใร่กาแฟ เป็นการขยายฐานตลาดกลางและล่าง โดยมีแผนที่จะขยายร้านคอฟฟี่เอฟควบคู่ไปกับร้านบ้านใร่ใบกระเพรา ที่วางตำแหน่งทางการตลาดแบบเดียวกับร้านแบล็คแคนยอนและแมคคาเฟ่ ซึ่งคาดว่าสาขาแรกจะเห็นได้ในปีนี้
จากเดิมที่การขยายตัวของแบรนด์คอฟฟี่เอฟจะขยายสาขาติดไปกับเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสในรูปแบบคอร์เนอร์ ซึ่งเปิดแล้ว 6 สาขา จากปัจจุบันคอฟฟี่เอฟมีทั้งหมด 20 สาขา ซึ่งจะเน้นการขายแฟรนไชส์ด้วยเงื่อนไข ลงทุน 65,000 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมต่างๆ
ขณะที่แบรนด์ไทยชงบอร์กนั้นปัจจุบันเปิดบริการแล้ว 160 สาขา โดยเน้นการขายแฟรนไชส์เช่นกัน เงื่อนไขคือ ลงทุน 38,000 บาทแบบคีออส และลงทุน 35,000 บาท แบบรถเข็น เน้นทำเลหน้าเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสเช่นกัน
สำหรับธุรกิจใหม่ร้านอาหารแบรนด์บ้านใร่ใบกระเพราปีนี้จะเน้นหนักมากขึ้น หลังจากที่ทดลองเปิดสาขาแรกที่เอกมัยได้เกือบปีเศษ พบว่าได้รับความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งภายในปีนี้ จะมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 3 แห่ง โดยในเดือนเมษายนนี้จะเปิดสาขาที่ 2 ในย่านพระราม 3 ตามด้วยสาขาที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี และคลอง 2 อำเภอลำลูกกา
นายอัศวินกล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ มียอดขายเติบโต 5% จากความถี่ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น และคาดว่าในช่วงหน้าร้อนนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% โดยเฉพาะเดือนเมษายนยอดขายกาแฟจะเพิ่มสูงกว่าช่วงปกติ 50,000 แก้ว
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตรายได้ปีนี้ไว้ที่ 10% จากปี 2550 ที่มีรายได้รวม 155 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจกาแฟ 80% และร้านอาหาร 20% อย่างไรก็ตามคาดว่าสัดส่วนรายได้จากอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในอนาคตอีกไม่นานหลังจากขยายสาขาเพื่มขึ้น ล่าสุดบ้านใร่กาแฟฉลองครบรอบ 10 ปี ด้วยการออกผลิตภัณธ์ใหม่เป็นแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น 2 รายการ เป็นกาแฟ ณ บ้านกำแพงหิน เทพเสด็จ และกระเจี๊ยบดอกแดง หนองแซง สระบุรี ราคากระป๋องละ 120 บาท โดยมีจำนวนกำกัด 5,000 กระป๋อง