ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ผู้ใช้รถยนต์ภาคอีสานขานรับพลังงานทดแทน ล่าสุดพื้นที่จ.ขอนแก่นก๊าซเอ็นจีวี ไม่พอขาย เผยรถยนต์บรรทุกยอมจอดหน้าปั๊มรอเติมก๊าซ พลังงานจังหวัดขอนแก่นเผย สาเหตุระบบการขนส่งก๊าซจากโรงแยกก๊าซไม่ทันความต้องการ ลั่นปริมาณก๊าซจากแหล่งภูฮ่อมยังเพียงพอ ด้านเจ้าของปั๊มเอ็นจีวีสุดแฮปปี้ยอดขายเอ็นจีวีพุ่งถึงวันละ 8 ตัน แต่ก็ยังไม่พอต่อความต้องการ เชื่อไตรมาส 3 แก้ปัญหาก๊าซขาดช่วงได้แน่ ด้านบริษัทเฮสส์ เร่งสำรวจหาแหล่งก๊าซใหม่รับปริมาณการใช้ในอนาคต
นายสุรินทร์ แสงไทยทวีพร พลังงานจังหวัดขอนแก่น เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ถึงสถานการณ์การใช้พลังงานทดแทนในจังหวัดขอนแก่นว่า จากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังงานทดแทนทุกชนิดได้รับการตอบรับสูงจากผู้ใช้รถยนต์ในจังหวัดขอนแก่น ณ ปัจจุบันยอดจำหน่ายพลังงานทดแทนทุกชนิด มียอดขายสูงมาก โดยเฉพาะเอ็นจีวี หรือก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ที่สามารถขุดเจาะได้จากแหล่งก๊าซภูฮ่อม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี
ก๊าซเอ็นจีวี เป็นพลังงานที่รัฐบาลให้การส่งเสริมเป็นพลังงานทดแทนน้ำมัน จึงกำหนดราคาจำหน่ายไว้ต่ำมากเพียงแค่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ซึ่งต่ำกว่าน้ำมันดีเซลหรือเบนซินมากกว่า 3 เท่าตัว ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ โดยเฉพาะรถบรรทุกขนส่งสินค้า รถยนต์โดยสาร เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีสูงมาก เพราะประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่า 60% ทั้งสามารถคืนทุนได้รวดเร็ว
ดังนั้นตามเส้นทางสายหลักที่มีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีจำหน่ายตลอดเส้นทาง เช่น ถนนมิตรภาพ ตั้งแต่กรุงเทพฯ จนถึงหนองคาย หรือถนนเชื่อมไปยังภาคตะวันออก จะพบรถบรรทุกขนส่งสินค้า รถยนต์โดยสาร ที่เชื่อมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีจำนวนมาก
เอ็นจีวีไม่พอขาย เจ้าของรถยนต์นั่งโวย
สถานการณ์ล่าสุดสถานีบริการเอ็นจีวีในจ.ขอนแก่น ทั้ง 4 แห่ง กำลังประสบปัญหา ขาดแคลนก๊าซเอ็นจีวี จำหน่ายให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ โดยสถานีบริการจะนำป้าย “ขออภัยก๊าซเอ็นจีวีหมด” ติดไว้หน้าปั๊มเป็นระยะ เนื่องจาก ผู้ใช้รถยนต์ได้ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถยนต์โดยสารประจำทาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ฯลฯ
“ตามสถานีบริการเอ็นจีวีต่างๆ จะมีรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ หลายคัน จอดรถรอเติมก๊าซเอ็นจีวีหน้าปั๊ม เมื่อรถบรรทุกขนส่งเอ็นจีวีมาส่งถึงปั๊ม จะเติมก๊าซเอ็นจีวีให้แก่รถบรรทุกที่รอเติมก๊าซก่อน โดยรถบรรทุกขนส่งก๊าซ 1 คัน จะเติมก๊าซเอ็นจีวีให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ประมาณ 15 คัน จึงเหลือก๊าซเอ็นจีวี จำหน่ายให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปน้อยมาก”พลังงานจังหวัดขอนแก่นกล่าวและว่า
ขณะนี้เกิดปัญหาร้องเรียนจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ต่อเจ้าของปั๊ม , บริษัท ปตท. และหน่วยงานรัฐ ถึงปัญหาที่ปั๊มไม่มีเอ็นจีวีจำหน่าย เพราะเจ้าของรถเหล่านี้ลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีแล้ว ต้องการใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงเพื่อความประหยัด แม้รถยนต์นั่งจะเติมน้ำมันเบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ทดแทนได้ ขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้เอ็นจีวี เป็นระบบเชื้อเพลิงเดี่ยวไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน เหมือนกับรถยนต์นั่งที่ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า จากการติดตามปัญหาขาดแคลนเอ็นจีวีจำหน่าย พบว่า มีสาเหตุหลักมาจากระบบการขนส่งก๊าซเอ็นจีวี จากโรงแยกก๊าซที่อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น มาถึงสถานีบริการในจ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา โดยรถยนต์บรรทุกก๊าซของบริษัท ปตท. ไม่สามารถขนส่งก๊าซได้ทันกับความต้องการ โดยเฉพาะการขนส่งไปยังสถานีบริการเอ็นจีวี ที่ จ.นครราชสีมา รถยนต์บรรทุกก๊าซจะต้องใช้เวลาเดินทางถึง 3 ชั่วโมง และกลับมาขนก๊าซรอบใหม่อีก 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้การขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ที่แหล่งก๊าซภูฮ่อม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี และแยกก๊าซที่โรงแยกก๊าซอ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ณ ปัจจุบัน ยังมีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ แต่ติดปัญหาที่ระบบการขนส่งก๊าซจากโรงแยก มาถึงสถานีบริการ บริษัท ปตท.ไม่สามารถจัดการได้ทันความต้องการ ขณะเดียวกันรถยนต์บรรทุกก๊าซเอ็นจีวี เป็นรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ต่อพิเศษที่เน้นระบบความปลอดภัยสูง มีราคาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท/คัน
ปั๊มเอ็นจีวีโอ่ยอดขายพุ่งกว่าวันละ 8 ตัน
เชื่อไตรมาส 3แก้ปัญหาขาดแคลนได้
นายสมบูรณ์ ดวงดีทวีทรัพย์ เจ้าของบริษัท ปั๊มน้ำมันสมบูรณ์ จำกัด สถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีแห่งแรกของภาคอีสาน ที่อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงผลการทำตลาดก๊าซเอ็นจีวีว่า ก๊าซเอ็นจีวี ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถยนต์สูงมาก กลุ่มหลักคือผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุก และรถยนต์โดยสาร มีสัดส่วนมากกว่า 80% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ปัจจุบันมียอดขายหน้าปั๊มมากกว่าวันละ 8,000 กิโลกรัมแล้ว
ยอดจำหน่ายเชื้อเพลิงเอ็นจีวี ขยายตัวเร็วมาก เดิมเมื่อเปิดให้บริการเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน 2550 มียอดขายเอ็นจีวีเพียงแค่ 300 กิโลกรัม/วันเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้เอ็นจีวียังมีจำกัด และค่อยๆขยับเพิ่มเป็น 500 กิโลกรัม/วัน และพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วงปลายปี 2550 มากกว่า 4,000 กิโลกรัม/วัน ล่าสุดมียอดจำหน่ายมากกว่า 8,000 กิโลกรัม/วัน แต่ก็ยังไม่พอต่อความต้องการ
ส่วนปัญหาการจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีขาดช่วง ไม่ทันต่อความต้องการ เดิมเป็นปัญหาที่รุนแรง รถยนต์ต้องรอนานถึง 4 ชั่วโมง กว่ารถบรรทุกขนส่งเอ็นจีวีจะนำก๊าซมาส่งได้ ปัญหาดังกล่าวได้มีการเจรจากับบริษัท ปตท.แล้ว โดยได้เพิ่มเที่ยวรถขนส่งจากวันละ 2 เที่ยว เพิ่มเป็นวันละ 4 เที่ยวเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้มีเอ็นจีวีจำหน่ายเพิ่มกว่าเท่าตัว ปัญหาการจำหน่ายก๊าซขาดช่วงจึงบรรเทาลงได้
ทั้งนี้ ภายในเดือนกรกฎาคม 51 บริษัท ปตท.ได้ปรับปรุงเครื่องจักรบรรจุก๊าซใหม่ เป็นระบบก๊าซเหลว ทำให้สามารถบรรจุก๊าซในถังได้มากกว่าเท่าตัว โดยรถบรรทุกก๊าซเอ็นจีวี 1 คัน จะสามารถบรรจุก๊าซได้ถึง 4 ตัน หรือ 4,000 กิโลกรัม/เที่ยว เชื่อว่าจะทำให้มีปริมาณก๊าซเอ็นจีวีเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน
เฮสส์เตรียมสำรวจแหล่งก๊าซใหม่รองรับ
นายพูลสุข ศรีเจริญ ผู้จัดการโครงการแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม บริษัท เฮสส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เฮสส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในฐานะผู้รับสัมปทานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นพลังงานทดแทนใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เฉพาะก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือเอ็นจีวี สามารถผลิตก๊าซได้วันละกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อนนำส่งจำหน่ายให้แก่คู่สัญญาคือ กลุ่มบริษัท ปตท. เพื่อส่งให้แก่สถานีบริการเอ็นจีวีในจังหวัดต่างๆ
ทั้งนี้จากกระแสตอบรับการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เพิ่มขึ้นเร็วมาก จำเป็นต้องเร่งสำรวจหาแหล่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติม โดยใช้วิธีวัดความเคลื่อนไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ บริเวณพื้นที่แปลงสำรวจบนบกหมายเลข EU-1 , E5N, L15/43 และ L21/48 ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น และหนองบัวลำภู ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“ต้องยอมรับว่า การหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี ของกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงมาก ขณะที่กำลังผลิตก๊าซเอ็นจีวี ณ ปัจจุบัน บริษัทเฮสส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ดำเนินการขุดเจาะก๊าซเอ็นจีวี ส่งจำหน่ายให้ ปตท.เฉลี่ยวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร กำลังผลิตยังเท่าเดิม แต่สัดส่วนผู้ใช้ก๊าซ เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่ามาก จำเป็นต้องสำรวจหาแหล่งก๊าซธรรมชาติเพิ่ม”นายพูลสุขกล่าวและว่า
สำหรับพื้นที่สำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่ จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ตารางกิโลเมตร(ตร.กม.)ใน 17 ตำบล 7 อำเภอของ จ.อุดรธานี จ.หนองบัวลำภู และจ.ขอนแก่น จากผลการทำงานที่ผ่านมีการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือน 2 มิติ การเจาะหลุมสำรวจภูฮ่อม-3 , ภูฮ่อม – 4 และ ภูฮ่อม – 5 และกำลังที่จะทำการเจาะหลุมผลิตสินภูฮ่อม ที่ 6-10 ต่อไป
บริษัทเฮสส์ฯ จะเดินหน้าสำรวจหาก๊าซธรรมชาติ มาใช้เป็นพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อ สนองนโยบายกระทรวงพลังงานสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เชื่อมั่นว่าการขุดเจาะสำรวจเฟส 3 ในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว จะสามารถขุดเจาะหาก๊าซธรรมชาติ ได้เพิ่มอีกกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน่าจะเพียงพอและรองรับต่อความต้องการของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้