ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น.วันนี้ (8 เม.ย.) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. จะเดินทางเข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง กทม. ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.เป็นประธาน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยนายนาม ระบุว่าหากนายอภิรักษ์ จะใช้สิทธิชี้แจงข้อกล่าวหาในคราวเดียวกันเลยก็สามารถทำได้ หรือจะชี้แจงเป็นเอกสารในภายหลังก็ได้ แต่ต้องภายใน 15 วัน หลังการรับทราบข้อกล่าวหา
นายอำนวย ธันธรา กรรมการคตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 กล่าวว่า หลังสงกรานต์จะสามารถสรุปเรื่องนี้ เสนอให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่พิจารณา เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลต่อไป โดยขณะนี้ตนได้ทยอยเสนอประเด็นของคดี ให้กรรมการ คตส.ได้ศึกษาไปล่วงหน้าบางส่วนแล้ว
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า ในการประชุม คตส.วันที่ 9 เม.ย. ตนจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ในส่วนของ บริษัทเอสซี ออฟฟิต พลาซ่า จำกัด จำนวน 2 พันล้านบาท ส่วนจะมีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์หรือไม่นั้น ขึ้นกับมติของที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเพิกถอนดังกล่าวสืบเนื่องมาจากน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ได้ยื่นคำร้องขอพิสูจน์ทรัพย์ โดยอ้างว่า เงิน 2 พันล้านบาท เป็นเงินที่นำไปเพิ่มทุนตามปกติ โดยคณะอนุกรรมการมีความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยในการเพิกถอนการอายัด เพราะที่ผ่านมาได้ขอให้ น.ส.พิณทองทา และนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน เข้าชี้แจง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้ถามถึงเหตุผลการเพิ่มทุนดังกล่าวในประเทศอังกฤษ ซึ่งนางกาญจนาภา ระบุว่า เนื่องจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ กำลังเติบโตไปได้ดี จึงจำเป็นต้องเพิ่มทุนในนามบริษัท ชินวัตร แฟมมิลี่ พร็อพเพอร์ตี้ แต่เมื่อคณะอนุกรรมการทำหนังสือร้องขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งบริษัทดังกล่าว ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และที่สำคัญหากให้มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ในกรณีนี้ เกรงว่าบริษัทอื่นๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์จะใช้เป็นตัวอย่างร้องกล่าวอ้างในวิธีเดียวกันหมด จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า ในที่ประชุม คตส.อาจจะมีการยกมือโหวต เพื่อลงมติในเรื่องนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. ในฐานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจตนเอง และพวกพ้อง จะเปิดแถลงต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้า โดยเฉพาะการพิจารณาร้องของทีมทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้อ้างพยานเอกสาร และพยานบุคคลเพิ่มกว่า100 ปาก ให้คณะอนุกรรมการฯสอบเพิ่ม ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวถือเป็นข่าวใหญ่
นายอำนวย ธันธรา กรรมการคตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 กล่าวว่า หลังสงกรานต์จะสามารถสรุปเรื่องนี้ เสนอให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่พิจารณา เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลต่อไป โดยขณะนี้ตนได้ทยอยเสนอประเด็นของคดี ให้กรรมการ คตส.ได้ศึกษาไปล่วงหน้าบางส่วนแล้ว
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า ในการประชุม คตส.วันที่ 9 เม.ย. ตนจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ในส่วนของ บริษัทเอสซี ออฟฟิต พลาซ่า จำกัด จำนวน 2 พันล้านบาท ส่วนจะมีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์หรือไม่นั้น ขึ้นกับมติของที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเพิกถอนดังกล่าวสืบเนื่องมาจากน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ได้ยื่นคำร้องขอพิสูจน์ทรัพย์ โดยอ้างว่า เงิน 2 พันล้านบาท เป็นเงินที่นำไปเพิ่มทุนตามปกติ โดยคณะอนุกรรมการมีความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยในการเพิกถอนการอายัด เพราะที่ผ่านมาได้ขอให้ น.ส.พิณทองทา และนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน เข้าชี้แจง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้ถามถึงเหตุผลการเพิ่มทุนดังกล่าวในประเทศอังกฤษ ซึ่งนางกาญจนาภา ระบุว่า เนื่องจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ กำลังเติบโตไปได้ดี จึงจำเป็นต้องเพิ่มทุนในนามบริษัท ชินวัตร แฟมมิลี่ พร็อพเพอร์ตี้ แต่เมื่อคณะอนุกรรมการทำหนังสือร้องขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งบริษัทดังกล่าว ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และที่สำคัญหากให้มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ในกรณีนี้ เกรงว่าบริษัทอื่นๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์จะใช้เป็นตัวอย่างร้องกล่าวอ้างในวิธีเดียวกันหมด จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า ในที่ประชุม คตส.อาจจะมีการยกมือโหวต เพื่อลงมติในเรื่องนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. ในฐานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจตนเอง และพวกพ้อง จะเปิดแถลงต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้า โดยเฉพาะการพิจารณาร้องของทีมทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้อ้างพยานเอกสาร และพยานบุคคลเพิ่มกว่า100 ปาก ให้คณะอนุกรรมการฯสอบเพิ่ม ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวถือเป็นข่าวใหญ่