“สดศรี” ชี้ กกต.จะพิจารณาคดี “ไชยา” หลังสงกรานต์ เชื่อนัดเดียวรู้เรื่องเพราะผ่านการพิจารณาข้อ กม.มาแล้ว ลั่นพบ “โหรวารินทร์” เพราะศรัทธา การันตีเป็นคนดี ปฏิเสธหาช่องพบ คมช.
วันนี้ (9 เม.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.จะส่งเรื่องของนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ที่ถูกชี้มูล มาให้ กกต.ดำเนินการว่า หากเรื่องดังกล่าวส่งมารับ กกต.ก็พร้อมที่จะวินิจฉัยพิจารณา ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ เนื่องจากว่าเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาการพิจารณามาแล้ว ทั้งนี้ เมื่อเข้ามาสู่ที่ประชุม กกต.ก็จะใช้ดุลพินิจมีการลงมติอีกครั้ง ซึ่งอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ในการลงมติของ กกต.
“คิดว่าเรื่องดังกล่าวนี้จะพิจารณาหลังเทศกาลสงกรานต์ ไปแล้ว และทาง ป.ป.ช.ก็จะส่งไปหลายหน่วยงานที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่เมื่อมาถึง กกต.เมื่อไหร่ก็จะใช้เวลาไม่นาน และน่าจะเป็นเรื่องงานในการวินิจฉัย เพราะว่าเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ได้มีการพิจารณามาแล้ว”
นางสดศรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวออกมาระบุว่า ได้ไปพบ พล.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตคณะมนตรีความั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่สำนักสุขิโตว่า ตนไปตรวจราชการที่ จ.ลำพูน หลังจากเสร็จงานแล้วจึงได้แวะไปที่สำนักสุขิโต ตามคำเชิญของนายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ พี่ชายของนายวารินทร์ที่เป็นเพื่อนเรียนที่สถาบันพระปกเกล้าด้วยกัน ทั้งนี้ตนเคยไปทำบุญที่สำนักสุขิโตอยู่ตลอด แต่ระยะหลังตนก็ไม่ได้ไปนานแล้ว
“ยืนยันว่าการไปที่สำนักสุขิโต ไม่ได้เป็นการไปพบ คมช. ถ้าจะพบคงไม่ไปพบอย่างโจ่งแจ้งอย่างนั้น เพราะที่นั้นก็มีผู้สื่อข่าวอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งการที่ พล.อ.ชลิต ไปนั้นก็ไปเจอโดยบังเอิญ และส่วนตัวไม่ได้รู้จัก พล.อ.ชลิต จึงไม่ได้เข้าไปทักทาย และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย”
เมื่อถามว่าการเดินทางไปสำนักสุขิโตครั้งนี้ เกรงหรือไม่ว่าจะกระทบต่อการวินิจฉัยสำนวนของพรรคร่วมรัฐบาล นางสดศรี กล่าวว่า กกต.ทั้ง 5 คนไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และตนก็เดินทางไปที่สำนักสุขิโต 2 ถึง 3 ครั้งแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ เหตุที่ตนศรัทธาโหรวารินทร์เพราะว่านายวารินทร์มีความเมตตากรุณา เป็นคนใจบุญ และมีความเสียสละ ได้นำเงินที่ได้จากการรับบริจาคไปบริจาคต่อตามโรงเรียน และมูลนิธิต่างๆ อีกทั้งมีความเป็นห่วงใยบ้านเมือง ดังนั้นจึงมีคนเชื่อถือศัรทธาจำนวนมาก ซึ่งโดยส่วนตัวโหรวารินทร์ก็ไม่ได้ทำนายทายทักอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้ทำนายอะไรเกี่ยวกับ กกต.เลย เพียงแต่บอกว่าให้พิจารณาโดยยึดตามกฎหมายก็จะรอดพ้น
ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาระบุว่า โหรวารินทร์ออกมาระบุว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่ภาวะวิกฤตจนถึงขั้นนองเลือดนั้น ตนเห็นว่าเป็นการเตือนและไม่อยากให้เกิดเหตุการซ้ำรอย ซึ่งความจริงที่นายวารินทร์เตือนออกมานั้นเป็นเพราะว่าห่วงบ้านเมืองที่ดูจากสถานการณ์และนั่งทางใน แล้วเห็นว่าบ้านเมืองจะวุ่นวายจึงอยากให้รัฐบาลระวังและประคับประคองบ้านให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล แต่มีการต่อต้านจากฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตยจะทำให้เกิดความรุนแรง นางสดศรี กล่าวว่า เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะคุยกันได้ อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าไปใช้ความรุนแรง ถ้าเราสมานฉันท์ก็จะไม่เกิดความรุนแรง