xs
xsm
sm
md
lg

"หมัก"พล่านปฏิวัติหลอน ท้า"โหรคมช."ไปผูกคอตายถ้าทำนายผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ที่ออกอากาศครบ 2 เดือน แต่เป็นการออกอากาศครั้งแรก หลังจากเปลี่ยนชื่อสถานีจากช่อง 11 เป็นสถานีโทรทัศน์ NBT โดยนายสมัคร ได้เริ่มต้นตอบโต้ กรณีที่นายกุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ระบุว่า รายการนี้ของนายสมัคร พูดจาสะเปะสะปะ และอยากให้นายสมัคร พูดเฉพาะเรื่องงานสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายสมัคร กล่าวว่า เวลาเสร็จจากการจัดรายการแต่ละครั้ง จะมีผู้ปราถนาดีแนะนำว่า ควรอย่างนั้น อย่างนี้ ตนก็รับฟังในความปรารถนาดีของท่านทั้งหลาย
"แต่อยากจะกราบเรียนว่า รายการนี้ไม่ได้ชื่อว่า รายการ รายงานการทำงานประจำสัปดาห์ของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ชื่อนี้เลยครับ ชื่อรายการ "สนทนาประสาสมัคร" แปลว่า มีหลายเรื่องหลายอย่างที่จะปนกัน ผมอยากจะคุยงานของนายกฯ ว่าตั้งใจจะทำอะไรยังไง แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่คิดว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นเฉพาะไป"นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวตอนหนึ่งหลังจากพูดถึงปัญหาราคาข้าวว่า ตลอดเวลาที่ใครต่อใครอยากให้นายกรัฐมนตรีคุยแต่เรื่องงาน ไม่ต้องโววายคนอื่นหรอก ซึ่งถ้าจะเอาแบบนั้น คือ รายงานว่าบัดนี้กระทรวงนั้นทำยังงี้ ก็ต้องเปลี่ยนชื่อรายการเป็น "รายงานการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีประจำสัปดาห์" ถ้าอย่างนั้นใครที่ไหนจะมาดู ซึ่งตนไม่ต้องการให้ติดตามดู แต่ว่าบ้านเมืองมีปัญหาอะไรต่าง ๆ ถ้ามานั่งฟังกันอยู่ 1 ชั่วโมงก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่างไร แค่ไหน
นายสมัคร กล่าวถึงกรณีที่นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต หรือโหร คมช. ออกมาทำนายดวงเมืองว่า ข่าวเอิกเริกในหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ วันนั้น คนนี้ ยังงั้น ยังงี้ ก็ว่ากันไปเถอะ อย่างวันนี้ คนก็บอกว่านายสมัคร ออกรายการต้องซัด แต่ตนบอกว่าไม่ เพราะคนอื่นพูด แถลงเยอะแล้ว
อย่างไรก็ตาม คนที่จะออกมาแถลงอะไรต่างๆ ควรจะต้องมีความคิด ซึ่งการเอาชื่อคนไปเกี่ยวพัน พัวพัน เอาชื่อนายกรัฐมนตรี ไปพัวพันกับทหาร ว่าจะทำการปฏิวัติตัวเอง
"ทำนายคนนั้น จะเป็นนายกฯ คนนี้ ผมว่าไอ้คนเป็นหมอดู ควรจะคิดบ้าง ว่าที่พูดไปนั่นมันลุกล้ำก้ำเกินไปบ้างหรือเปล่า ไปเที่ยวกล่าวอย่างโน้นอย่างนี้ ผมว่าผมเสียหาย ที่ทำนายกันมาอย่างนี้ ผมเสียหาย แต่ผมจะยกประโยชน์ให้" นายสมัคร กล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
นายสมัคร กล่าวตำหนิอย่างรุนแรงว่า ให้หมอดูไปนั่งคิดดูตัวเองซะก่อนหน่อยว่าที่พูดมานั้นเป็นยังไง
"มันต้องการอะไร เป้าหมายเป็นยังไง หน้าที่หมอดูเขาต้องทำกันอย่างนี้หรือ แล้วทำไมหมอดูคนอื่นทำไมเขาหุบปากอยู่เฉยๆ ทำไมหมอดูคนนี้ ต้องมาเคลื่อนไหว ทำไมถึงต้องกำหนดยังงั้น อย่างงี้ ทำไมต้องออกข่าวทำพิธีต่อชะตา ยังโง้นยังงี้ มันเป็นยังไง คนบอกว่าไม่ไป มีคนไม่ไปครับ ชวนคนโน้นไป คนนี้ไปทำพิธี วันพรุ่งนี้ วันที่ 7 เม.ย. เขาจะทำพิธี ผมบอกด้วยว่าแล้ว ถ้าใครไม่ไป ก็ระวังไว้มั่ง"
นายสมัคร กล่าวอีกว่า "เป็นหมอดูประหลาดไหม หมอดูรายนี้ประหลาดจริงๆนะครับ ทีแรกโอ้โฮ ฟันธงไว้เลย ไม่ใช่หมอลักษณ์นะครับ โอ๊ย ยืนยันคนนี้เลย นายคนนี้แหละครับที่บอกเลย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯ แน่นอน100 % นายสมัครไม่มีทางเลย แล้วเป็นยังไงวันนี้ หมอคนที่พูดจาวันนี้เป็นยังไง ตกลงที่ทายไว้เป็นยังไง แล้วมาทายใหม่เนี่ยต้องการอะไร ไม่เข้าท่า"
นายสมัคร กล่าวต่อว่า หนังสือพิมพ์ก็มาประโคมกันเอิกเกริกเหลือเกิน โอ้โฮ เก่งกาจซะเหลือเกิน คนนี้มาทำเก่งกาจ แล้วทำไมทายไม่ถูก ออกข่าวเป๊ะเป๊ะเลย ทำไมทายไม่ถูก แล้วคราวนี้จะให้ทำยังไง แล้วเขาต้องการอะไร ถึงมาแถลงอย่างนี้
"ทำไมเอาคนอื่นเขาไปพัวพัน เอา ผบ.ทบ.ไปพัวพัน เอาชื่อผมไปพัวพัน ผบ.ทบ. ไปบอกเขาว่า เขาจะเป็นนายกฯในวันข้างหน้า มันเอิกเกริกขนาดนี้ ต้องการอะไร ต้องการอะไรที่ทำอย่างนี้ ต้องการให้บ้านเมืองเป็นยังไง สื่อสารมวลชนทั้งหลาย ก็โอ้โฮ ประโคมกัน ยกย่องสรรเสริญกัน ก็มันทายผิดชัดๆ แต่ยังยกย่องสรรเสริญกันอยู่ได้" นายสมัครกล่าว
นายสมัคร กล่าวอย่างฉุนเฉียวอีกว่า "หมอคนนี้ที่ทายเอิกเกริก ทายผิดชัดๆ หมอไม่อายด้วย นี่มาทำอีกแล้ว จะเอาชื่อผมไปเกี่ยวข้องไปพัวพัน หาว่าผมเนี่ยคบกับทหาร จะทำการปฏิวัติ ได้ยังไงครับ คนอย่างผมไปทำปฏิวัติได้ยังไงครับ หมอจะเป็นไอ้โหรคณะปฏิวัติก็เป็นไปเถอะ แต่ว่าอย่ามาทำพูดจาพัวพัน ไม่ได้หรอกครับ"
"ทำหน้าตาซีดเซียว ให้สัมภาษณ์ ยังโง้น ยังงี้ มันทำไมล่ะ คิดอะไรขึ้นมาหรือใครเขาวานให้ทำอะไร ยังไง ไปรับจ้างใครเขาทำขึ้นมา เก่งขนาดไหนล่ะครับ แล้วเก่งแล้วทำไมทายผิด" นายสมัครกล่าว
นายสมัคร กล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างมาก ที่ถูกนำชื่อไปพัวพันว่า "เอาชื่อผมไปพัวพันกับ ผบ.ทบ. เขา มันเรื่องอะไร ต้องการทำอะไร ต้องการทำให้เกิดความเสียหายยังไง ผมไปทำอะไรให้ แล้วบอกผมไม่ได้เป็นไง อภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ แน่นอน 100%ไง แล้วตอนนี้ทำไม ไหนลองตอบสิว่า คราวที่แล้วทำไมทายอย่างนั้น เพราะอะไร อายไหม อย่างนี้อายไหม ลงข่าวกันเอิกเกริกใหญ่โต มีการเชิญชวนให้ไปทำพิธี
"บอกเลยว่าถ้า ผบ.ทบ. ถ้าไม่ไปแล้วก็ระวังนะครับ เอ๊ะ เขาบอกแล้วว่า เขาไม่ไปทำพิธี แล้วทำไมถึงบอกว่า เขาจะเป็นนายกฯ วันข้างหน้า เอ๊ะทายอะไรกัน ยังไงกันแน่" นายสมัครกล่าว
นายสมัคร กล่าวสรุปถึงคำตำหนิที่พูดมาทั้งหมดว่า "ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่ถ้าไม่พูดเสียเลย มันจะไม่สมกับรายการพูดจาประสาสมัคร พูดจาภาษาสมัคร ต้องพูดอย่างนี้ ต้องแสดงความเห็นอย่างนี้ ต้องเอากันให้ชัดเจนครับ"

**ซัดธีรยุทธกลับไปส่องกระจกดูตัว
หลังจากนั้น นายสมัคร กล่าวถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ในประเทศ ของนายธีรยุทธ บุญมี ที่บอกว่าประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะตีบตัน กำลังเสื่อม 5 ด้านว่า
"ไอ้ 5 เสื่อมนี่ ก็ไม่ค่อยดูตัวเองนะครับว่าตัวเองเสื่อมไปขนาดไหน โถ ออกมาไอ้นั่นก็เสื่อม ไอ้นี่ก็เสื่อม นั่งว่าคนโน้น ว่าคนนี้ ไอ้เจ้าคนนี้ที่บ้านไม่มีกระจก ไม่ได้ดูตัวเองว่า หน้าตาตัวเองเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน ไม่ได้เป็นการช่วยบ้านเมืองอะไรเท่าไรหรอกครับ อวดศักดา มาแสดงเท่านั้นเอง
"อยากจะบอกท่านผู้ชมว่า อย่าวิตกทุกข์ร้อน อย่าคิดว่าผมจะต้องไปเที่ยวอาละวาดฟาดหันกับใคร ถ้าหากว่าวันนี้ไอ้หมอดู มาทำนายเอาชื่อผมไปพาดพิงกับ ผบ.ทบ. แล้วผมไม่พูดถึง มันก็เต็มที ผมต้องพูดถึง"
นายสมัคร กล่าวว่า จะบอกท่านพี่น้องทั้งหลายว่า บ้านเมืองนี้มันเข้าที่เข้าทางกำลังดำเนินการบริหารอยู่ แล้วตนก็จะทำหน้าที่ต่อไป
จากนั้นนายสมัคร ได้กล่าวท้าทายหมอดูว่า "ถ้าเก่งจริงลองช่วยทายสิครับว่า วันอาทิตย์หน้า ผมจะมาออกอากาศได้หรือเปล่า ลองทายสิครับ เอาให้ถึงสิ้นเดือนนี้ ถ้าผมอยู่เกินจะว่าไง ถ้าเกินหมอไปแขวนตัวตายไหม แขวนคอตายไหม หรือว่าทำไม่ได้ ทำนายทำไมครับ มันเกินเหตุ เกินหน้าที่ของหมอ บอกให้รู้ไว้เท่านั้นแหละครับ" นายสมัคร กล่าวทิ้งท้าย

**นพดลสั่งสถานทูตแจงไม่มีปฏิวัติ
นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่าตนได้แจ้งให้แต่ละสถานทูตชี้แจงถึงสถานการณ์ในประเทศว่า ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ต่อจากนี้ว่าจะเกิดการปฏิวัติซ้ำ เนื่องจากนายกรัฐมนตรี กับผู้บัญชาการทหารบก ก็ทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดี และ การรทำงานของผู้บัญชาการทหารบก ในการเยือนต่างประเทศที่ผ่านมา ได้ยืนยันกับตนว่า ถ้าใครจะปฏิวัติให้เอาปืนยิงหัวตัวเองดีกว่า เพราะไม่มีใครคิดจะทำ ประเทศบอบช้ำมามากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่การปล่อยข่าวปฏิวัติอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการทำนายของโหรนั้นเป็นฝีมือของกลุ่มไม่หวังดี และเป็นกระบวนการที่สอดรับกัน เป็นการกระทำของคนที่แพ้แล้วไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ง่ายๆ คนพวกนี้คุ้นเคยกับการใช้อำนาจนิยม ทั้งนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรรอให้รัฐบาลทำงาน แล้วช่วยกันคิดในเรื่องที่สร้างสรรค์
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางการเมืองของบุคคลเหล่านี้ ไม่ได้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่ทำให้รัฐบาลเสียเวลาที่จะต้องติดตาม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต ทำนายว่า เดือนพฤษภาคมนี้ จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดว่า ตนขอย้ำอีกครั้งว่าใครจะทำนายอย่างไร ก็สามารถทำนายได้ แต่คนที่กำหนดอนาคตของประเทศที่แท้จริง คือ ประชาชนทุกคน

**แนะสร้างผลงานเลิกระแวงปฏิวัติ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย( ครป.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปฏิวัติว่า ครป. เห็นว่า รัฐบาลสามารถยุติกระแสรัฐประหารได้ โดยรัฐบาลควรใส่ใจกับการแกปัญหาประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง การฟื้นฟูประชาธิปไตย รักษาดุลอำนาจต่างๆ ในรัฐธรรมนูญ หยุดการแทรกแซง ละเมิดอำนาจตุลาการ และใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมที่สุดกับทุกฝ่าย
แต่นับวันกลับพบว่า รัฐบาลชุดนี้แสดงความลุแก่อำนาจเร็วเกินกว่าจะเรียกศรัทธาจากประชาชน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้กำลังนำสังคมการเมืองไทยไปสู่จุดวิกฤติอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะการเผชิญหน้า และความขัดแย้งของผู้คนที่กลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง เนื่องจากการรุกกลับแบบเร็ว และแรงของรัฐบาล ซึ่งสวนทางกับนโยบายปรองดองสมานฉันท์ และสุดท้ายอาจกลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารอีกครั้ง
นายสุริยะใส กล่าวว่า เหมือนที่นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต ออกมาทำนายดวงเมืองว่า จะเกิดการนองเลือด การทำนายออกมานั้นรัฐบาลได้ตื่นตระหนกมาก จนตีความเป็นการส่งสัญญาณจากกองทัพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวรัฐบาลไม่ได้มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาลว่าจะนำพารัฐบาลชุดนี้ให้อยู่จนครบวาระ หรือนานที่สุดเท่าไร เพราะเวลานี้คนในรัฐบาลทราบดีว่า ปัญหาในประเทศเกินความสามารถของรัฐบาล
ฉะนั้น คำทำนายของโหร จึงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากกับคนในรัฐบาล หรือแม้แต่เสียงท้วงติงจาก นายธีรยุทธ บุญมี ก็เป็นสิ่งที่ไม่พึ่งปรารถนาของคนในรัฐบาล ดังนั้นจากนี้ไปคิดว่าวิธีการเดียวที่จะหยุดการรัฐประหารได้ รัฐบาลต้องเร่งสร้างผลงาน สร้างความน่าเชื่อถือ และเรียกศรัทธาจากประชาชน แต่ขณะนี้แปลกประหลากมากรัฐบาลไม่ได้สนใจฝ่ายตรงกันข้าม หรือฝ่ายที่ออกมาพากวิจารณ์ กลับสนใจแต่ฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งวิธีแบบนี้สุดท้ายรัฐบาลก็จะไปไม่รอด ไม่ต้องรอให้มีรัฐประหารลำพังแค่นี้ ตนก็ไม่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอนาคต ถ้าหากไม่เร่งสร้างผลงาน
"นายกฯอาจไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายธีรยุทธ เพราะรัฐบาลมองว่า เป็นฝ่ายตรงข้าม มีอคติ ไม่หวังดีต่อรัฐบาล จึงอยากแนะนำให้ นายกฯอ่านข้อท้วงติงของ นายกุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ฟังคนใกล้ตัวก็ได้ไม่ต้องฟังคนที่รัฐบาลรู้สึกว่าเป็นพวกตรงกันข้าม สิ่งที่นายกุเทพพูด น่าสนใจคือ ให้นายกฯ หยุดทำงานด้วยปาก และหยุดสร้างศัตรูกับนักข่าวรายวัน นายกฯ ยังไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ละเลย แข่งกันหนี ไม่ได้แข่งกันลงไป เอาแต่สร้างศัตรูรายวัน ฉะนั้นปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น หรือความอ่อนไหวในเรื่องของกระแสข่าวรัฐประหาร เกิดจากรัฐบาล ไม่ได้เกิดจากใครทั้งสิ้น" นายสุริยะใส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น