ลูกกำนัน พยานใบแดง"ยุทธตู้เย็น"ร้อง กกต.ขอความคุ้มครองพ่อ เผยถูกขู่ฆ่า "สุเมธ"เตรียมนำเข้าหารือที่ประชุมกกต. 8 เม.ย.นี้ วอนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางช่วยเหลือ
วานนี้ (4เม.ย.) นายเกรียงไกร ฉางข้าวคำ บุตรชายนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนันตำบลจันจว้า จ.เชียงราย พร้อมกับที่ปรึกษา ได้เดินทางมาที่สำนักงาน กกต. เพื่อยื่นหนังสือถึง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. โดยมี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นผู้มารับเรื่อง
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ตนมาร้องขอความเป็นธรรมให้พ่อ ซึ่งเป็นพยานให้ กกต. ในคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย เนื่องจาก ตั้งแต่นายชัยวัฒน์ เป็นพยานให้กับ กกต. ก็ถูกข่มขู่คุกคาม ทั้งทางโทรศัพท์ เอกสารจดหมาย และมาขู่เองโดยตรง ทำให้พ่อต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ โดยเฉพาะระยะหลังๆ มีการขู่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
"พ่อเกรงจะไม่ปลอดภัย เพราะถูกคุกคามตั้งแต่มาเป็นพยานให้อนุกรรมการสอบสวนของ กกต. และมีจดหมายข่มขู่มา เมื่อวันที่ 6 มี.ค.เปิดดูแล้วไม่กล้าไปแจ้งความ เขาขอติดต่อพ่อให้ไปเคลียร์ ให้มาอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ให้กลับคำให้การในชั้นศาล ถ้าให้ความร่วมมือก็เสนอให้ค่าตอบแทน"
ขณะที่ ที่ปรึกษาซึ่งเดินทางมาด้วย กล่าวว่า เดิมทีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มาคุ้มครองพยาน แต่ตำรวจก็ถูกย้ายออกไป บางคนก็ต้องไปจ.ยะลา ตอนนี้มีตำรวจชุดใหม่ซึ่งผู้เสียหายไม่มั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยและเป็นธรรม ส่วนกรณีสงสัยว่าใครเป็นผู้ข่มขู่นั้น อาจจะเป็นผู้มีอิทธิพลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ได้ประสานงานสำนักคุ้มครองพยานแล้วเพราะกฎหมายจะคุ้มครองผู้ร้องขอความคุ้มครอง โดยปกติที่ผ่านมาจะแจ้งตำรวจประจำพื้นที่ จากนั้นตามขั้นตอนตำรวจจะเรียกผู้ขอความคุ้มครองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการให้คุ้มครองอย่างไร เช่นให้เจ้าหน้าที่ไปที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกรียงศักดิ์ ได้นำสำเนาเอกสารรูปซองจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงนายชัยวัฒน์ พร้อมกับมีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า "กูจะฆ่ามึงให้ตายเหมือน...หมา เร็ววันนี้..." ระบุอยู่ในเอกสารแผ่นเดียวกัน
ด้านนายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จะนำเข้าหารือในที่ประชุม กกต. ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร ซึ่งไม่อยากให้คิดว่า ทำงานนี้เพื่อ กกต. แต่ขอให้คิดว่าทำงานนี้เพื่อประเทศชาติ เพราะกกต.ก็ทำงานเพื่อประเทศชาติ โดยเราก็เห็นใจ เหมือนกับทหารที่ไปทำงานทางภาคใต้ ก็ต้องเสี่ยงภัยต่างๆ แต่ก็ต้องทำ
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ กกต.ต้องรับผิดชอบ ผมว่าจะต้องมีการรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่จะมาพึ่ง กกต.เพียงอย่างเดียว ถ้าเกิดว่ามีการข่มขู่จริง และทุกคนเห็นว่ามีการข่มขู่ ก็สามารถที่จะเอาหลักฐานต่างๆ ชี้แจงต่อศาลได้ งานนี้ผมอยากเห็นว่าทุกฝ่ายร่วมมือกัน เมื่อเห็นว่าเขาทุจริตแล้วจะปล่อยให้เขาทุจริตต่อไปหรือ ผมเห็นว่าเราควรต้องทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองซึ่งจะต้องมาช่วยกันดูแล" นายสุเมธ กล่าว
วานนี้ (4เม.ย.) นายเกรียงไกร ฉางข้าวคำ บุตรชายนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนันตำบลจันจว้า จ.เชียงราย พร้อมกับที่ปรึกษา ได้เดินทางมาที่สำนักงาน กกต. เพื่อยื่นหนังสือถึง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. โดยมี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นผู้มารับเรื่อง
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ตนมาร้องขอความเป็นธรรมให้พ่อ ซึ่งเป็นพยานให้ กกต. ในคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย เนื่องจาก ตั้งแต่นายชัยวัฒน์ เป็นพยานให้กับ กกต. ก็ถูกข่มขู่คุกคาม ทั้งทางโทรศัพท์ เอกสารจดหมาย และมาขู่เองโดยตรง ทำให้พ่อต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ โดยเฉพาะระยะหลังๆ มีการขู่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
"พ่อเกรงจะไม่ปลอดภัย เพราะถูกคุกคามตั้งแต่มาเป็นพยานให้อนุกรรมการสอบสวนของ กกต. และมีจดหมายข่มขู่มา เมื่อวันที่ 6 มี.ค.เปิดดูแล้วไม่กล้าไปแจ้งความ เขาขอติดต่อพ่อให้ไปเคลียร์ ให้มาอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ให้กลับคำให้การในชั้นศาล ถ้าให้ความร่วมมือก็เสนอให้ค่าตอบแทน"
ขณะที่ ที่ปรึกษาซึ่งเดินทางมาด้วย กล่าวว่า เดิมทีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มาคุ้มครองพยาน แต่ตำรวจก็ถูกย้ายออกไป บางคนก็ต้องไปจ.ยะลา ตอนนี้มีตำรวจชุดใหม่ซึ่งผู้เสียหายไม่มั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยและเป็นธรรม ส่วนกรณีสงสัยว่าใครเป็นผู้ข่มขู่นั้น อาจจะเป็นผู้มีอิทธิพลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ได้ประสานงานสำนักคุ้มครองพยานแล้วเพราะกฎหมายจะคุ้มครองผู้ร้องขอความคุ้มครอง โดยปกติที่ผ่านมาจะแจ้งตำรวจประจำพื้นที่ จากนั้นตามขั้นตอนตำรวจจะเรียกผู้ขอความคุ้มครองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการให้คุ้มครองอย่างไร เช่นให้เจ้าหน้าที่ไปที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกรียงศักดิ์ ได้นำสำเนาเอกสารรูปซองจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงนายชัยวัฒน์ พร้อมกับมีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า "กูจะฆ่ามึงให้ตายเหมือน...หมา เร็ววันนี้..." ระบุอยู่ในเอกสารแผ่นเดียวกัน
ด้านนายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จะนำเข้าหารือในที่ประชุม กกต. ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร ซึ่งไม่อยากให้คิดว่า ทำงานนี้เพื่อ กกต. แต่ขอให้คิดว่าทำงานนี้เพื่อประเทศชาติ เพราะกกต.ก็ทำงานเพื่อประเทศชาติ โดยเราก็เห็นใจ เหมือนกับทหารที่ไปทำงานทางภาคใต้ ก็ต้องเสี่ยงภัยต่างๆ แต่ก็ต้องทำ
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ กกต.ต้องรับผิดชอบ ผมว่าจะต้องมีการรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่จะมาพึ่ง กกต.เพียงอย่างเดียว ถ้าเกิดว่ามีการข่มขู่จริง และทุกคนเห็นว่ามีการข่มขู่ ก็สามารถที่จะเอาหลักฐานต่างๆ ชี้แจงต่อศาลได้ งานนี้ผมอยากเห็นว่าทุกฝ่ายร่วมมือกัน เมื่อเห็นว่าเขาทุจริตแล้วจะปล่อยให้เขาทุจริตต่อไปหรือ ผมเห็นว่าเราควรต้องทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองซึ่งจะต้องมาช่วยกันดูแล" นายสุเมธ กล่าว
