สภาไทยสุดอดสู ส.ส.พลังประชาชนถ่อย ชี้หน้าด่าหยาบคาย ก่อนโดดถีบ "สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์" กลางสภา ฝ่ายค้านเดือด ตั้งทนายแจ้งความ ดำเนินคดี ฐานหมิ่นเจ้าพนักงาน พร้อมเสนอสภาตั้งกก.สอบจริยธรรม นศ.เกษตรฯ ชี้พฤติกรรม ส.ส.พปช.สะท้อนคำพูด นศ.เป็นจริง เผยประวัติ "การุณ"สุดฉาว ทั้งทำร้ายร่างกาย อดีตเมีย ตำรวจและชาวบ้าน ขึ้นศาลมาแล้วหลายรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (2 เม.ย.) ซึ่งมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ช่วงการหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นพ. ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชน ขอหารือว่ากรณีที่มีกลุ่มการเมืองไปใช้หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการอภิปรายด่าคนนั้นคนนี้ รวมถึง ครม.และส.ส.ทั้งหมดโดยอ้างว่าเป็นการสัมมนา แต่จริงๆแล้ว กลับให้นักศึกษาใช้คำพูดไม่สุภาพ ด่าส.ส.ว่า ส.ส.สระเอีย หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าใช้คำพูดที่ " ถ่อย" จึงขอฝากให้กระทรวงศึกษาธิการ มาดูแลด้วยว่า อธิการบดีคนไหนไม่เป็นกลางทางการเมือง เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกให้ด่ากันออกทีวี พูดเลยว่า คือ ASTV ซึ่งตนสงสัยว่าศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวมาแล้ว 2 ปี เหมือนการคุ้มครองถาวร
ขณะที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่า ส.ส.ในสภาหลายคนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และขอให้ถอนคำพูดที่หาว่าการชุมนุมนักศึกษาถ่อย แต่พ.อ.อภิวันท์ กลับวินิจฉัยว่า คำว่า "ถ่อย" ไมใช่คำไม่สุภาพ เพราะเป็นคำวิเศษณ์ที่อยู่ในพจนานุกรม แปลว่าไม่ดี ไม่งาม และผู้อภิปรายไม่ได้เอ่ยชื่อใคร
ขณะที่นาย บุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงประธานฯว่า ขอประธานฯยืนยันให้ชัดว่า คำดังกล่าวไม่ใช่คำไม่สุภาพ ซึ่งพ.อ.อภิวันท์ ยืนยันอีกครั้งตามที่วินิจฉัย
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ต่อไปถ้าใครไม่ดี ตนอภิปรายในสภาใช้คำว่า "ถ่อย" ได้หรือไม่ ทำให้มีการประท้วงระหว่างพรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ อีกเล็กน้อย ก่อนพ.อ.อภิวันท์ จะให้นพ. ประสิทธิ์ ถอนคำดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ประสิทธิ์ ได้ถอน และอภิปรายต่อว่า ขอให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อบรมสมาชิกพรรคด้วย ที่ปล่อยให้ส.ส.ของตัวเอง ไปเปิดเวทีพูดโจมตีรัฐบาล เอ่ยถึง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ด่าไปถึงส.ส. ว่า ส.ส.สระเอีย ใช้คำพูดไม่สุภาพ นอกจากนี้งิ้วธรรมศาสตร์กลายเป็นงิ้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปหมดแล้ว ตอนนี้ไม่รู้บ้านเมืองเป็นอะไรไปหมด ขอท้าให้พันธมิตรฯมาตั้งพรรคการเมือง เอานายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าพรรค นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นโฆษก ส่วนนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ให้มาเป็นเลขาฯ ถ้าอยู่พรรคปัจจุบันไม่มีความสุข
จากนั้นนาย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ผู้อภิปราย อ้างถึงบุคคลภายนอก ดูจะไม่สมฐานะ ส่วนที่มีการโจมตีการชุมนุมในวันที่ 28 มี.ค. วันนั้น มี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกกลุ่ม อยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเหตุอะไรเกิดขึ้นบ้างก็ทราบกันอยู่ ก็ให้พิจารณากันเองว่า กลุ่มไหนควรจะใช้คำตามที่ถกเถียงกันอยู่
" ผมจะไม่มาต่อสู้กับคนพวกนี้ เพราะผมมีเป้าหมายชัดเจนที่คนๆ เดียว ถ้าเห็นว่า ผมทำผิดรัฐธรรมนูญ ก็เข้าชื่อถอดถอนได้ตามมาตรา 270 อย่ามากระแนะกระแหน เพราะผมไม่สนใจหรอก ถ้าเห็นว่า ผมทำผิด มาตรา 45 บุคคลย่อมมีเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น มาตรา 63 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และมาตรา 64 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมตัวกันเป็นพันธมิตรฯ ก็ใช้กลไกเลย เพราะส.ส.ได้ปฏิญาณตนตาม มาตรา 123 อยู่แล้วว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ อย่ามากระแนะกระแหนผม เจอผมที่ไหนก็ได้ "
อย่างไรก็ตามพ.อ.อภิวันท์ ประธานในที่ประชุมได้ตัดบทว่า ขอสมาชิกอย่าไป ถือสาหาความกัน หนักนิดเบาหน่อยขอให้ให้อภัยกัน และให้ดำเนินการประชุมต่อไป
หลังอภิปรายเสร็จ นายสมเกียรติ ได้เดินออกจากห้องประชุมเพื่อเข้าไปรับประทานอาหาร บนชั้น 2 อาคารรัฐสภา พร้อมด้วยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคน เช่น นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา นายโกวิทย์ ธรานา ส.ส.กทม. ปรากฏนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน พร้อมด้วยอดีต ส.ก.เขตดอนเมือง ได้เดินเข้ามาให้ห้อง รับประทานอาหาร พร้อมถามนายสมเกียรติ ด้วยเสียงดังว่า " ไอ้สัตว์ เมื่อกี้ มึงว่าใคร " ก่อนกระโดดถีบ นายสมเกียรติ เข้าบริเวณต้นขาขวา ทำให้นายสมเกียรติ ถึงกับเซ จากนั้นได้พยายามชกอีกครั้งแต่ถูกนายนิพนธ์ และนายโกวิทย์ ห้ามไว้ ทำให้นายการุณ ไม่พอใจ และหันไปด่าทอ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า "จะรุมกูเหรอ" นายโกวิทย์ จึงตะโกนว่า " กูไม่ได้รุม แต่กูเข้ามาห้าม" ทำให้ นายการุณ ไม่พอใจและด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมแล้ว กว่า 50 คำ
จากนั้น นายการุณ ได้เดินออกจากห้องรับประทานอาหาร แล้วเดินกลับเข้ามา อีกครั้งพร้อมด้วยนายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส.กทม.เขตเดียวกันเข้าในห้องพร้อมกับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เริ่มชุลมุนเมื่อมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาสมทบอาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค เพื่อที่จะเคลียร์ปัญหา ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่ง ได้กรุเข้ามาให้ห้องรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน จนทำให้สถานการณ์โกลาหลขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมา นายชัย ชิดชอบ ประธานวิปรัฐบาล พร้อม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้เดินเข้ามา เคลียร์สถานการณ์ กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย นายการุณ ได้ปรี่เข้ามาตะโกนด่าอีกชุดใหญ่ ทำให้นายชัย เดินเข้ามาล็อคพร้อมกอดคอพา นายการุณ เข้าไปสงบสติอารมณ์ ที่ห้อง วิปรัฐบาล ที่ชั้น 2
ผู้สื่อข่าวรายวานว่าเมื่อนายชัย ได้ดึงนายการุณไปหารือในห้องวิปรัฐบาล นานประมาณ 15 นาที จากนั้นนายการุณ ได้ออกจากห้องเมื่อเห็นสื่อมวลชน ที่รอทำข่าว ถึงกับรีบวิ่งแจ้นหลบไปทันที
หลังจากเหตุการณ์สงบลงนายสมเกียรติ ให้สัมภาษณ์ ว่าหลังจากที่อภิปราย กำลังจะมารับประทานอาหารอยู่ได้มีเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งเข้ามาถีบ แล้ว นายนิพนธ์ ก็เข้ามาห้ามไว้ ซึ่งตนไม่ได้ตอบโต้อะไร ขอยืนยันว่าถูกถีบจริงๆ โดยเซเพียงเล็กน้อย เรื่องนี้คงให้สังคมเป็นผู้ตัดสินเพราะสังคมก็มีจริยธรรมขั้นพื้นฐานอยู่ นอกจากนี้ นายการุณ ได้กล่าวหาด้วยถ้อยคำ ที่ไม่สุภาพกับตนหลายคำแต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้สักประโยค
" ส.ส.ถูกจำกัดด้วย 2 กรอบ กรอบแรก เป็นกอบประมวลจริยธรรมของ ส.ส.และกรอบที่สองจริยธรรมของสังคมที่ประชาชนต้องมองดู ผมเป็น ส.ส.สมัยแรกนับเป็นเกียรติที่มี ส.ส.รัฐบาลมาถีบผมและถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต ผมคิดว่าฝ่ายนั้น น่าจะหาทางออกด้วยสติปัญญา เพราะสภาแห่งนี้ เป็นสภาแห่งปัญญา เป็นสภาที่แก้ปัญหาด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่สภาของนักเลงข้างถนน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมเกียรติ ยืนให้สัมภาษณ์อยู่นั้น ได้มี ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้ยืนสังเกตการณ์อยู่จนกระทั่ง นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้ตะโกนว่า "ก็ท้าเค้าก่อน เปิดเทปฟังได้"
จากนั้นนายสมเกียรติได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชั้น 3 ห้องผู้นำฝ่ายค้านฯ เป็นเวลา 10 นาทีก่อนเข้าร่วมประชุมวิปฝ่ายค้าน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย วิปฝ่ายค้าน แถลงว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่ก่อเหตุมีเจตนาคุกคาม ทำร้าย นายสมเกียรติ โดยที่นายสมเกียรติ ไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ แต่นายการุณ กลับเดินเข้ามาจะทำร้ายอีกครั้งหลังจากถูกแยกตัวออกไป ถือเป็นการกระทำที่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีการเตรียมการกันไว้ โดยกลุ่มคนที่ไม่พอใจนายสมเกียรติ น่าจะมีส่วนรู้เห็นทำให้เกิดเหตุขึ้น
ดังนั้นฝ่ายค้านจึงมีมติมอบหมายให้นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นทนายความ พานายสมเกียรติ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายการุณ ข้อหาทำร้ายร่างกาย และหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ที่สน.ดุสิต เพราะไม่ใช่การทะเลาะของคนเพียงสองคน แต่มีเจตนาคุกคามการปฏิบัติหน้าของส.ส. นอกจากนี้ฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมสภาเพื่อให้ประธานสภาฯตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่า ผิดข้อบังคับการประชุมเรื่องประมวลจริยธรรมส.ส. จึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก อีกทั้งขอเรียกร้องให้พรรคพลังประชาชนที่เป็นต้นสังกัดของ นายการุณ แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
นายยศ ตันสกุล นิสิตคณะสังคมศาสตร์ ปี 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในนักศึกษาที่ขึ้นสัมมนาเวทีพันธมิตรฯ เรื่อง "เสียงสะท้อนคนรุ่นใหม่...จะฝ่าข้ามการเมืองที่น่าอึดอัด เบื่อหน่าย และไร้ความหวังได้อย่างไร" เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า หากมีการกล่าวคำพูดหยาบคายบนเวทีออกมาจริง ก็ต้องขออภัย ด้วยประสบการณ์ยังน้อยอาจทำให้นักศึกษากล่าวคำไม่เหมาะสมออกไป แต่อยากให้ ส.ส.ระบุชื่อว่าเป็นใคร แล แม้ว่าจะมีการกล่าวคำหยาบคำนั้นออกมา แต่เหตุการณ์ที่ ส.ส.ใช้กำลังกระโดดถีบและด่าทอ ส.ส.ด้วยกันในวันนี้ ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า คำพูดของนักศึกษาในวันนั้นเป็นจริง การพูดคำหยาบอาจจะไม่เหมาะสมแต่ก็ยอมรับได้ มากกว่าการที่ ส.ส.ใช้กำลังซึ่งตนและคนไทยยอมรับไม่ได้
สำหรับนายการุณ ถือว่าเป็นบุคคลที่เคยก่อคดีมาแล้วหลายครั้ง เช่น ต้นเดือนมี.ค. 2548 ทีมงานหาเสียงของพรรคชาติไทย เข้าแจ้งความ สน.ดอนเมือง ว่า ถูกนายการุณ โหสกุล ทำร้ายร่างกาย โดยถูกเตะเข้าที่แขนซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ
ปีเดียวกันนายการุณ ยังมีคดีความทำร้าย นางรัชดาวรรณ เกตุสะอาด ส.ก.เขตดอนเมืองในขณะนั้น และเป็นอดีตภรรยาตนเอง ที่กลางสนามบินดอนเมือง
ขณเดียวกันนายการุณ ยังถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับเงินฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2496 ม.27 ลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลบเลี่ยงภาษีศุลกากร เป็นเงินจำนวน 30,254,052 บาท
ต่อมาศาลฎีกายังมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของ นายการุณ เพราะมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศยกเลิกใบปริญญาบัตรของนายการุณ
ในเดือนส.ค.2549 นายเจริญ สารไทสง อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท อุดมสุข จำกัด เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่าถูก นายการุณ กับพวก ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และพูดจากข่มขู่จะทำร้ายอีก
นายการุณ ยังตกเป็นผู้ต้องหาทำร้าย พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย รอง ผกก. 2 บก.ป. ขณะเข้าไปสืบสวนหาข่าวการเล่นพนันไก่ชน ภายในสนามชนไก่คลอง 5 หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จนใต้ตาแตก ขณะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาลธัญบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (2 เม.ย.) ซึ่งมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ช่วงการหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นพ. ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชน ขอหารือว่ากรณีที่มีกลุ่มการเมืองไปใช้หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการอภิปรายด่าคนนั้นคนนี้ รวมถึง ครม.และส.ส.ทั้งหมดโดยอ้างว่าเป็นการสัมมนา แต่จริงๆแล้ว กลับให้นักศึกษาใช้คำพูดไม่สุภาพ ด่าส.ส.ว่า ส.ส.สระเอีย หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าใช้คำพูดที่ " ถ่อย" จึงขอฝากให้กระทรวงศึกษาธิการ มาดูแลด้วยว่า อธิการบดีคนไหนไม่เป็นกลางทางการเมือง เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกให้ด่ากันออกทีวี พูดเลยว่า คือ ASTV ซึ่งตนสงสัยว่าศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวมาแล้ว 2 ปี เหมือนการคุ้มครองถาวร
ขณะที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่า ส.ส.ในสภาหลายคนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และขอให้ถอนคำพูดที่หาว่าการชุมนุมนักศึกษาถ่อย แต่พ.อ.อภิวันท์ กลับวินิจฉัยว่า คำว่า "ถ่อย" ไมใช่คำไม่สุภาพ เพราะเป็นคำวิเศษณ์ที่อยู่ในพจนานุกรม แปลว่าไม่ดี ไม่งาม และผู้อภิปรายไม่ได้เอ่ยชื่อใคร
ขณะที่นาย บุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงประธานฯว่า ขอประธานฯยืนยันให้ชัดว่า คำดังกล่าวไม่ใช่คำไม่สุภาพ ซึ่งพ.อ.อภิวันท์ ยืนยันอีกครั้งตามที่วินิจฉัย
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ต่อไปถ้าใครไม่ดี ตนอภิปรายในสภาใช้คำว่า "ถ่อย" ได้หรือไม่ ทำให้มีการประท้วงระหว่างพรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ อีกเล็กน้อย ก่อนพ.อ.อภิวันท์ จะให้นพ. ประสิทธิ์ ถอนคำดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ประสิทธิ์ ได้ถอน และอภิปรายต่อว่า ขอให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อบรมสมาชิกพรรคด้วย ที่ปล่อยให้ส.ส.ของตัวเอง ไปเปิดเวทีพูดโจมตีรัฐบาล เอ่ยถึง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ด่าไปถึงส.ส. ว่า ส.ส.สระเอีย ใช้คำพูดไม่สุภาพ นอกจากนี้งิ้วธรรมศาสตร์กลายเป็นงิ้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปหมดแล้ว ตอนนี้ไม่รู้บ้านเมืองเป็นอะไรไปหมด ขอท้าให้พันธมิตรฯมาตั้งพรรคการเมือง เอานายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าพรรค นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นโฆษก ส่วนนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ให้มาเป็นเลขาฯ ถ้าอยู่พรรคปัจจุบันไม่มีความสุข
จากนั้นนาย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ผู้อภิปราย อ้างถึงบุคคลภายนอก ดูจะไม่สมฐานะ ส่วนที่มีการโจมตีการชุมนุมในวันที่ 28 มี.ค. วันนั้น มี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกกลุ่ม อยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเหตุอะไรเกิดขึ้นบ้างก็ทราบกันอยู่ ก็ให้พิจารณากันเองว่า กลุ่มไหนควรจะใช้คำตามที่ถกเถียงกันอยู่
" ผมจะไม่มาต่อสู้กับคนพวกนี้ เพราะผมมีเป้าหมายชัดเจนที่คนๆ เดียว ถ้าเห็นว่า ผมทำผิดรัฐธรรมนูญ ก็เข้าชื่อถอดถอนได้ตามมาตรา 270 อย่ามากระแนะกระแหน เพราะผมไม่สนใจหรอก ถ้าเห็นว่า ผมทำผิด มาตรา 45 บุคคลย่อมมีเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น มาตรา 63 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และมาตรา 64 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมตัวกันเป็นพันธมิตรฯ ก็ใช้กลไกเลย เพราะส.ส.ได้ปฏิญาณตนตาม มาตรา 123 อยู่แล้วว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ อย่ามากระแนะกระแหนผม เจอผมที่ไหนก็ได้ "
อย่างไรก็ตามพ.อ.อภิวันท์ ประธานในที่ประชุมได้ตัดบทว่า ขอสมาชิกอย่าไป ถือสาหาความกัน หนักนิดเบาหน่อยขอให้ให้อภัยกัน และให้ดำเนินการประชุมต่อไป
หลังอภิปรายเสร็จ นายสมเกียรติ ได้เดินออกจากห้องประชุมเพื่อเข้าไปรับประทานอาหาร บนชั้น 2 อาคารรัฐสภา พร้อมด้วยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคน เช่น นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา นายโกวิทย์ ธรานา ส.ส.กทม. ปรากฏนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน พร้อมด้วยอดีต ส.ก.เขตดอนเมือง ได้เดินเข้ามาให้ห้อง รับประทานอาหาร พร้อมถามนายสมเกียรติ ด้วยเสียงดังว่า " ไอ้สัตว์ เมื่อกี้ มึงว่าใคร " ก่อนกระโดดถีบ นายสมเกียรติ เข้าบริเวณต้นขาขวา ทำให้นายสมเกียรติ ถึงกับเซ จากนั้นได้พยายามชกอีกครั้งแต่ถูกนายนิพนธ์ และนายโกวิทย์ ห้ามไว้ ทำให้นายการุณ ไม่พอใจ และหันไปด่าทอ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า "จะรุมกูเหรอ" นายโกวิทย์ จึงตะโกนว่า " กูไม่ได้รุม แต่กูเข้ามาห้าม" ทำให้ นายการุณ ไม่พอใจและด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมแล้ว กว่า 50 คำ
จากนั้น นายการุณ ได้เดินออกจากห้องรับประทานอาหาร แล้วเดินกลับเข้ามา อีกครั้งพร้อมด้วยนายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส.กทม.เขตเดียวกันเข้าในห้องพร้อมกับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เริ่มชุลมุนเมื่อมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาสมทบอาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค เพื่อที่จะเคลียร์ปัญหา ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่ง ได้กรุเข้ามาให้ห้องรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน จนทำให้สถานการณ์โกลาหลขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมา นายชัย ชิดชอบ ประธานวิปรัฐบาล พร้อม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้เดินเข้ามา เคลียร์สถานการณ์ กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย นายการุณ ได้ปรี่เข้ามาตะโกนด่าอีกชุดใหญ่ ทำให้นายชัย เดินเข้ามาล็อคพร้อมกอดคอพา นายการุณ เข้าไปสงบสติอารมณ์ ที่ห้อง วิปรัฐบาล ที่ชั้น 2
ผู้สื่อข่าวรายวานว่าเมื่อนายชัย ได้ดึงนายการุณไปหารือในห้องวิปรัฐบาล นานประมาณ 15 นาที จากนั้นนายการุณ ได้ออกจากห้องเมื่อเห็นสื่อมวลชน ที่รอทำข่าว ถึงกับรีบวิ่งแจ้นหลบไปทันที
หลังจากเหตุการณ์สงบลงนายสมเกียรติ ให้สัมภาษณ์ ว่าหลังจากที่อภิปราย กำลังจะมารับประทานอาหารอยู่ได้มีเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งเข้ามาถีบ แล้ว นายนิพนธ์ ก็เข้ามาห้ามไว้ ซึ่งตนไม่ได้ตอบโต้อะไร ขอยืนยันว่าถูกถีบจริงๆ โดยเซเพียงเล็กน้อย เรื่องนี้คงให้สังคมเป็นผู้ตัดสินเพราะสังคมก็มีจริยธรรมขั้นพื้นฐานอยู่ นอกจากนี้ นายการุณ ได้กล่าวหาด้วยถ้อยคำ ที่ไม่สุภาพกับตนหลายคำแต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้สักประโยค
" ส.ส.ถูกจำกัดด้วย 2 กรอบ กรอบแรก เป็นกอบประมวลจริยธรรมของ ส.ส.และกรอบที่สองจริยธรรมของสังคมที่ประชาชนต้องมองดู ผมเป็น ส.ส.สมัยแรกนับเป็นเกียรติที่มี ส.ส.รัฐบาลมาถีบผมและถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต ผมคิดว่าฝ่ายนั้น น่าจะหาทางออกด้วยสติปัญญา เพราะสภาแห่งนี้ เป็นสภาแห่งปัญญา เป็นสภาที่แก้ปัญหาด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่สภาของนักเลงข้างถนน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมเกียรติ ยืนให้สัมภาษณ์อยู่นั้น ได้มี ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้ยืนสังเกตการณ์อยู่จนกระทั่ง นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้ตะโกนว่า "ก็ท้าเค้าก่อน เปิดเทปฟังได้"
จากนั้นนายสมเกียรติได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชั้น 3 ห้องผู้นำฝ่ายค้านฯ เป็นเวลา 10 นาทีก่อนเข้าร่วมประชุมวิปฝ่ายค้าน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย วิปฝ่ายค้าน แถลงว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่ก่อเหตุมีเจตนาคุกคาม ทำร้าย นายสมเกียรติ โดยที่นายสมเกียรติ ไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ แต่นายการุณ กลับเดินเข้ามาจะทำร้ายอีกครั้งหลังจากถูกแยกตัวออกไป ถือเป็นการกระทำที่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีการเตรียมการกันไว้ โดยกลุ่มคนที่ไม่พอใจนายสมเกียรติ น่าจะมีส่วนรู้เห็นทำให้เกิดเหตุขึ้น
ดังนั้นฝ่ายค้านจึงมีมติมอบหมายให้นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นทนายความ พานายสมเกียรติ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายการุณ ข้อหาทำร้ายร่างกาย และหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ที่สน.ดุสิต เพราะไม่ใช่การทะเลาะของคนเพียงสองคน แต่มีเจตนาคุกคามการปฏิบัติหน้าของส.ส. นอกจากนี้ฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมสภาเพื่อให้ประธานสภาฯตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่า ผิดข้อบังคับการประชุมเรื่องประมวลจริยธรรมส.ส. จึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก อีกทั้งขอเรียกร้องให้พรรคพลังประชาชนที่เป็นต้นสังกัดของ นายการุณ แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
นายยศ ตันสกุล นิสิตคณะสังคมศาสตร์ ปี 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในนักศึกษาที่ขึ้นสัมมนาเวทีพันธมิตรฯ เรื่อง "เสียงสะท้อนคนรุ่นใหม่...จะฝ่าข้ามการเมืองที่น่าอึดอัด เบื่อหน่าย และไร้ความหวังได้อย่างไร" เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า หากมีการกล่าวคำพูดหยาบคายบนเวทีออกมาจริง ก็ต้องขออภัย ด้วยประสบการณ์ยังน้อยอาจทำให้นักศึกษากล่าวคำไม่เหมาะสมออกไป แต่อยากให้ ส.ส.ระบุชื่อว่าเป็นใคร แล แม้ว่าจะมีการกล่าวคำหยาบคำนั้นออกมา แต่เหตุการณ์ที่ ส.ส.ใช้กำลังกระโดดถีบและด่าทอ ส.ส.ด้วยกันในวันนี้ ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า คำพูดของนักศึกษาในวันนั้นเป็นจริง การพูดคำหยาบอาจจะไม่เหมาะสมแต่ก็ยอมรับได้ มากกว่าการที่ ส.ส.ใช้กำลังซึ่งตนและคนไทยยอมรับไม่ได้
สำหรับนายการุณ ถือว่าเป็นบุคคลที่เคยก่อคดีมาแล้วหลายครั้ง เช่น ต้นเดือนมี.ค. 2548 ทีมงานหาเสียงของพรรคชาติไทย เข้าแจ้งความ สน.ดอนเมือง ว่า ถูกนายการุณ โหสกุล ทำร้ายร่างกาย โดยถูกเตะเข้าที่แขนซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ
ปีเดียวกันนายการุณ ยังมีคดีความทำร้าย นางรัชดาวรรณ เกตุสะอาด ส.ก.เขตดอนเมืองในขณะนั้น และเป็นอดีตภรรยาตนเอง ที่กลางสนามบินดอนเมือง
ขณเดียวกันนายการุณ ยังถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับเงินฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2496 ม.27 ลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลบเลี่ยงภาษีศุลกากร เป็นเงินจำนวน 30,254,052 บาท
ต่อมาศาลฎีกายังมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของ นายการุณ เพราะมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศยกเลิกใบปริญญาบัตรของนายการุณ
ในเดือนส.ค.2549 นายเจริญ สารไทสง อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท อุดมสุข จำกัด เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่าถูก นายการุณ กับพวก ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และพูดจากข่มขู่จะทำร้ายอีก
นายการุณ ยังตกเป็นผู้ต้องหาทำร้าย พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย รอง ผกก. 2 บก.ป. ขณะเข้าไปสืบสวนหาข่าวการเล่นพนันไก่ชน ภายในสนามชนไก่คลอง 5 หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จนใต้ตาแตก ขณะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาลธัญบุรี
