“สุเทพ” มั่นใจชนะคดีฟ้อง “เป็ดเหลิม” เย้ยมีสิทธิติดคุก สนองความต้องการ ฮึ่ม หาก ดีเอสไอ ทำให้ บ.ศรีสุบรรณ ฟาร์มเสียหายเจอฟ้องอีก ด้าน “เป็ดเหลิม” ก็าบ ก๊าบ หนี อ้างไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แค่บอกว่าที่ดินดังกล่าวออกเอกสานสิทธิไม่ได้ ทำขู่หากเบิกความเท็จเจอฟ้องกลับ พร้อมหอบช้อมูลแจงพรรคเหตุตามเล่นงาน “สุเทพ” ขณะที่ ดีเอสไอ ลงพื้นที่สอบชาวบ้าน หวังเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ แนะใครเสียหายฟ้องเรียกค่าเสียหายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว วานนี้ (1 เม.ย.) แสดงความมั่นใจว่า จะชนะคดีหลังจากได้มอบหมายให้นายผดุลเกียรติ พรหมแก้ว ทนายความของบริษัทฯ ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยในส่วนคดีแพ่งนั้น ตนได้ฟ้อง หมิ่นประมาท ร.ต.อ.เฉลิม ฐานเป็นเจ้าพนักงานใส่ความให้ร้ายบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด ให้ได้รับความเสียหาย พร้อมเรียกค่าเป็นเงิน 100 ล้านบาท และยื่นฟ้องอาญา ร.ต.อ.เฉลิม อีกหนึ่งกระทงฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบใช้อำนาจไปสั่งการให้กรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ บริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด
“งานนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องตกเป็นจำเลยหลายกระทง ถ้าหากแพ้คดีขึ้นมาก็ถึงขั้นต้องติดคุกติดตาราง ที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะผมเห็นว่าร.ต.อ.เฉลิมมีความตั้งอกตั้งใจ เรื่องนี้เป็นพิเศษ จึงต้องตอบสนองความตั้งใจของท่านมากหน่อย ที่ผ่านมา ร.ต.อ. เฉลิม มักจะคุยว่าจบปริญญาเอกทางกฎหมายมา ดังนั้นในเมื่อท่านบอกว่าจะเป็น ทนายความต่อสู้คดีเองก็เป็นเรื่องดี ท่านจะได้แสดงความรู้สามารถที่อุตส่าห์ไปร่ำ เรียนมา ผมคิดว่าเวลานี้ท่านไม่ต้องมาตอบโต้แล้ว ผมแนะนำให้ท่านรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีจะดีกว่า”
นายสุเทพ กล่าวว่า นอกจากตนจะยื่นฟ้องร.ต.อ.เฉลิมแล้ว ขณะนี้กำลังติดตาม ดูความเคลื่อนไหวของหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงยุติธรรม ที่เข้ามาตรวจสอบ เอกสารสิทธิ ของบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด เพราะถ้าหากพบว่าบุคคล 2-3 ราย มีส่วนทำให้บริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด ต้องได้รับความเสียหาย ตนก็พร้อมที่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบุคคลเหล่านี้เพิ่มเติมเช่นกัน
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่ถือเป็นสิทธิของบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดี ส่วนตนก็มีสิทธิต่อสู้คดี โดยจะเป็นทนายความให้ตัวเองร่วมกับทนายคู่ใจอีกคนเพื่อต่อสู้คดี
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดูรายละเอียดคำฟ้องและคำเบิกความว่า เป็นการเบิกความเท็จหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่เคยกล่าวหาหรือให้สัมภาษณ์ว่า บริษัท ศรีสุบรรณฯ บุกรุกที่สาธารณะหรือทำผิด เพียงแต่บอกว่าที่ดินดังกล่าวไม่สามารถ ออกเอกสารสิทธิได้ หากมีการออกเอกสารสิทธิก็ถือว่าผิด เมื่อผิดตั้งแต่ต้นก็ถือว่าผิด จะอ้างว่าถือครองมานานเท่าใดแล้วไม่ได้ ที่สำคัญคดีการรุกที่สาธารณะไม่มีอายุความ เมื่อพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการเพิกถอน แต่ที่ผ่านมากรมที่ดินอาจจะไม่กล้า แต่เมื่อตนเข้ามาทำหน้าที่ได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ห้ามไปกลั่นแกล้งใคร ตนบอกอธิบดีกรมที่ดินไปแล้วว่า ถ้าตรวจแล้วพบว่า ถ้าผิดก็ต้องถอน เอกสารสิทธิ ถ้าไม่ผิดก็อย่าไปยุ่ง
“แต่ที่ผมไม่เข้าใจ คือ ไปฟ้องกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลยที่ 2 ทำไม ในเมื่อผมเองเป็นคนให้สัมภาษณ์ มีตัวตนชัดเจน กระทรวงมหาดไทยเป็นสถาบัน แล้วจะไปฟ้องทำไม ถ้าจะฟ้องไม่ฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษออกมาบอกชัดเจนว่ามีที่ 700 กว่าไร่ ออกเอกสารสิทธิ โดยผิดกฎหมาย แต่เอาเถอะ เขาจะฟ้องก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าหลังจากเบิกความแล้วพบว่า เป็นเท็จ แล้วโยงไปเรื่องฟ้องเท็จได้ ก็จะฟ้องกลับโดยจะไม่เรียกค่าเสียหายสักบาท แต่จะฟ้องคดีอาญา เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างของคนที่ฟ้องร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำไว้ว่าไม่มีใครมาหยุดผมได้ ผมต้องเอาคนผิดมาติดคุก แต่เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะคนฟ้องคือบริษัท ศรีสุบรรณฯ ไม่ใช่นายสุเทพ”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการฟ้องร้องครั้งนี้จะไม่ทำให้การดำเนินการ ของกระทรวงมหาดไทยในเรื่องรุกที่ดินสาธารณะลดความจริงจังอย่างแน่นอน ตอนนี้กำลังรุกคืบเอาคนผิดมาลงโทษทั้งที่เกาะสมุย ภูเก็ต ท่าเรือขนอม ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และไม่ลำบากใจอะไรทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคพลังประชาชน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรึ่ง ได้นำเอกสาร ได้นำเอกสารกรณีที่บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม ฟ้องอาญาและแพ่ง กรณีถูกกล่าวหาว่าครอบครองที่ดิน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี โดยมิชอบ พร้อม เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท มาชี้แจงต่อที่ประชุมว่า การกล่าวหาของนายสุเทพนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการเล่นการเมืองเพื่อสร้างความเสียหายเท่านั้น
วันเดียวกัน นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครอง ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีนายธนารักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยมีและขายที่ดินให้กับบริษัทไทยมาเลเชียน เกษตร จำกัดว่า จากการตรวจสอบรายชื่อ บริษัท ทักษิณปาล์ม ไม่มีชื่อในการครองครอง ที่ดินจริง แต่จากการตรวจสอบข้อมูลและสอบปากคำชาวบ้าน ทราบข้อเท็จจริงว่า ทั้งสองบริษัทมีความใกล้ชิดกันมาก และอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารทางนิติบุคคลว่า มีกรรมการคนเดียวกันหรือไม่
นายสรรเสริญ กล่าวว่า ดีเอสไอได้สอบปากคำชาวบ้านพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่รู้ว่าทั้งสองบริษัทฯเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน บางคนยืนยันว่าเคยทำงานกับบริษัท ทักษิณปาล์ม และย้ายมาทำงานให้กับบริษัท ไทยมาเลเชียนเกษตร จึงไม่ใช่เรื่องแปลง ที่นายธนารักษ์ออกมาระบุว่าบริษัท ทักษิณปาล์มไม่เกี่ยวข้อง ส่วนนายวิลาส ไกรวงศ์ อดีตกำนัน ต.น้ำหัก ก็เป็นบุคคลที่คอยหาคนมาทำงานให้กับ บริษัท ทักษิณปาล์ม อย่างไรก็ตาม นายธนารักษ์ อาจจะไม่ทราบก็ได้ว่าชื่อบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องกับออกเอกสารสิทธิ์
นายสรรเสริญ กล่าวว่า ดีเอสไอทำทุกอย่างตามทีมีเอกสารหลักฐานและจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำชาวบ้าน ในพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นจะสรุปความเห็นส่งว่าควรเพิกถอนเอกสารสิทธิแปลงใดบ้าง ไปยังกรมที่ดิน หากพบว่า เป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบก็ต้องเพิกถอน ดีเอสไอทำหน้าที่ได้เพียงเท่านี้ ไม่มีหน้าที่เพิกถอน ดีเอสไอไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เพราะไม่ใช่การบุกรุก พื้นที่ป่า แต่เป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ถ้ามีการเพิกถอนเจ้าของ ที่ผู้ครอบครองแท้จริง ก็สามารถยื่นเรื่องให้กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ได้อีก ไม่มีปัญหา ส่วนบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ถูกเพิกถอนสิทธิ์ ในที่ดินดังกล่าวทางบริษัทก็ต้องไปฟ้องไล่เบี้ยเรียกค่าเสียหายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอง
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม. ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ.แต่งตั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการยาเสพติด(ปปส.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เลื่อนให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี ดีเอสไอ แทนนายสุนัย มโนมัยอุดม ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ปปท.)ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบรายชื่อบุคคลผู้สมควรแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการ ปปท. ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 จำนวน 6 คน คือ นายพิศาล พิริยะสถิต เป็นประธาน ส่วนกรรมการ 5 คนประกอบด้วย นายไสว พราหมณี อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน นายกุลพัชร์ อิทธิธรรมวินิจ นายบุญปลูก ชายเกตุ นายถวิล อินทรักษา และนายอุดม มั่งมีดี ทั้งนี้ต้องขอความเห็นชอบต่อสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาตามลำดับต่อไป
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว วานนี้ (1 เม.ย.) แสดงความมั่นใจว่า จะชนะคดีหลังจากได้มอบหมายให้นายผดุลเกียรติ พรหมแก้ว ทนายความของบริษัทฯ ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยในส่วนคดีแพ่งนั้น ตนได้ฟ้อง หมิ่นประมาท ร.ต.อ.เฉลิม ฐานเป็นเจ้าพนักงานใส่ความให้ร้ายบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด ให้ได้รับความเสียหาย พร้อมเรียกค่าเป็นเงิน 100 ล้านบาท และยื่นฟ้องอาญา ร.ต.อ.เฉลิม อีกหนึ่งกระทงฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบใช้อำนาจไปสั่งการให้กรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ บริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด
“งานนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องตกเป็นจำเลยหลายกระทง ถ้าหากแพ้คดีขึ้นมาก็ถึงขั้นต้องติดคุกติดตาราง ที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะผมเห็นว่าร.ต.อ.เฉลิมมีความตั้งอกตั้งใจ เรื่องนี้เป็นพิเศษ จึงต้องตอบสนองความตั้งใจของท่านมากหน่อย ที่ผ่านมา ร.ต.อ. เฉลิม มักจะคุยว่าจบปริญญาเอกทางกฎหมายมา ดังนั้นในเมื่อท่านบอกว่าจะเป็น ทนายความต่อสู้คดีเองก็เป็นเรื่องดี ท่านจะได้แสดงความรู้สามารถที่อุตส่าห์ไปร่ำ เรียนมา ผมคิดว่าเวลานี้ท่านไม่ต้องมาตอบโต้แล้ว ผมแนะนำให้ท่านรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีจะดีกว่า”
นายสุเทพ กล่าวว่า นอกจากตนจะยื่นฟ้องร.ต.อ.เฉลิมแล้ว ขณะนี้กำลังติดตาม ดูความเคลื่อนไหวของหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงยุติธรรม ที่เข้ามาตรวจสอบ เอกสารสิทธิ ของบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด เพราะถ้าหากพบว่าบุคคล 2-3 ราย มีส่วนทำให้บริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด ต้องได้รับความเสียหาย ตนก็พร้อมที่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบุคคลเหล่านี้เพิ่มเติมเช่นกัน
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่ถือเป็นสิทธิของบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดี ส่วนตนก็มีสิทธิต่อสู้คดี โดยจะเป็นทนายความให้ตัวเองร่วมกับทนายคู่ใจอีกคนเพื่อต่อสู้คดี
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดูรายละเอียดคำฟ้องและคำเบิกความว่า เป็นการเบิกความเท็จหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่เคยกล่าวหาหรือให้สัมภาษณ์ว่า บริษัท ศรีสุบรรณฯ บุกรุกที่สาธารณะหรือทำผิด เพียงแต่บอกว่าที่ดินดังกล่าวไม่สามารถ ออกเอกสารสิทธิได้ หากมีการออกเอกสารสิทธิก็ถือว่าผิด เมื่อผิดตั้งแต่ต้นก็ถือว่าผิด จะอ้างว่าถือครองมานานเท่าใดแล้วไม่ได้ ที่สำคัญคดีการรุกที่สาธารณะไม่มีอายุความ เมื่อพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการเพิกถอน แต่ที่ผ่านมากรมที่ดินอาจจะไม่กล้า แต่เมื่อตนเข้ามาทำหน้าที่ได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ห้ามไปกลั่นแกล้งใคร ตนบอกอธิบดีกรมที่ดินไปแล้วว่า ถ้าตรวจแล้วพบว่า ถ้าผิดก็ต้องถอน เอกสารสิทธิ ถ้าไม่ผิดก็อย่าไปยุ่ง
“แต่ที่ผมไม่เข้าใจ คือ ไปฟ้องกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลยที่ 2 ทำไม ในเมื่อผมเองเป็นคนให้สัมภาษณ์ มีตัวตนชัดเจน กระทรวงมหาดไทยเป็นสถาบัน แล้วจะไปฟ้องทำไม ถ้าจะฟ้องไม่ฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษออกมาบอกชัดเจนว่ามีที่ 700 กว่าไร่ ออกเอกสารสิทธิ โดยผิดกฎหมาย แต่เอาเถอะ เขาจะฟ้องก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าหลังจากเบิกความแล้วพบว่า เป็นเท็จ แล้วโยงไปเรื่องฟ้องเท็จได้ ก็จะฟ้องกลับโดยจะไม่เรียกค่าเสียหายสักบาท แต่จะฟ้องคดีอาญา เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างของคนที่ฟ้องร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำไว้ว่าไม่มีใครมาหยุดผมได้ ผมต้องเอาคนผิดมาติดคุก แต่เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะคนฟ้องคือบริษัท ศรีสุบรรณฯ ไม่ใช่นายสุเทพ”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการฟ้องร้องครั้งนี้จะไม่ทำให้การดำเนินการ ของกระทรวงมหาดไทยในเรื่องรุกที่ดินสาธารณะลดความจริงจังอย่างแน่นอน ตอนนี้กำลังรุกคืบเอาคนผิดมาลงโทษทั้งที่เกาะสมุย ภูเก็ต ท่าเรือขนอม ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และไม่ลำบากใจอะไรทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคพลังประชาชน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรึ่ง ได้นำเอกสาร ได้นำเอกสารกรณีที่บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม ฟ้องอาญาและแพ่ง กรณีถูกกล่าวหาว่าครอบครองที่ดิน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี โดยมิชอบ พร้อม เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท มาชี้แจงต่อที่ประชุมว่า การกล่าวหาของนายสุเทพนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการเล่นการเมืองเพื่อสร้างความเสียหายเท่านั้น
วันเดียวกัน นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครอง ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีนายธนารักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยมีและขายที่ดินให้กับบริษัทไทยมาเลเชียน เกษตร จำกัดว่า จากการตรวจสอบรายชื่อ บริษัท ทักษิณปาล์ม ไม่มีชื่อในการครองครอง ที่ดินจริง แต่จากการตรวจสอบข้อมูลและสอบปากคำชาวบ้าน ทราบข้อเท็จจริงว่า ทั้งสองบริษัทมีความใกล้ชิดกันมาก และอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารทางนิติบุคคลว่า มีกรรมการคนเดียวกันหรือไม่
นายสรรเสริญ กล่าวว่า ดีเอสไอได้สอบปากคำชาวบ้านพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่รู้ว่าทั้งสองบริษัทฯเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน บางคนยืนยันว่าเคยทำงานกับบริษัท ทักษิณปาล์ม และย้ายมาทำงานให้กับบริษัท ไทยมาเลเชียนเกษตร จึงไม่ใช่เรื่องแปลง ที่นายธนารักษ์ออกมาระบุว่าบริษัท ทักษิณปาล์มไม่เกี่ยวข้อง ส่วนนายวิลาส ไกรวงศ์ อดีตกำนัน ต.น้ำหัก ก็เป็นบุคคลที่คอยหาคนมาทำงานให้กับ บริษัท ทักษิณปาล์ม อย่างไรก็ตาม นายธนารักษ์ อาจจะไม่ทราบก็ได้ว่าชื่อบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องกับออกเอกสารสิทธิ์
นายสรรเสริญ กล่าวว่า ดีเอสไอทำทุกอย่างตามทีมีเอกสารหลักฐานและจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำชาวบ้าน ในพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นจะสรุปความเห็นส่งว่าควรเพิกถอนเอกสารสิทธิแปลงใดบ้าง ไปยังกรมที่ดิน หากพบว่า เป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบก็ต้องเพิกถอน ดีเอสไอทำหน้าที่ได้เพียงเท่านี้ ไม่มีหน้าที่เพิกถอน ดีเอสไอไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เพราะไม่ใช่การบุกรุก พื้นที่ป่า แต่เป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ถ้ามีการเพิกถอนเจ้าของ ที่ผู้ครอบครองแท้จริง ก็สามารถยื่นเรื่องให้กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ได้อีก ไม่มีปัญหา ส่วนบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ถูกเพิกถอนสิทธิ์ ในที่ดินดังกล่าวทางบริษัทก็ต้องไปฟ้องไล่เบี้ยเรียกค่าเสียหายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอง
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม. ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ.แต่งตั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการยาเสพติด(ปปส.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เลื่อนให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี ดีเอสไอ แทนนายสุนัย มโนมัยอุดม ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ปปท.)ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบรายชื่อบุคคลผู้สมควรแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการ ปปท. ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 จำนวน 6 คน คือ นายพิศาล พิริยะสถิต เป็นประธาน ส่วนกรรมการ 5 คนประกอบด้วย นายไสว พราหมณี อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน นายกุลพัชร์ อิทธิธรรมวินิจ นายบุญปลูก ชายเกตุ นายถวิล อินทรักษา และนายอุดม มั่งมีดี ทั้งนี้ต้องขอความเห็นชอบต่อสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาตามลำดับต่อไป