เอเอฟพี – บรรดาผู้บริหารระดับท็อปของกิจการยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ต่างอยู่ในอารมณ์มองภาพเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัยอย่างมืดมนที่สุดในรอบ 4 ปี สืบเนื่องจากการที่เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวและค่าเงินเยนก็แข็งโป๊ก ทั้งนี้ตามผลการสำรวจจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ หรือ ดัชนี “ตังกัง” รอบไตรมาสล่าสุด ซึ่งธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น(บีโอเจ) นำออกมาเผยแพร่เมื่อวานนี้(1)
บีโอเจจัดทำดัชนีตังกัง ด้วยการสอบถามผู้บริหารของบริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นกว่า 10,000 ราย โดยที่จะนำเอาจำนวนของผู้มองภาพทิศทางเศรษฐกิจในเชิงลบมาหักออกจากจำนวนผู้มองภาพในเชิงบวก ปรากฏว่าสำหรับรายงานล่าสุดประจำไตรมาสซึ่งสิ้นสุดเดือนมีนาคมนี้ ในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ คะแนนความมั่นใจได้ลดลงมาเหลือ 11 จากที่เคยอยู่ในระดับ 19 ในไตรมาสเดือนธันวาคม นับเป็นการลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 อีกทั้งเป็นระดับซึ่งเลวร้ายที่สุดนับแต่เดือนธันวาคม 2003
ผลการสำรวจคราวนี้ยังพบว่า จากการที่ภาคบรรษัทญี่ปุ่นคาดหมายกันว่า ผลกำไรที่พุ่งทำลายสถิติอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาระยะหนึ่งแล้ว น่าจะมาถึงจุดหมดแรงกันแล้วในปีนี้ ดังนั้น บริษัทจำนวนมากจึงบอกว่าวางแผนจะลดการลงทุนใช้จ่ายในเรื่องเครื่องจักรอุปกรณ์และโรงงานใหม่ๆ
บีโอเจจัดทำดัชนีตังกัง ด้วยการสอบถามผู้บริหารของบริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นกว่า 10,000 ราย โดยที่จะนำเอาจำนวนของผู้มองภาพทิศทางเศรษฐกิจในเชิงลบมาหักออกจากจำนวนผู้มองภาพในเชิงบวก ปรากฏว่าสำหรับรายงานล่าสุดประจำไตรมาสซึ่งสิ้นสุดเดือนมีนาคมนี้ ในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ คะแนนความมั่นใจได้ลดลงมาเหลือ 11 จากที่เคยอยู่ในระดับ 19 ในไตรมาสเดือนธันวาคม นับเป็นการลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 อีกทั้งเป็นระดับซึ่งเลวร้ายที่สุดนับแต่เดือนธันวาคม 2003
ผลการสำรวจคราวนี้ยังพบว่า จากการที่ภาคบรรษัทญี่ปุ่นคาดหมายกันว่า ผลกำไรที่พุ่งทำลายสถิติอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาระยะหนึ่งแล้ว น่าจะมาถึงจุดหมดแรงกันแล้วในปีนี้ ดังนั้น บริษัทจำนวนมากจึงบอกว่าวางแผนจะลดการลงทุนใช้จ่ายในเรื่องเครื่องจักรอุปกรณ์และโรงงานใหม่ๆ