“ผบ.ทอ.” ยันข่าวปฏิวัติไม่ทำให้รัฐบาลและกองทัพเกิดความหวาดระแวงต่อกัน ส่วนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯไม่น่าห่วง ชี้เป็นความตั้งใจสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในอนาคต “มาร์ค” จี้ใช้กฎหมายจัดการคนจ้องปฏิวัติ หากมีมูลจริง เย้ย “หมัก” เห็นภาพหลอน กลัวเกิดปฏิวัติ ด้าน “ลิ่วล้อแม้ว” เตรียมจัดชุมนุม 10 เม.ย. เล็งใช้หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ จัดเสวนา “รู้ทันพันธมิตรฯ” แต่หอประชุมไม่ว่างยาวไปถึง ม.ค.ปีหน้า
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารว่า ไม่ได้ทำให้นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และผู้นำกองทัพ หวาดระแวงกัน ความสัมพันธ์ยังดีอยู่ ยังพบปะและพูดคุยกันดี แต่บางอย่างสื่ออาจนำไปลงจน ทำให้อุณหภูมิการเมืองสูงขึ้น ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร และการเคลื่อนย้ายกำลังของกองทัพอากาศ ก็ต้องมีเหมือนกัน เพราะต้องมีการฝึกในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการฝึกในกรมกองเฉยๆไม่ได้เป็นการฝึกภาคสนาม
ส่วนที่มองว่า ข้อมูลดังกล่าวออกมาจากคนในกองทัพนั้น ตนไม่ทราบว่าต้นตอข่าวมาจากไหน ในส่วนของกองทัพอากาศไม่เกี่ยวข้อง แต่ถ้ามีการฝึกจะแจ้งให้ทราบอีกที
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาช่วงนี้เพื่อหวังผลทางการเมืองในการต่อรองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มี ทหารคงไม่ใช้ข้อมูลตรงนั้นในการต่อรองอะไร อาจจะมีคนหวังดีให้ข่าวไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งที่ตามปกติก็ต้องมีการฝึกตามระยะเวลาอยู่แล้ว ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. คงจะเล่าให้นายสมัคร ได้รับฟังแล้ว เพราะท่านไปต่างประเทศด้วยกัน คงไม่มีอะไร
“ผมยืนยันว่า ในตอนนี้ทหารทุกเหล่าทัพปฏิบัติหน้าที่ตามภาระหน้าที่ที่มี เราไมได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งสิ้น ผมคิดว่าปัญหาต่างๆเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมืองจะต้องไปดำเนินการ ไม่เกี่ยวกับกองทัพ”พ ล.อ.อ.ชลิต กล่าว
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาเคลื่อนไหว และมีกลุ่มต่อต้านเช่นกัน จะนำไปสู่สถานการณ์ตึงเครียดหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คงไม่ และคิดว่าถ้าทำด้วยความตั้งใจ ในการทำอะไรให้ประเทศในภาพรวม และ สร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในอนาคต ก็คงไม่มีปัญหา
สำหรับการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 จะทำให้คดีความที่ผ่านจาก คตส.เป็นโมฆะ หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่าไม่ทราบ และไม่รู้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่คิดว่ายังไม่ใช่ภาระหน้าที่ของทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.ชลิต ในฐานะกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากร่วมรับประทานอาหารกับกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย มูลนิธิรัฐบุรุษ และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมีพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ด้วย โดย พล.อ.อ. ชลิต กล่าวว่า พล.อ.เปรมไม่ได้พูดเรื่องสถานการณ์การเมือง เพียงแต่พูดเรื่องเพลง เท่านั้น
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมรับประทานอาหาร ประกอบด้วย พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ พล.ร.อ.ประเจตน์ ศิริเดช พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป นายอารีย์ วงศ์อารยะ นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ นายเจริญ ศิริวัฒนภักดี เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบก ว่า ภายหลังจากที่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อมวลชนว่ากองทัพบกจะไม่นำกำลังทหารออกมาปฏิวัติ พร้อมให้ความมั่นใจว่า หากยังเป็นผบ.ทบ.อยู่ จะไม่มีปฏิวัติโดยเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้ออกเอกสารชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงการเคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อฝึกภาคสนามประจำปี ระหว่างวันที่ 2- 12 เม.ย.นี้ โดยกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ จะเคลื่อนย้ายกำลังพลไปทำการฝึกที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และจะเคลื่อนย้ายกลับในวันที่ 9 และ12 เม.ย.นี้
นอกจากนี้ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) จะเคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์ไปฝึกภาคสนามระหว่างวันที่ 3- 9 เม.ย. บริเวณพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยเดินทางวันที่ 3 เม.ย. ถนนแจ้งวัฒนะ– ถนนวิภาวดีรังสิต– ถนนพหลโยธิน ไปยัง จ.ลพบุรี และเดินทางกลับในวันที่ 9 เม.ย. ตามเส้นทางเดิม
จี้ “หมัก” จับเลย อย่าดีแต่พูด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ระบุว่ามีคนส่งเอกสารแจ้งว่า มีคนจะปฏิวัติ และจ้องจะล้มรัฐบาลว่า หากเรื่องนี้มีมูล อยากจะให้นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และไม่ควรที่จะแสดงในที่สาธารณะ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาความไม่มั่นใจของชาวโลก และจะสร้างให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากจะมีการกล่าวหากันไปมา ดังนั้นในวันนี้ แทนที่รัฐบาลจะยุ่งอยู่กับทุกข์ของตัวเอง ควรที่จะรีบไปดูปัญหาที่เป็นทุกข์ของประชาชนจะดีกว่า
“อยากให้ท่านนายกรัฐมนตรี พยายามลดการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมือง และเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศ และประชาชน เพราะตอนนี้ฝ่ายค้านพยายามหลีกเลี่ยงที่จะจุดประเด็นทางการเมือง เพราะรู้ว่าต้องการที่จะให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ประชาชนรอคอยมานาน โดยเฉพาะคาดหวังจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ท่านนายกฯ น่าที่จะเดินไปในแนวนี้ จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลเอง”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการออกมาพูดของนายกรัฐมนตรี เป็นการตีกันกลัวว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเจตนาของนายกฯ แต่อยากจะแนะนำว่า ขอให้ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชนมากกว่า
เย้ย “หมัก” กลัวภาพหลอน
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบถึงกระแสข่าวการทำปฏิวัติ และไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่คิดทำปฏิวัตินั้น ชี้ให้เห็นว่า นายสมัคร ไม่รู้จริง และไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ การที่อ้างว่าหากบอกไปเกรงจะตกหลุมพรางที่สื่อขุดเอาไว้ ตนคิดว่า ไม่มีใครขุดหลุมดักนายสมัคร แต่เป็นนายสมัคร ที่ขุดหลุม และติดกับดักตัวเองมากกว่า แล้วมาตีโพยตีพายว่ามีคนพยายามถามคำถามยัดใส่ปาก จึงต้องพูดออกไป จะเห็นว่า นายสมัคร มีพฤติกรรมแบบนี้ทุกครั้งที่ถูกกระแสสังคมต่อต้าน เพราะหากยังจำกันได้ เมื่อไม่นานมานี้ นายสมัคร เคยนำเสนอแนวคิดการเปิดบ่อนกาสิโน แต่พอถูกกระแสสังคมต่อต้านอย่างหนัก ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ และโยนความผิดให้กับผู้ชมรายการจากทางบ้าน ที่สอบถามมา ตนคิดว่านายสมัคร กำลังใช้ความเป็นอดีตนักโต้วาที แก้ตัวน้ำขุ่นๆ เพียงเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น
“นายสมัครกำลังกลัวภาพหลอนเรื่องการปฏิวัติ เพราะตัวเองเติบโตและได้ดิบได้ดีมาในยุคของเผด็จการ มาโดยตลอด ท่านคงกลัวว่าเวรกรรมจะตามสนอง จึงคิดเรื่องการทำปฏิวัติขึ้นมา เพื่อจุดประสงค์บางอย่างเท่านั้น”
ส่วนการที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยืนยันว่าทหารยุคนี้ไม่มีปฏิวัตินั้น ถือเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามการปฏิวัติเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ยากต่อการคาดเดา แต่สิ่งที่จะเป็นภูมิคุ้มกันเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ การที่รัฐบาลจะต้องซื่อสัตย์ สุจริตไม่คดโกง และไม่ทำให้สังคมเกิดความแตกแยก
อ้าง “หมัก” ตีปี๊ปให้ตื่นตัว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า แม้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. จะยืนยันว่าไม่มีการปฏิวัติ แต่เชื่อว่านายกฯอาจมีข้อมูล เพราะมีสายข่าวอยู่จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องออกมาปรามตามหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม เชื่อว่า คนในพรรคพลังประชาชน คงไม่สามารถเตือนนายกรัฐมนตรี ถึงบทบาทที่มีต่อสื่อได้ เพราะถือเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ นายสมัคร เปิดเผยชื่อบุคคลที่จะทำการปฏิวัติ ว่า เรื่องของการปฏิวัติ ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องออกมาสร้างความตื่นตัวให้กับประเทศ เพื่อความไม่ประมาท ถือเป็นคุณให้กับประชาธิปไตย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 19 ก.ย. 49 ใครที่กำลังมีความคิดอยู่ให้เลิกคิดที่จะปฏิวัติ ส่วนจะเป็นกลุ่มบุคคลหน้าเดิมหรือไม่นั้น ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งอีกไม่นานนี้ก็คงได้เห็น เพราะมีเงื่อนไขบางประการที่ชัดเจน และมีการสร้างสถานการณ์คล้ายกับช่วงก่อนรัฐประหาร 19 ก.ย.
“ลิ่วล้อแม้ว” เล็งนัดชุมนุม มธ.
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะโฆษกกลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ทางกลุ่มเตรียมจัดชุมนุมเสวนาการเมือง ในหัวข้อ “รู้ทันพันธมิตรฯ กับการเคลื่อนไหว” ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศษสตร์ โดยจะนำเสนอประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความเสียหายที่เกิดจากการรัฐประหาร พร้อมทั้งจะเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามาช่วยตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินโดยไม่โปร่งใสในภาคใต้ด้วย
นอกจากนี้ จะมีนักวิชาการเข้าร่วมเสวนาให้ความรู้แก่ประชาชนด้วยว่าควรทำอย่างไรให้ปลอดภัยจากเผด็จการนอกระบบ ไม่ตกเป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่การยึดอำนาจ คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
สำหรับกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุมใหญ่หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และ 309 นั้น นายประชา กล่าวว่า อยากถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯกลัวอะไรกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเพราะแก้แล้วพรรคพวกเดือดร้อนใช่หรือไม่ ส่วนที่ขู่ว่าพร้อมนำมวลชนลงมาเคลื่อนไหวต่อต้านบนท้องถนนนั้น หากรัฐบาลไม่ดำเนินการขั้นเด็ดขาดตน ก็จำเป็นต้องนำประชาชนออกมาปกป้องกฎหมายให้เป็นกฎหมายด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายประชา กล่าวว่า เมื่อตนได้ไปติดต่อไปยังสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้รับแจ้งว่า หอประชุมใหญ่ มีคิวจองเต็มยาวไป ถึงเดือนม.ค. ปีหน้า ซึ่งในเช้าวันที่ 1 เม.ย. ตนจะทำหนังสือยื่นเป็นทางการอีกครั้ง โดยเบื้องต้นทางกลุ่มฯ ต้องการใช้หอประชุมใหญ่ หากไม่ได้วันศุกร์ หรือวันหยุด จะขอใช้ในวันธรรมดา อาจเป็นวันอังคาร วันพุธ หรือวันพฤหัสบดี ก็ได้ เราพร้อมจะจัดเสวนา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายประชา ระบุว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. จะเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ขณะนี้แกนนำ นปก.ยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพียงแต่คอยสังเกตุการณ์ เพราะการต่อสู้ของนปช. ต้องรอบคอบ หากขยับอะไรแล้วอาจจะมีประชาชนมาร่วมนับหมื่น เพราะมีฐานสนับสนุนเยอะ แต่ในอนาคต เมื่อเห็นว่าบ้านเมืองมาสุดทาง มีขบวนการโค่นล้มชัดเจน ถึงเวลานั้นก็อาจจะออกมาเคลื่อนไหว
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารว่า ไม่ได้ทำให้นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และผู้นำกองทัพ หวาดระแวงกัน ความสัมพันธ์ยังดีอยู่ ยังพบปะและพูดคุยกันดี แต่บางอย่างสื่ออาจนำไปลงจน ทำให้อุณหภูมิการเมืองสูงขึ้น ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร และการเคลื่อนย้ายกำลังของกองทัพอากาศ ก็ต้องมีเหมือนกัน เพราะต้องมีการฝึกในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการฝึกในกรมกองเฉยๆไม่ได้เป็นการฝึกภาคสนาม
ส่วนที่มองว่า ข้อมูลดังกล่าวออกมาจากคนในกองทัพนั้น ตนไม่ทราบว่าต้นตอข่าวมาจากไหน ในส่วนของกองทัพอากาศไม่เกี่ยวข้อง แต่ถ้ามีการฝึกจะแจ้งให้ทราบอีกที
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาช่วงนี้เพื่อหวังผลทางการเมืองในการต่อรองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มี ทหารคงไม่ใช้ข้อมูลตรงนั้นในการต่อรองอะไร อาจจะมีคนหวังดีให้ข่าวไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งที่ตามปกติก็ต้องมีการฝึกตามระยะเวลาอยู่แล้ว ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. คงจะเล่าให้นายสมัคร ได้รับฟังแล้ว เพราะท่านไปต่างประเทศด้วยกัน คงไม่มีอะไร
“ผมยืนยันว่า ในตอนนี้ทหารทุกเหล่าทัพปฏิบัติหน้าที่ตามภาระหน้าที่ที่มี เราไมได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งสิ้น ผมคิดว่าปัญหาต่างๆเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมืองจะต้องไปดำเนินการ ไม่เกี่ยวกับกองทัพ”พ ล.อ.อ.ชลิต กล่าว
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาเคลื่อนไหว และมีกลุ่มต่อต้านเช่นกัน จะนำไปสู่สถานการณ์ตึงเครียดหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คงไม่ และคิดว่าถ้าทำด้วยความตั้งใจ ในการทำอะไรให้ประเทศในภาพรวม และ สร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในอนาคต ก็คงไม่มีปัญหา
สำหรับการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 จะทำให้คดีความที่ผ่านจาก คตส.เป็นโมฆะ หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่าไม่ทราบ และไม่รู้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่คิดว่ายังไม่ใช่ภาระหน้าที่ของทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.ชลิต ในฐานะกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากร่วมรับประทานอาหารกับกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย มูลนิธิรัฐบุรุษ และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมีพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ด้วย โดย พล.อ.อ. ชลิต กล่าวว่า พล.อ.เปรมไม่ได้พูดเรื่องสถานการณ์การเมือง เพียงแต่พูดเรื่องเพลง เท่านั้น
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมรับประทานอาหาร ประกอบด้วย พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ พล.ร.อ.ประเจตน์ ศิริเดช พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป นายอารีย์ วงศ์อารยะ นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ นายเจริญ ศิริวัฒนภักดี เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบก ว่า ภายหลังจากที่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อมวลชนว่ากองทัพบกจะไม่นำกำลังทหารออกมาปฏิวัติ พร้อมให้ความมั่นใจว่า หากยังเป็นผบ.ทบ.อยู่ จะไม่มีปฏิวัติโดยเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้ออกเอกสารชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงการเคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อฝึกภาคสนามประจำปี ระหว่างวันที่ 2- 12 เม.ย.นี้ โดยกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ จะเคลื่อนย้ายกำลังพลไปทำการฝึกที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และจะเคลื่อนย้ายกลับในวันที่ 9 และ12 เม.ย.นี้
นอกจากนี้ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) จะเคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์ไปฝึกภาคสนามระหว่างวันที่ 3- 9 เม.ย. บริเวณพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยเดินทางวันที่ 3 เม.ย. ถนนแจ้งวัฒนะ– ถนนวิภาวดีรังสิต– ถนนพหลโยธิน ไปยัง จ.ลพบุรี และเดินทางกลับในวันที่ 9 เม.ย. ตามเส้นทางเดิม
จี้ “หมัก” จับเลย อย่าดีแต่พูด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ระบุว่ามีคนส่งเอกสารแจ้งว่า มีคนจะปฏิวัติ และจ้องจะล้มรัฐบาลว่า หากเรื่องนี้มีมูล อยากจะให้นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และไม่ควรที่จะแสดงในที่สาธารณะ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาความไม่มั่นใจของชาวโลก และจะสร้างให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากจะมีการกล่าวหากันไปมา ดังนั้นในวันนี้ แทนที่รัฐบาลจะยุ่งอยู่กับทุกข์ของตัวเอง ควรที่จะรีบไปดูปัญหาที่เป็นทุกข์ของประชาชนจะดีกว่า
“อยากให้ท่านนายกรัฐมนตรี พยายามลดการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมือง และเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศ และประชาชน เพราะตอนนี้ฝ่ายค้านพยายามหลีกเลี่ยงที่จะจุดประเด็นทางการเมือง เพราะรู้ว่าต้องการที่จะให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ประชาชนรอคอยมานาน โดยเฉพาะคาดหวังจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ท่านนายกฯ น่าที่จะเดินไปในแนวนี้ จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลเอง”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการออกมาพูดของนายกรัฐมนตรี เป็นการตีกันกลัวว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเจตนาของนายกฯ แต่อยากจะแนะนำว่า ขอให้ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชนมากกว่า
เย้ย “หมัก” กลัวภาพหลอน
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบถึงกระแสข่าวการทำปฏิวัติ และไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่คิดทำปฏิวัตินั้น ชี้ให้เห็นว่า นายสมัคร ไม่รู้จริง และไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ การที่อ้างว่าหากบอกไปเกรงจะตกหลุมพรางที่สื่อขุดเอาไว้ ตนคิดว่า ไม่มีใครขุดหลุมดักนายสมัคร แต่เป็นนายสมัคร ที่ขุดหลุม และติดกับดักตัวเองมากกว่า แล้วมาตีโพยตีพายว่ามีคนพยายามถามคำถามยัดใส่ปาก จึงต้องพูดออกไป จะเห็นว่า นายสมัคร มีพฤติกรรมแบบนี้ทุกครั้งที่ถูกกระแสสังคมต่อต้าน เพราะหากยังจำกันได้ เมื่อไม่นานมานี้ นายสมัคร เคยนำเสนอแนวคิดการเปิดบ่อนกาสิโน แต่พอถูกกระแสสังคมต่อต้านอย่างหนัก ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ และโยนความผิดให้กับผู้ชมรายการจากทางบ้าน ที่สอบถามมา ตนคิดว่านายสมัคร กำลังใช้ความเป็นอดีตนักโต้วาที แก้ตัวน้ำขุ่นๆ เพียงเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น
“นายสมัครกำลังกลัวภาพหลอนเรื่องการปฏิวัติ เพราะตัวเองเติบโตและได้ดิบได้ดีมาในยุคของเผด็จการ มาโดยตลอด ท่านคงกลัวว่าเวรกรรมจะตามสนอง จึงคิดเรื่องการทำปฏิวัติขึ้นมา เพื่อจุดประสงค์บางอย่างเท่านั้น”
ส่วนการที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยืนยันว่าทหารยุคนี้ไม่มีปฏิวัตินั้น ถือเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามการปฏิวัติเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ยากต่อการคาดเดา แต่สิ่งที่จะเป็นภูมิคุ้มกันเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ การที่รัฐบาลจะต้องซื่อสัตย์ สุจริตไม่คดโกง และไม่ทำให้สังคมเกิดความแตกแยก
อ้าง “หมัก” ตีปี๊ปให้ตื่นตัว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า แม้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. จะยืนยันว่าไม่มีการปฏิวัติ แต่เชื่อว่านายกฯอาจมีข้อมูล เพราะมีสายข่าวอยู่จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องออกมาปรามตามหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม เชื่อว่า คนในพรรคพลังประชาชน คงไม่สามารถเตือนนายกรัฐมนตรี ถึงบทบาทที่มีต่อสื่อได้ เพราะถือเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ นายสมัคร เปิดเผยชื่อบุคคลที่จะทำการปฏิวัติ ว่า เรื่องของการปฏิวัติ ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องออกมาสร้างความตื่นตัวให้กับประเทศ เพื่อความไม่ประมาท ถือเป็นคุณให้กับประชาธิปไตย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 19 ก.ย. 49 ใครที่กำลังมีความคิดอยู่ให้เลิกคิดที่จะปฏิวัติ ส่วนจะเป็นกลุ่มบุคคลหน้าเดิมหรือไม่นั้น ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งอีกไม่นานนี้ก็คงได้เห็น เพราะมีเงื่อนไขบางประการที่ชัดเจน และมีการสร้างสถานการณ์คล้ายกับช่วงก่อนรัฐประหาร 19 ก.ย.
“ลิ่วล้อแม้ว” เล็งนัดชุมนุม มธ.
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะโฆษกกลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ทางกลุ่มเตรียมจัดชุมนุมเสวนาการเมือง ในหัวข้อ “รู้ทันพันธมิตรฯ กับการเคลื่อนไหว” ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศษสตร์ โดยจะนำเสนอประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความเสียหายที่เกิดจากการรัฐประหาร พร้อมทั้งจะเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามาช่วยตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินโดยไม่โปร่งใสในภาคใต้ด้วย
นอกจากนี้ จะมีนักวิชาการเข้าร่วมเสวนาให้ความรู้แก่ประชาชนด้วยว่าควรทำอย่างไรให้ปลอดภัยจากเผด็จการนอกระบบ ไม่ตกเป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่การยึดอำนาจ คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
สำหรับกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุมใหญ่หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และ 309 นั้น นายประชา กล่าวว่า อยากถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯกลัวอะไรกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเพราะแก้แล้วพรรคพวกเดือดร้อนใช่หรือไม่ ส่วนที่ขู่ว่าพร้อมนำมวลชนลงมาเคลื่อนไหวต่อต้านบนท้องถนนนั้น หากรัฐบาลไม่ดำเนินการขั้นเด็ดขาดตน ก็จำเป็นต้องนำประชาชนออกมาปกป้องกฎหมายให้เป็นกฎหมายด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายประชา กล่าวว่า เมื่อตนได้ไปติดต่อไปยังสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้รับแจ้งว่า หอประชุมใหญ่ มีคิวจองเต็มยาวไป ถึงเดือนม.ค. ปีหน้า ซึ่งในเช้าวันที่ 1 เม.ย. ตนจะทำหนังสือยื่นเป็นทางการอีกครั้ง โดยเบื้องต้นทางกลุ่มฯ ต้องการใช้หอประชุมใหญ่ หากไม่ได้วันศุกร์ หรือวันหยุด จะขอใช้ในวันธรรมดา อาจเป็นวันอังคาร วันพุธ หรือวันพฤหัสบดี ก็ได้ เราพร้อมจะจัดเสวนา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายประชา ระบุว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. จะเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ขณะนี้แกนนำ นปก.ยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพียงแต่คอยสังเกตุการณ์ เพราะการต่อสู้ของนปช. ต้องรอบคอบ หากขยับอะไรแล้วอาจจะมีประชาชนมาร่วมนับหมื่น เพราะมีฐานสนับสนุนเยอะ แต่ในอนาคต เมื่อเห็นว่าบ้านเมืองมาสุดทาง มีขบวนการโค่นล้มชัดเจน ถึงเวลานั้นก็อาจจะออกมาเคลื่อนไหว
