2551 ซึ่งเพื่อนเก่าของเรากลับบ้าน 28 เดือนกุมภาพันธ์ ชายคนนั้นทรุดลงกราบดิน ใครๆ ก็รู้ ใคร ๆ ก็คงได้ยิน ไม่ยุ่งการเมืองทั้งสิ้น ตั้งหน้าทำมาหากินลูกเดียว
เท็จจริงอย่างไร ขอดูไปอีกหลายตลบ ละครเรื่องยาวไม่จบ เรตติ้งก็ดีมีความข้องเกี่ยว ความจริงข้างใน ของใจเก็บไว้มิดเชียว หมักแค้นอารมณ์ขุ่นเขียว ขอ..ครั้งเดียวให้หนำใจตน
2551 จึงเป็นผลงานยิ่งใหญ่ ของรัฐบาลเมืองไทยเฉลิม-สมัครพรรคพังประชาชน เรือใบสีฟ้าลอยมาจอดพักจักรกล ว่าจะนำเราหลุดพ้น เชิญทุกคนเชิญขึ้นเรือใบ
คงได้รู้กัน จนถึงวันโลกาวินาศ ว่าทุนนิยมผูกขาด พาชาติของเรารอดไหม เรือใบโต้ลม ไม่รู้จะจมที่ไหน โอ้นาวาประชาชนไทย ต้องไหลไปตามอารมณ์ ถ้าอารมณ์ผู้นำเป็นไฟ เมืองไทยก็คงไม่เหลือ คนไทยอาจตายเป็นเบือ แล้วบอกว่า..ตายหนึ่งคน.
2551/ สุรชัย จันทิมาธร / 27 มี.ค.51
0 0 0 0 0 0
หลังจากขับขานได้เพียง 3 เพลง ต้องรีบไปนครสวรรค์ “น้าหงา – สุรชัย จันทิมาธร” ได้มอบต้นฉบับลายมือเพลงใหม่ล่าสุดชื่อ “2551” ให้กับผม....
อันที่จริงในวินาทีแรกที่ได้ยินน้าหงาแกร้องเพลงนี้บนเวที (หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ เมื่อ 28 มี.ค. 51) ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2548 ขึ้นมาทันที..
หลังจากรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ถูกช่อง 9 อสมท สั่งยกเลิกเมื่อ 15 ก.ย. 48 วันสองวันต่อมาน้าหงาได้เดินทางไปที่บ้านพระอาทิตย์พร้อมกีตาร์คู่ใจร้องเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จสด ๆ ให้กำลังใจคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และเพื่อนพ้องน้องพี่...
เพลงนั้นชื่อ... 2548
หลายเดือนในการชุมนุมเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง น้าหงานำชาวคาราวานเข้าร่วมขับขานการต่อสู้ด้วยความไม่ลังเลใจ แม้จะมีเสียงตะโกนทักท้วงจากเพื่อนพ้องผู้เป็นอดีตสหายที่กำลังเติบใหญ่ได้ดิบได้ดีอยู่ในพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น...
หลายเดือนของการชุมนุมมีเพลงใหม่ๆ จำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ ที่ผมจำได้แม่นก็คือเพลง “สนามหลวง”
2 ปีผ่านไป ผมแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง...น้าหงา –คาราวาน ประเดิมขึ้นเวทีเป็นวงแรกพร้อมด้วยบทเพลงบทใหม่ที่น้าหงาแกเพิ่งแต่งเสร็จก่อนร้องจริงเพียงวันเดียว..
ต้องบอกว่าเพลง 2551 เป็นเพลงการเมืองที่ไม่ต้องแปลความหมายอะไรกันมาก แต่ด้วยภาษาแบบน้าหงาทำให้บทเพลงหนักแน่นแบบไม่แข็งกระด้าง แบบว่า... “ชายคนนั้นทรุดลงกราบดิน” , “เรือใบสีฟ้าลอยมาจอดพักจักรกล” ...อ่านหรือฟังแล้วมันได้ภาพได้อารมณ์...
อันที่จริง สำหรับความเป็น “คาราวาน” วงดนตรีเพื่อชีวิต หรือ “น้าหงา – สุรชัย จันทิมาธร” ศิลปินผู้เติบโตและเปรียบเป็น “ต้นหญ้าอิสระ” พวกเขาอยู่เหนือคำว่า “ยามเฝ้าแผ่นดิน”หรือ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” แค่งัดเพลงเก่าๆ มาร้องให้ผ่านๆ ไปเพื่อรักษามิตรไมตรีเพื่อนพ้องน้องพี่ก็ย่อมทำได้...
แต่การกลับมาสู่เวทีพันธมิตรฯ พร้อมบทเพลง 2551 ที่มีเนื้อหาการเมืองเข้ม มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะบอกว่าแม้แต่คนอย่างน้าหงาที่พยายามมองโลกในแง่ดี สรรค์สร้างแต่สันติภาพ ก็ยากที่จะยอมรับกับวุฒิภาวะของผู้นำอย่าง “สมัคร –เฉลิม”
เช่นเดียวกับ คุณพี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ ที่เขียนบทกวีชิ้นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งรจนาเมื่อ 27 มี.ค. 51 และส่งแฟกซ์มาให้ (ผม) อ่านแทน ก็ไม่ลังเลที่จะซัดตรงไปตรงมาแบบภาษากวี ...เป็นกาพย์ยานี 11 ความยาว 6 บท ชื่อ “หลังหวะ”
0 ลำพองคะนองเขา ว่าเขายาวว่าเขาใหญ่
โลดมุทะลุไป ด้วยกำลังแห่งวัวเถลิง
0 เข้าฝูงก็พาฝูง กระโจนพุ่งตะเลิงตะเลิง
ตลุยเริดเตลิดกระเจิง กระจุยด่านทุกด่านทลาย
0 คลุ้มคลั่งสันหลังหวะ ด้วยโมหะบ่เคยหาย
เขาทื่อออกท้าทาย เอาทึ่มเท่อประจานไทย
0 แท้วัวสันหลังหวะ ผวาหวาดทุกเงาไหว
เห็นกามาไกลไกล ก็สะดุ้งผวากา
0 เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก ที่ถูกเห็นเป็นปัญหา
ทำผิดกฎหมายมา ว่ากฎหมายสิผิดผัน
0 วัวบ้ามาครองเมือง ก็โข่งเขื่องอัตตาตัน
ลงแซ่ประชาทัณฑ์ เสียทีเกิดประชาไทย !
................
จาก “สุรชัย จันทิมาธร” ถึง “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” จาก 2551 ถึงวัวหลังหวะ... เป็นเสียงสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าเพียงแค่เกือบ 2 เดือนบนบัลลังก์อำนาจ “สมัคร –เฉลิม” และพวกบริหารประเทศด้วยความน่าเป็นห่วงน่าขยะแขยงเพียงใด....
ผมเคยแสดงความเป็นห่วง “ลุงหมัก” ผ่านบทความมาแล้วอย่างเป็นทางการ วันนี้ก็คงจะต้องบอกกล่าวกับ “อาเหลิม” ของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ (ฮา) มาอย่างเป็นทางการด้วยว่า...ถ้ายังเดินหน้าพูดจาแบบไม่มีหูรูด ไม่มีวุฒิภาวะเพียงเพื่อแสดงให้เห็นตัวตนชัดเจนว่าจริงใจกับคนชื่อทักษิณ วันหนึ่งข้างหน้าท่านสารวัตรนินจาของผมจะเสียใจตัวเอง...
แต่พูดก็พูดเถอะครับท่านผู้อ่าน....อันที่จริงเมื่อมองสถานการณ์การเมือง 2551ทั้งกระดาน “สมัคร –เฉลิม” ก็เป็นเพียงฟืนท่อนใหญ่ที่ช่วยเผาไหม้สถานการณ์ให้ลุกโชนโชติแดงเท่านั้น ...
การแก้ไขรัฐธรรมนูญและยึดโยงอยู่กับชะตากรรมของคนคนเดียวอย่างทักษิณ คือประเด็นหลัก..คือหัวใจของสถานการณ์ปี 2551!!
ผมขอประเมินและฟันธงว่า...เดินหน้าแก้ไขเต็มสูบเมื่อไหร่...สถานการณ์จะลุกเป็นไฟเมื่อนั้น...และถึงวันนั้นเรื่องของ “วัวหลังหวะ”บางตัวก็อาจจะเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว..
2551 น่าห่วงครับ...ถ้ายังดันทุรังแก้กฎหมายล้างผิดให้ตัวเอง…อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..!!??
เท็จจริงอย่างไร ขอดูไปอีกหลายตลบ ละครเรื่องยาวไม่จบ เรตติ้งก็ดีมีความข้องเกี่ยว ความจริงข้างใน ของใจเก็บไว้มิดเชียว หมักแค้นอารมณ์ขุ่นเขียว ขอ..ครั้งเดียวให้หนำใจตน
2551 จึงเป็นผลงานยิ่งใหญ่ ของรัฐบาลเมืองไทยเฉลิม-สมัครพรรคพังประชาชน เรือใบสีฟ้าลอยมาจอดพักจักรกล ว่าจะนำเราหลุดพ้น เชิญทุกคนเชิญขึ้นเรือใบ
คงได้รู้กัน จนถึงวันโลกาวินาศ ว่าทุนนิยมผูกขาด พาชาติของเรารอดไหม เรือใบโต้ลม ไม่รู้จะจมที่ไหน โอ้นาวาประชาชนไทย ต้องไหลไปตามอารมณ์ ถ้าอารมณ์ผู้นำเป็นไฟ เมืองไทยก็คงไม่เหลือ คนไทยอาจตายเป็นเบือ แล้วบอกว่า..ตายหนึ่งคน.
2551/ สุรชัย จันทิมาธร / 27 มี.ค.51
0 0 0 0 0 0
หลังจากขับขานได้เพียง 3 เพลง ต้องรีบไปนครสวรรค์ “น้าหงา – สุรชัย จันทิมาธร” ได้มอบต้นฉบับลายมือเพลงใหม่ล่าสุดชื่อ “2551” ให้กับผม....
อันที่จริงในวินาทีแรกที่ได้ยินน้าหงาแกร้องเพลงนี้บนเวที (หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ เมื่อ 28 มี.ค. 51) ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2548 ขึ้นมาทันที..
หลังจากรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ถูกช่อง 9 อสมท สั่งยกเลิกเมื่อ 15 ก.ย. 48 วันสองวันต่อมาน้าหงาได้เดินทางไปที่บ้านพระอาทิตย์พร้อมกีตาร์คู่ใจร้องเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จสด ๆ ให้กำลังใจคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และเพื่อนพ้องน้องพี่...
เพลงนั้นชื่อ... 2548
หลายเดือนในการชุมนุมเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง น้าหงานำชาวคาราวานเข้าร่วมขับขานการต่อสู้ด้วยความไม่ลังเลใจ แม้จะมีเสียงตะโกนทักท้วงจากเพื่อนพ้องผู้เป็นอดีตสหายที่กำลังเติบใหญ่ได้ดิบได้ดีอยู่ในพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น...
หลายเดือนของการชุมนุมมีเพลงใหม่ๆ จำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ ที่ผมจำได้แม่นก็คือเพลง “สนามหลวง”
2 ปีผ่านไป ผมแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง...น้าหงา –คาราวาน ประเดิมขึ้นเวทีเป็นวงแรกพร้อมด้วยบทเพลงบทใหม่ที่น้าหงาแกเพิ่งแต่งเสร็จก่อนร้องจริงเพียงวันเดียว..
ต้องบอกว่าเพลง 2551 เป็นเพลงการเมืองที่ไม่ต้องแปลความหมายอะไรกันมาก แต่ด้วยภาษาแบบน้าหงาทำให้บทเพลงหนักแน่นแบบไม่แข็งกระด้าง แบบว่า... “ชายคนนั้นทรุดลงกราบดิน” , “เรือใบสีฟ้าลอยมาจอดพักจักรกล” ...อ่านหรือฟังแล้วมันได้ภาพได้อารมณ์...
อันที่จริง สำหรับความเป็น “คาราวาน” วงดนตรีเพื่อชีวิต หรือ “น้าหงา – สุรชัย จันทิมาธร” ศิลปินผู้เติบโตและเปรียบเป็น “ต้นหญ้าอิสระ” พวกเขาอยู่เหนือคำว่า “ยามเฝ้าแผ่นดิน”หรือ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” แค่งัดเพลงเก่าๆ มาร้องให้ผ่านๆ ไปเพื่อรักษามิตรไมตรีเพื่อนพ้องน้องพี่ก็ย่อมทำได้...
แต่การกลับมาสู่เวทีพันธมิตรฯ พร้อมบทเพลง 2551 ที่มีเนื้อหาการเมืองเข้ม มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะบอกว่าแม้แต่คนอย่างน้าหงาที่พยายามมองโลกในแง่ดี สรรค์สร้างแต่สันติภาพ ก็ยากที่จะยอมรับกับวุฒิภาวะของผู้นำอย่าง “สมัคร –เฉลิม”
เช่นเดียวกับ คุณพี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ ที่เขียนบทกวีชิ้นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งรจนาเมื่อ 27 มี.ค. 51 และส่งแฟกซ์มาให้ (ผม) อ่านแทน ก็ไม่ลังเลที่จะซัดตรงไปตรงมาแบบภาษากวี ...เป็นกาพย์ยานี 11 ความยาว 6 บท ชื่อ “หลังหวะ”
0 ลำพองคะนองเขา ว่าเขายาวว่าเขาใหญ่
โลดมุทะลุไป ด้วยกำลังแห่งวัวเถลิง
0 เข้าฝูงก็พาฝูง กระโจนพุ่งตะเลิงตะเลิง
ตลุยเริดเตลิดกระเจิง กระจุยด่านทุกด่านทลาย
0 คลุ้มคลั่งสันหลังหวะ ด้วยโมหะบ่เคยหาย
เขาทื่อออกท้าทาย เอาทึ่มเท่อประจานไทย
0 แท้วัวสันหลังหวะ ผวาหวาดทุกเงาไหว
เห็นกามาไกลไกล ก็สะดุ้งผวากา
0 เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก ที่ถูกเห็นเป็นปัญหา
ทำผิดกฎหมายมา ว่ากฎหมายสิผิดผัน
0 วัวบ้ามาครองเมือง ก็โข่งเขื่องอัตตาตัน
ลงแซ่ประชาทัณฑ์ เสียทีเกิดประชาไทย !
................
จาก “สุรชัย จันทิมาธร” ถึง “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” จาก 2551 ถึงวัวหลังหวะ... เป็นเสียงสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าเพียงแค่เกือบ 2 เดือนบนบัลลังก์อำนาจ “สมัคร –เฉลิม” และพวกบริหารประเทศด้วยความน่าเป็นห่วงน่าขยะแขยงเพียงใด....
ผมเคยแสดงความเป็นห่วง “ลุงหมัก” ผ่านบทความมาแล้วอย่างเป็นทางการ วันนี้ก็คงจะต้องบอกกล่าวกับ “อาเหลิม” ของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ (ฮา) มาอย่างเป็นทางการด้วยว่า...ถ้ายังเดินหน้าพูดจาแบบไม่มีหูรูด ไม่มีวุฒิภาวะเพียงเพื่อแสดงให้เห็นตัวตนชัดเจนว่าจริงใจกับคนชื่อทักษิณ วันหนึ่งข้างหน้าท่านสารวัตรนินจาของผมจะเสียใจตัวเอง...
แต่พูดก็พูดเถอะครับท่านผู้อ่าน....อันที่จริงเมื่อมองสถานการณ์การเมือง 2551ทั้งกระดาน “สมัคร –เฉลิม” ก็เป็นเพียงฟืนท่อนใหญ่ที่ช่วยเผาไหม้สถานการณ์ให้ลุกโชนโชติแดงเท่านั้น ...
การแก้ไขรัฐธรรมนูญและยึดโยงอยู่กับชะตากรรมของคนคนเดียวอย่างทักษิณ คือประเด็นหลัก..คือหัวใจของสถานการณ์ปี 2551!!
ผมขอประเมินและฟันธงว่า...เดินหน้าแก้ไขเต็มสูบเมื่อไหร่...สถานการณ์จะลุกเป็นไฟเมื่อนั้น...และถึงวันนั้นเรื่องของ “วัวหลังหวะ”บางตัวก็อาจจะเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว..
2551 น่าห่วงครับ...ถ้ายังดันทุรังแก้กฎหมายล้างผิดให้ตัวเอง…อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..!!??