เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกเมื่อวันศุกร์(28) และเตือนว่า อาจชะลอกระบวนการปิดโรงงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่นักวิเคราะห์มองว่า โสมแดงกำลังแสดงความโกรธวอชิงตันและรัฐบาลใหม่ของโสมขาว
การทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากเกาหลีเหนือขับไล่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ 11 คน ออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เพื่อเป็นการประท้วงที่รัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้จะใช้นโยบายแข็งกร้าวมากขึ้นต่อเปียงยาง
โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยืนยันว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจริง แต่ระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของ "การฝึกทหารตามปกติ"
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งว่า มีการทดสอบยิงขีปนาวุธ 3 หรือ 4 ลูก มุ่งหน้าไปทางทะเลเหลือง ข่าวระบุว่า ขีปนาวุธเหล่านั้นคือขีปนาวุธสติกซ์ซึ่งออกแบบโดยรัสเซีย เป็นประเภทยิงจากเรือสู่เรือ และมีพิสัย 46 กิโลเมตร
นอกจากนี้ โฆษกจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือเตือนว่า หากสหรัฐฯยังชักช้าในการแก้ไขความไม่ลงรอยกัน อาจทำให้เกาหลีเหนือชะลอการปิดโรงงานผลิตพลูโตเนียมได้
สำนักข่าวเคซีเอ็นเออ้างคำพูดของโฆษกผู้นั้นซึ่งบอกว่า สหรัฐฯเป็นผู้ขัดขวางความก้าวหน้าของการเจรจา 6 ฝ่าย โดยพยายาม "เรียกร้องอย่างไม่เป็นธรรม"
ที่ผ่านมา กระบวนการปิดโรงงานนิวเคลียร์ดำเนินไปด้วยดี แต่วอชิงตันและเปียงยางกำลังขัดแย้งกันอยู่เรื่องการเปิดเผยข้อมูลนิวเคลียร์
เกาหลีเหนือได้ส่งข้อมูลนิวเคลียร์ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่สหรัฐฯบอกว่า โสมแดงยังไม่เปิดเผยข้อมูลซึ่งต้องสงสัยเกี่ยวกับโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม และวอชิงตันยังกล่าวหาว่า เกาหลีเหนือแพร่กระจายอาวุธให้ซีเรียอีกด้วย
"หากสหรัฐฯยืนยันว่าสิ่งที่ไม่มีนั้นมีอยู่จริง และเลื่อนการแก้ปัญหาเรื่องนิวเคลียร์นี้ ก็อาจเกิดผลกระทบหนักหนาสาหัสต่อการปิดโรงงานนิวเคลียร์..." โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าว
"เราบอกชัดแล้วว่า เราไม่มีโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม เราไม่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านนิวเคลียร์กับประเทศไหน เราไม่เคยฝันจะทำเช่นนั้น จะไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น"
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาซาโอะ โอโคโนงิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีจากมหาวิทยาลัยเคโอ ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า เปียงยางกำลังส่งสัญญาณ 2 อย่าง
สัญญาณแรกส่งให้สหรัฐฯ เพื่อแสดงว่า โสมแดงไม่พอใจที่วอชิงตันมากดดันให้สารภาพเกี่ยวกับโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม รวมถึงความสัมพันธ์กับซีเรีย สัญญาณที่สองเป็นการโต้ตอบอย่างทันควันต่อรัฐบาลชุดใหม่ของเกาหลีใต้ ซึ่งประธานาธิบดีลีเมียงบัค ได้ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนท่าทีให้แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากยิ่งขึ้น
"พวกเขากำลังเตือนไม่ให้รัฐบาลโซลก้าวถอยหลังในสิ่งที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ตกลงกันไว้แล้ว" โอโคโนงิกล่าว
การทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากเกาหลีเหนือขับไล่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ 11 คน ออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เพื่อเป็นการประท้วงที่รัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้จะใช้นโยบายแข็งกร้าวมากขึ้นต่อเปียงยาง
โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยืนยันว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจริง แต่ระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของ "การฝึกทหารตามปกติ"
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งว่า มีการทดสอบยิงขีปนาวุธ 3 หรือ 4 ลูก มุ่งหน้าไปทางทะเลเหลือง ข่าวระบุว่า ขีปนาวุธเหล่านั้นคือขีปนาวุธสติกซ์ซึ่งออกแบบโดยรัสเซีย เป็นประเภทยิงจากเรือสู่เรือ และมีพิสัย 46 กิโลเมตร
นอกจากนี้ โฆษกจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือเตือนว่า หากสหรัฐฯยังชักช้าในการแก้ไขความไม่ลงรอยกัน อาจทำให้เกาหลีเหนือชะลอการปิดโรงงานผลิตพลูโตเนียมได้
สำนักข่าวเคซีเอ็นเออ้างคำพูดของโฆษกผู้นั้นซึ่งบอกว่า สหรัฐฯเป็นผู้ขัดขวางความก้าวหน้าของการเจรจา 6 ฝ่าย โดยพยายาม "เรียกร้องอย่างไม่เป็นธรรม"
ที่ผ่านมา กระบวนการปิดโรงงานนิวเคลียร์ดำเนินไปด้วยดี แต่วอชิงตันและเปียงยางกำลังขัดแย้งกันอยู่เรื่องการเปิดเผยข้อมูลนิวเคลียร์
เกาหลีเหนือได้ส่งข้อมูลนิวเคลียร์ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่สหรัฐฯบอกว่า โสมแดงยังไม่เปิดเผยข้อมูลซึ่งต้องสงสัยเกี่ยวกับโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม และวอชิงตันยังกล่าวหาว่า เกาหลีเหนือแพร่กระจายอาวุธให้ซีเรียอีกด้วย
"หากสหรัฐฯยืนยันว่าสิ่งที่ไม่มีนั้นมีอยู่จริง และเลื่อนการแก้ปัญหาเรื่องนิวเคลียร์นี้ ก็อาจเกิดผลกระทบหนักหนาสาหัสต่อการปิดโรงงานนิวเคลียร์..." โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าว
"เราบอกชัดแล้วว่า เราไม่มีโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม เราไม่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านนิวเคลียร์กับประเทศไหน เราไม่เคยฝันจะทำเช่นนั้น จะไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น"
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาซาโอะ โอโคโนงิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีจากมหาวิทยาลัยเคโอ ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า เปียงยางกำลังส่งสัญญาณ 2 อย่าง
สัญญาณแรกส่งให้สหรัฐฯ เพื่อแสดงว่า โสมแดงไม่พอใจที่วอชิงตันมากดดันให้สารภาพเกี่ยวกับโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม รวมถึงความสัมพันธ์กับซีเรีย สัญญาณที่สองเป็นการโต้ตอบอย่างทันควันต่อรัฐบาลชุดใหม่ของเกาหลีใต้ ซึ่งประธานาธิบดีลีเมียงบัค ได้ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนท่าทีให้แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากยิ่งขึ้น
"พวกเขากำลังเตือนไม่ให้รัฐบาลโซลก้าวถอยหลังในสิ่งที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ตกลงกันไว้แล้ว" โอโคโนงิกล่าว
