xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯขน50ล.ดอลล์ปล่อยกู้ในจีนมั่นใจสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า10-15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - แบงก์กสิกรไทยขน 50 ล้านดอลล์ปล่อยกู้เอสเอ็มอีในจีนหลังได้รับใบอนุญาตปล่อยสินเชื่อที่สาขาเซินเจิ้น คาดเริ่มดำเนินได้ในกลางปีนี้ ระบุเป็นภาคธุรกิจที่ใหญ่และยังมีธนาคารในจีนปล่อยน้อย แต่ยังคงต้องมีความระมัดระวังและการบริหารความเสี่ยงที่ดีด้วย ขณะที่สินเชื่อภายในประเทศมั่นใจทั้งปีปล่อยได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 10-15%

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารได้รับใบอนุญาตในการปล่อยสินเชื่อสาขาในประเทศจีนที่เซินเจิ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงกลางปี 2551 ทั้งนี้ ในเบื้องต้นธนาคารเตรียมเงินทุนในการปล่อยสินเชื่อนี้ไว้จำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยวางเป้าหมายเน้นปล่อยให้กับธุรกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) เนื่องจากธนาคารมองว่าธุรกิจกลุ่มดังกล่าวยังมีช่องทางในการเติบโตได้อยู่

ทั้งนี้ ธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศจีนก็ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ และธนาคารในประเทศจีนเองก็ยังเข้าไปรุกการปล่อยสินเชื่อธุรกิจนี้ไม่มากนัก ทำให้ยังมีโอกาสในการปล่อยกู้ได้อีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็จะพิจารณาในด้านปัจจัยหลายอย่างเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยต้องดูถึงประวัติของลูกค้า รวมถึงการร่วมมือกับธนาคารท้องถิ่น และองค์กรต่างๆที่จะให้ข้อมูลของลูกค้าแก่ธนาคารได้ด้วย

ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า เท่าที่ประเมินจากระยะเวลาผ่านมา 2 เดือน คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2551 ของธนาคารน่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของสินเชื่อและรายได้ แต่เนื่องจากสินเชื่อส่วนใหญ่ยังเป็นสินเชื่อระยะสั้น จึงยังไม่สามารถชี้ได้ว่าแนวโน้มของการลงทุนมีทิศทางไปทิศทางใดแล้ว ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)นั้น ธนาคารก็ยังคงดูแลอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีความระมัดระวัง แต่เท่าที่ดูยังไม่มีสัญญาณที่เพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง

"การขยายตัวของสินเชื่อของธนาคารในช่วงต้นปีนี้ ช่วง 2 เดือนแรกของปี ธนาคารมีการขยายตัวของสินเชื่อประมาณ 2% ทำให้คาดได้ว่าการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารทั้งปีน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 10-15%"กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยกล่าว

นายประสารกล่าวอีกว่า ในภาพรวมของเศรษฐกิจหลังจากที่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามารับหน้าที่ 2 เดือนนั้น ถือว่ายังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาถึงผลงานของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามผลักดันงบประมาณต่างๆ ออกมา แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ต้องดูแลหลายอย่าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการใช้จ่ายของภาครัฐหรือเอกชนเท่านั้น

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาให้มีความสมดุล ซึ่งคงจะต้องมีการปรับปรุงในอีกหลายด้าน ทั้งด้านความสามารถในการแข่งขันและโครงสร้างต่างๆ ทางเศรษฐกิจ แต่โดยภาพรวมแล้วปัจจุบันเศรษฐกิจยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น